กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ไอแอม ซี เอ็น เอ็กซ์
กรมสรรพากรเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม SGATAR 2012ระหว่างหน่วยบริหารจัดเก็บภาษีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากร ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะศึกษาด้านการบริหาร
และค้นคว้าทางภาษีอากรแห่งเอเชีย (The Study Group on AsianTax Administration and Research: SGATAR) ครั้งที่ 42 ควบคู่กับการจัดประชุม SGATAR MHTI ครั้งที่ 6 ซึ่งกรมสรรพากร ได้กำหนดให้มีการประชุมดังกล่าวระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2555 ณ โรงแรมแชงกรีลา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการประชุม ของหน่วยบริหาร จัดเก็บภาษี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมุ่งเน้น การเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดเก็บภาษีด้านต่าง ๆ และขณะนี้ กรมสรรพากร พร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพดังกล่าวแล้ว
การประชุมดังกล่าวเป็นผลมาจากการประชุมรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศสมาชิกเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และปัจจุบัน มีสมาชิกทั้งสิ้น 16 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี เขตปกครองพิเศษมาเก๊า มาเลเซีย มองโกเลีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกีนี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยตกลงกันเพื่อให้สมาชิกหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม SGATAR มาแล้วจำนวนทั้งสิ้น 4 ครั้ง คือ การประชุม SGATAR ครั้งที่ 5 ในปี พ.ศ. 2518 ครั้งที่ 13 ในปี พ.ศ. 2526 ครั้งที่ 22 ในปี พ.ศ. 2535 และครั้งที่ 32 ในปี พ.ศ. 2545
อย่างไรก็ดี ในการประชุมครั้งนี้ ได้กำหนดหัวข้อ เพื่อให้สมาชิก ได้นำเสนอแนวความคิดหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ได้แก่ การบริหารจัดเก็บภาษีสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ การแก้ไขข้อพิพาทโดยการเจรจาตกลงร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่
ผู้มีอำนาจ และการตรวจสอบอาญชญากรรมทางภาษี นอกจากนี้ องค์กรระหว่างประเทศ เช่น OECD ADB IBFD CATA AOTCA UNDP ยังได้แสดงความสนใจเพื่อเข้าร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตการณ์อีกด้วย
ดร.สาธิต รังคสิริ กล่าวสรุปว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมที่สำคัญมาก โดยได้รับการตอบรับเข้าร่วมประชุม จากอธิบดีกรมสรรพากรและเจ้าหน้าที่ของทุกประเทศสมาชิก 16 ประเทศ กว่า 200 ท่าน ซึ่งจะทำกรมสรรพากร สามารถนำวิธีการ และแนวทางการบริหารจัดเก็บภาษีแนวใหม่จากการประชุมมาปรับใช้ใน
การปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐานสากล เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เพื่อนำเงินภาษีที่เก็บได้นั้น ไปพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรือง สร้างความสุขให้เกิดแก่ประชาชนในประเทศ อีกทั้งเพื่อสอดคล้อง กับการเตรียมการเพื่อเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 อีกด้วย