KBS ปั้นผลงาน Q3/55 กำไรทะลัก 152 ลบ. ตอกย้ำความมั่นใจรายได้-กำไรปีนี้ ดูดีไม่แพ้ปีก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 15, 2012 11:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--IR network บมจ.น้ำตาลครบุรี หรือ KBS ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง โชว์กำไรไตรมาส 3/55 กว่า 152 ล้านบาท หลังปริมาณส่งออกน้ำตาลเพิ่มขึ้น ด้านผู้บริหาร "อิสสระ ถวิลเติมทรัพย์" ให้ความมั่นใจ รายได้-กำไรปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน งานนี้ผู้ถือหุ้นนอนรอเก็บเงินปันผลเข้ากระเป๋าได้เลย ในขณะที่ปี 2557 กำไรของบริษัทจะเติบก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ เหตุได้อานิงส์โรงไฟฟ้าชีวมวล ดันกำไรพุ่ง 25-30% นายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ KBS งวดไตรมาส 3 ปี 2555 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2555 ) สามารถทำกำไรสุทธิ 152.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111.23 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเนื่องมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 450 ล้านบาท หรือ 35.3% จากปริมาณการส่งออกน้ำตาลให้ลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 56.6% หลังจากเกิดความล่าช้าในกระบวนการขนส่งน้ำตาล ในไตรมาสที่ 2 ทำให้การรับรู้รายได้เลื่อนมาอยู่ไตรมาสที่ 3 มากขึ้น ขณะที่งวด 9 เดือนบริษัทมีกำไรสุทธิ 702.78 ล้านบาท จากตัวเลขผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่า รายได้และกำไรสุทธิของ KBS ในปี 2555 นี้ จะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวมประมาณ 6,160 ล้านบาท และกำไรสุทธิมากกว่า 800 ล้านบาท แม้ว่าปริมาณการหีบอ้อยจะลดลงไปประมาณ 10% อยู่ที่ 2.5 ล้านตัน แต่บริษัทฯได้ปรับตัวโดยการเน้นไปผลิตน้ำตาลทรายขาวเพื่อการส่งออก และราคาขายต่างประเทศเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าปีก่อน โดยในปัจจุบัน KBS มีสัดส่วนการส่งออก 70% และขายในประเทศ 30% "ในไตรมาสที่ 3 เรามียอดส่งออกน้ำตาล ที่มีความล่าช้ามาจากไตรมาสที่ 2 ทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นมากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้เรายังมีน้ำตาลที่รอส่งมอบไปยังต่างประเทศในไตรมาส 4 อีกกว่า 30,000 ตัน ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่า ผลประกอบการของ KBS ในปีนี้ จะไม่ต่ำกว่าปีก่อน ดังนั้นเงินปันผลของเราในปีนี้ ก็น่าจะไม่น้อยกว่าปีก่อนที่จ่ายปันผลไป 0.60 บาทต่อหุ้นด้วย โดยได้มีการจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.20 บาทต่อหุ้น และจะมีการจ่ายอีกครั้งในงวดปลายปีนี้" นายอิสสระกล่าว นายอิสสระ กล่าวอีกว่า ในปี 2557 จะได้เห็นการเติบโตของกำไรสุทธิของ KBS อย่างมีนัยสำคัญประมาณ 25-30% จากโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัทย่อยที่ KBS ถือหุ้น 99.99% กำลังการผลิต 35 เมกกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ พร้อมขายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ประมาณเดือนมกราคม 2557 โดยในขณะนี้ทุกอย่างยังสามารถเดินหน้าตามกำหนดการที่วางเอาไว้ ในขณะที่ปี 2556 ผลการดำเนินงานของ KBS จะกลับมาเติบโตได้ในระดับปกติ โดยมีอัตราการขยายตัว 10-15%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ