กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--บล. เอเซีย พลัส
นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ในฐานะผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนและผู้ดูแลสภาพคล่องของ EBANK เปิดเผยว่า การเสนอขาย IPO ของกองทุนเปิด KTAM SET Banking ETF Tracker (EBANK) อ้างอิงดัชนีหมวดธุรกิจธนาคาร หรือ SETBANK Index ที่เปิดจอง IPO เมื่อวันที่ 1-9 พ.ย. 55 ประสบความสำเร็จเกินคาด ทั้งในแง่ของยอดจองซื้อ IPO รวมทั้งหมด 616 ล้านบาท จากที่คาดไว้ 300-400 ล้านบาท และจำนวนผู้จองซื้อทั้งหมดประมาณ 2,500 ราย ซึ่งประกอบด้วยผู้ลงทุนทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและสถาบัน ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการผนึกกำลังของผู้จัดการกองทุน บลจ. กรุงไทย (KTAM) ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ได้แก่ บล. เอเซีย พลัส (ASP) และ บล. เคที ซิมิโก้ (KT-Zmico) และผู้ขายหน่วยลงทุน ได้แก่ บล. ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) บล. คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) บล. ซีไอเอ็มบี อินเตอร์เนชั่นแนล (CIMBS) บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (UOB KayHian) และ ธนาคารกรุงไทย (KTB) แม้ระยะเวลาการจอง IPO จะสั้นเพียง 7 วันทำการ แต่ด้วยช่องทางการจองที่มีหลายช่องทางและครอบคลุมทั่วประเทศผ่านบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยถึง 6 แห่ง และ ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงไทย จึงช่วยอำนวยความสะดวกรวดเร็วให้แก่นักลงทุน
“ช่วงวันที่ 1-9 พ.ย. 55 ของการเปิดจอง IPO มีนักลงทุนทั้งที่เป็นลูกค้าของ บล. เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์อื่น โทรเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอจองซื้อ EBANK เป็นจำนวนมากหลายร้อยราย บางส่วนยังไม่มีบัญชีซื้อขายหุ้น แต่ต้องการเปิดบัญชีใหม่เพื่อจองซื้อ EBANK โดยเฉพาะ สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสให้กับบริษัทในการขยายฐานลูกค้าด้วย และยังช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทได้ในอนาคต” นางสาวนฤมล กล่าว
EBANK เป็นกองทุน ETF ที่มีลักษณะเป็นกองทุนรวมเปิด และสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนที่จองซื้อ IPO สามารถเริ่มซื้อขาย EBANK บนกระดานได้ในวันอังคารที่ 20 พ.ย. 55 นี้เป็นวันแรก โดย ASP ได้เตรียมระบบงานต่างๆในการทำหน้าที่ผู้ดูแลสภาพคล่องให้กับ EBANK นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าสามารถซื้อขาย EBANK บนกระดานได้ตามราคาที่ต้องการและมีสภาพคล่องตลอดเวลา ซึ่งราคาต่อหน่วยของ EBANK ที่ผู้จองซื้อช่วง IPO ได้รับคือ 4.9792 บาท คำนวณจากราคาปิดของ SETBANK Index ณ 12 พ.ย. 55 หารด้วย 100 รวมกับค่าธรรมเนียมการจอง IPO และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT7%)
ในปีหน้า ASP ยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อื่นๆอีกมาก ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ กองทุน ETF รูปแบบใหม่ๆที่ Active มากยิ่งขึ้น อาทิเช่น กองทุน ETF ที่มีลักษณะเป็น Inverse (ขึ้นลงทิศทางตรงข้ามกับหลักทรัพย์อ้างอิง) หรือ Leverage (ขึ้นลงทิศทางเดียวกับหลักทรัพย์อ้างอิง แต่ Gearing มากกว่า ในต่างประเทศ ขึ้นลง 2-3 เท่า) รวมทั้ง กองทุน ETF อ้างอิงดัชนีหมวดอื่นๆ เช่น พลังงาน (Energy) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) อาหารและเครื่องดื่ม (Food) พาณิชย์ (Commerce) ภายในต้นปี 2556 นี้