กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
วิสแพค ผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการให้บริการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร เตรียมขยายธุรกิจในประเทศพม่าหลังเยี่ยมชมโครงการทวายและพบรัฐมนตรีเศรษฐกิจพม่าเชื่ออสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงย่างกุ้งกำลังเติบโตตามความต้องการพัฒนาประเทศ คาดซื้อที่ดินตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมทวายและเตรียมหาพาร์ทเนอร์ร่วมทุนและตั้งสำนักงานในเมืองย่างกุ้งหลังจากที่บุกเบิกธุรกิจต่างประเทศในกัมพูชามาเป็นระยะเวลาสิบปี
นายจรัล เดชประทุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิสแพค จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากได้เดินทางไปศึกษาดูงานโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่าร่วมกับกลุ่มนักธุรกิจไทยรวมถึงได้มีโอกาสพบกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของพม่าคือรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการคลัง มองว่าโครงการทวายนี้น่าจะมีอนาคตที่ดี แม้ปัจจุบันถนนที่เชื่อมจากประเทศไทยไปยังโครงการยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย แต่เชื่อว่าภายหลังจากโครงการก่อสร้างเสร็จสิ้นจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยอย่างมาก
สำหรับบริษัทฯเองหลังจากที่ได้เยี่ยมชมโครงการทวายแล้วมีความสนใจที่จะเข้าไปซื้อที่ดินในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมของโครงการโดยอาจจะเป็นโรงงานเคมีหรือวัตถุดิบเพื่อสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทในประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทฯ ยังเตรียมแผนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่สองภายหลังจากเข้าไปบุกเบิกตลาดนอกประเทศที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยปัจจุบันธุรกิจที่กัมพูชายังคงดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
“เรากำลังมองโอกาสขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในงานก่อสร้างรวมถึงวัสดุก่อสร้างในประเทศพม่า บริษัทฯเคยมีประสบการณ์ลงทุนในต่างประเทศมาก่อนจึงมองเห็นโอกาสว่าอสังหาริมทรัพย์ในพม่า โดยเฉพาะกรุงย่างกุ้งจะมีโอกาสขยายตัวเหมือนกรุงพนมเปญ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะโรงแรมตอนนี้มีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอย่างเยอะมาก จึงถือเป็นโอกาสอันสำคัญของเราที่จะนำเทคโนโลยีและความชำนาญที่มีอยู่ในประเทศไทยไปขยายธุรกิจในต่างแดน” นายจรัลกล่าว
ทั้งนี้รูปแบบการลงทุนจะเป็นการหาพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นมาเป็นผู้ร่วมทุนตามกฎหมายการลงทุนของประเทศพม่า ซึ่งเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาลงทุนได้มากขึ้น รวมถึงปัจจุบันมีหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน (MIC) ซึ่งคล้ายกับบีโอไอของไทย นอกจากดูแลเรื่องการลงทุนของต่างชาติแล้วยังให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอีกด้วย เร็วๆนี้บริษัทจะวางแผนที่จะเดินทางไปร่วมออกบูธในงานจับคู่ธุรกิจและแสดงสินค้าที่ย่างกุ้ง ถ้าหากสามารถหาพันธมิตรท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือได้ก็จะทำการเปิดธุรกิจทันทีโดยจะมีการจัดตั้งสำนักงานในพม่า
นายจรัล กล่าวต่อว่าในฐานะนักธุรกิจอยากให้ผู้ประกอบการชาวไทยมองโครงการทวายเป็นโอกาส ส่วนตัวมองว่าโครงการนี้จะสามารถแจ้งเกิดได้แน่นอน จากการที่ได้ร่วมทริปกับเพื่อนนักธุรกิจคนไทยด้วยกัน ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ลงทุนในทวายรวมถึงทำธุรกิจในพม่า เพราะศักยภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจของพม่าในตอนนี้เอื้อต่อนักธุรกิจไทยเป็นอย่างยิ่ง นายจรัลกล่าว