กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,723 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,730 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.70 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,950บาท กับ 25,050 บาท และกลับมาปิดที่ 24,950 บาท กับ 25,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,396 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,354 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 112 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4% แบบ 10 บาท ลดลง 4 % Silver Futures 0% GFZ12 ปิด 25,340 บาท และ GFG12 ปิด 25,470 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,340 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,470 บาท SVZ12 ปิดที่ 1016 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 19.70 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,734.40 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver เพิ่มขึ้น 81.90 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.189 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,342.19 ตัน ( ขายออก 0.43 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 86.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 207.65 จุด ปิดที่ 1,2795.96 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.3 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ MarketWatch
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 วัน ลบภาพราคาที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากความคาดหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff ได้ และนักลงทุนต่างมีมุมมองเป็นบวกถึงการประนีประนอมในเรื่องภาวะ Fiscal Cliff อาจบรรลุข้อตกลงก่อนสิ้นปีนี้ โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตได้ร่วมประชุมกับประธานาธิบดีบารัก โอบามาที่ทำเนียบขาว เพื่อหารือถึงการประนีประนอมในเรื่อง Fiscal Cliff ที่อาจกระตุ้นให้เกิดการตัดลดการใช้จ่ายแบบอัตโนมัติจำนวน 6.07 แสนล้านดอลลาร์ รวมไปถึงการเพิ่มภาษี ซึ่งพรรครีพับลิกัน ได้กล่าวว่า พร้อมยอมรับที่จะปรับเพิ่มภาษีให้สูงขึ้นหากเกิดขึ้นพร้อมกับการตัดลดค่าใช้จ่าย
แสตนดาร์ด แบงก์ กล่าวว่า กลุ่มโลหะมีค่าต่างๆ ได้รับผลประโยชน์จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากมีการรายงานเกี่ยวกับการประชุมของนายบารัก โอบามาและผู้นำสภา นายโบห์เนอร์ ในการเจรจาเรื่องงบประมาณได้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้เพิ่มความกังวลว่า หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff ได้อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ ได้แก่ Existing Home Sales ประจำเดือนตุลาคมออกมาที่ระดับ 4.79 ล้านยูนิต มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.76 ล้านยูนิต และมากกว่าเดือนที่ผ่านมาที่ระดับ 4.69 ล้านยูนิต
สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 19.7 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,734.4 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 25% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 250 วัน
การปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ดูเหมือนจะท้าทายให้ราคาไปทดสอบแนวต้านที่สำคัญของเส้นค่าฉลี่ย 50 วันประมาณ 1,742 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่ราคาทองคำไม่สามารถฝ่าขึ้นไปได้มาเกือบ 1 เดือนแล้ว
นายจอร์จ เจโร รองประธาน RBC Global Futures กล่าวว่า มีการทำ Short Covering มากขึ้น และกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ขับเคลื่อนทองคำในบริเวณทางเทคนิคที่เป็นบวกก่อนหน้านี้เหนือระดับ 1,730 เหรียญ อย่างไรก็ตาม อาจเห็นราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,700 — 1,750 เหรียญในขณะนี้ เนื่องจากยังคงเหลือระยะเวลาอีก 27 วันสำหรับการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff
สำหรับประเด็นความสนใจเรื่อง Fiscal Cliff นั้น กลุ่มผู้จัดการฝ่ายการเงินกำลังเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆ เนื่องจาก ณ ขณะนี้พวกเขาได้มีภาพที่เป็นบวกในเรื่องภาษี และนโยบายอื่นๆ ของทำเนียบขาว หลังจากที่นายโอบามาได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ทั้งนี้ สถานะของความเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยของราคาทองคำอาจส่องสว่างมากขึ้น ในกรณีที่เกิดความล้มเหลวทางการเจรจาและทำให้การเมืองเป็นอัมพาต โดยความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตทางการคลังครั้งแรกในปีที่ผ่านมา และการที่สหรัฐถูกดาวน์เกรดส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,920.3 เหรียญในเดือนกันยายน
ในขณะที่ดูเหมือนว่า สภาคองเกรสจะไม่อนุญาตให้มีการเพิ่มภาษีและตัดลดค่าใช้จ่ายอันเนื่องมากจากผลกระทบในอนาคต ฟิทช์ เรตติ้งส์ ได้กล่าวว่า ภาวะ Fiscal Cliff ของสหรัฐอาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และผลักดันให้อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10%
ลอนดอน เบส โบรกเกอร์ ไทรแลนด์ เมเทิลส์ กล่าวในรายงานว่า ภาวะ Risk On ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาทองคำมีการทรงตัวมากขึ้นหลังจากปรับตัวขึ้นไป 20 เหรียญ โดยปริมาณการซื้อขายในสัปดาห์นี้อาจเบาบางเนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐในวันพฤหัสบดีที่จะมาถึง
นอก จากนี้ ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยู โรจากสัญญาณเชิงบวกที่ผู้กำหนดนโยบายของอีซีบีรายหนึ่งได้กล่าวว่า กลุ่มผู้นำยุโรปอาจมีการตกลงกันในปลายสัปดาห์นี้สำหรับระยะเวลา 2 ปีในการจัดหาเงินทุนให้แก่กรีซ แต่ยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะสั้น โดยยูโรกรุ๊ปจะมีการประชุมกันในกรุงบรัสเซลส์วันนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะหารือถึงเรื่องระยะเวลาในการช่วยเหลือทางการเงินแก่ กรีซ ประกอบกับมีการช่วยเหลือเพิ่มเติมในการตัดสินใจใดๆ ภายหลัง อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้กรีซได้อนุมัติยอมรับกฎหมายในการบังคับใช้เรื่องเป้าหมายทางงบ ประมาณ และทำให้ภาคเอกชนมั่นใจว่ากรีซสามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งเป็นการลดระดับความตึงเครียดสำหรับกลุ่มเจ้าหนี้ก่อนการประชุมกลุ่ม รัฐมนตรีคลังยูโรโซน
อีกทั้ง ราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างอิสราเอลและฮามาสในเขตฉนวนกาซา โดยนักวิเคราะห์ต่างๆ กล่าวว่า การเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยบวกกับราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลบวกต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน
ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน ETFs ปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้สู่ระดับ 75.406 ล้านออนซ์ แต่ยังคงไม่ห่างไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 75.421 ล้านออนซ์ที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในช่วงเช้านี้ ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยยังคงราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% ของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามสกุลเงินดอลลาร์ได้รับอิทธิพลอย่างหนักหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลฝรั่งเศส ลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa1 จากระดับสูงสุดที่ Aaa เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ มูดีส์ยังได้ให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส เป็น เชิงลบ ซึ่งบ่งชี้ว่ามูดีส์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอีกในวันข้างหน้า โดยความเคลื่อนไหวของมูดีส์ในครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของฝรั่งเศสลงจากระดับสูงสุดเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ใน คืนนี้เวลา 00.05 น. นายเบน เบอร์นันเก ประธานเฟดมีกำหนดการแถลงในหัวข้อ “การฟื้นฟูของสภาพเศรษฐกิจและนโยบายทางเศรษฐกิจ” ที่สมาคมเศรษฐกิจของนิวยอร์ก โดยคาดการณ์ว่าจะมีการกล่าวปกป้องนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบพิเศษ ถึงแม้ว่าจะมีข้อกังขาจากกลุ่มตลาด แต่เบอร์นันเกก็จะยังรักษารูปแบบนี้ต่อไป อย่างไรก็ตาม นายจิม โอ ซัลลิแวน ประธานนักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐประจำสำนักความถี่ทางเศรษฐศาสตร์ระดับสูงเผย ว่า นายเบอร์นันเกน่าจะทำการเน้นย้ำถึงนโยบายทางการเงินของเขาอีกครั้งที่จะยัง คงเป็นการตอบรับที่สูงอยู่และจะยังเป็นวิธีที่แม้ว่าหลังจากมีการฟื้นฟูที่ แข็งแกร่งแล้วก็ตาม
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.69 M ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.79 M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.89 M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.87 M
- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.87 M คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.84 M
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่การซื้อขายในตลาดเอเชีย โดยมายืนอยู่เหนือระดับ 1,720 เหรียญ และค่อยๆ ทรงตัวบริเวณ 1,725 เหรียญ ก่อนที่จะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นในตลาดลอนดอน และปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาด COMEX จนสามารถทะลุระดับ 1,730 เหรียญไปทำจุดสูงสุดประมาณ 1,735 เหรียญ ในเชิงของปัจจัยที่มากระทบต่อราคาทองคำมาจากข่าวความตึงเครียดในตะวันออก กลางจากการที่มีการปะทะกันบริเวณฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานพุ่งขึ้นกว่า 2 เหรียญ ขึ้นมาปิดตลาด NYMEX ที่ระดับ 87.99 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT)ปิดตลาดที่ระดับ 111.7 เหรียญ/บาร์เรล ทำให้เป็นตัวฉุดดึงราคาทองคำให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดมีการคาดการณ์ว่า อีซีบีจะอนุมัติเงินกู้ให้กรีซประมาณ 4.4 พันล้านเหรียญโดยจะมีการประชุมของยูโรกรุ๊ปในวันนี้ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เมื่อวานค่าเงินยูโรปรับตัวสูงอย่างรวดเร็วขึ้นไปทะลุระดับ 1.2800 ดอลลาร์/ยูโร โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ1.2820 ดอลลาร์/ยูโรโดยประมาณ ในขณะที่ค่าเงินบาทเองเมื่อวานปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจากระดับ ประมาณ 30.73 บาท/ดอลลาร์ โดยหลุดระดับ 30.70 บาท/ดอลลาร์ลงมา ภาพรวมทำให้ราคาทองคำในรูปของเงินบาทปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนักเนื่องจาก เมื่อวานเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 30.67 บาท/ดอลลาร์ ราคาทองคำในเชิงของเทคนิคเริ่มกลับมายืนอยู่เหนือระดับ 1,730 เหรียญได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นแนวต้านที่สำคัญก่อนหน้านี้และมาเป็นจุดสูงสุดในการปรับตัวสูงขึ้น ทางเทคนิคอีกครั้งว่าจะเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นหรือไม่ กราฟของราคาทองคำในรายวันเริ่มมี Oscillator ที่ตัดขึ้น MACD เริ่มใกล้โผล่พ้นเส้นที่ระดับศูนย์ ในขณะที่กราฟในรายชั่วโมงทุกตัวเป็นสัญญาณในทิศทางขาขึ้นหมดแล้ว เหลือเพียงกราฟรายวันเท่านั้น หมายความว่าภาพรวมถ้าราคาทองคำสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,730 เหรียญได้ทั้งวัน จะส่งผลให้กราฟรายวันและ MACD ส่งสัญญาณขาขึ้น หมายความว่าราคาทองคำจะเข้าสู่ขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ดี ระดับราคาบริเวณ 1,735 — 1,738 เหรียญถือว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญที่ฝ่าไม่ได้มา 2 ครั้ง ถ้าราคาทองสามารถทะลุ 1,738 เหรียญได้ก็น่าจะเป็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในวันนี้ราคาจะมีการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,725 — 1,738 เหรียญ ยังแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น โดยถือ Long Position เป็นหลัก Stop Loss อยู่บริเวณ 1,705 เหรียญ
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,450 บาท
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,410 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,610 บาท
Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 990 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,030 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,725 — 1,738 เหรียญ โดยเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น ให้ถือ Long Position เป็นหลัก เข้าซื้อครั้งแรกบริเวณ 1,728 เหรียญเป็นการลงทุนแบบเข้าเร็วออกเร็ว
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ยังคงเป็นการซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว Portfolio 60%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
เป็นการทยอยซื้อสะสมเช่นเดียวกัน Portfolio 60%
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง