ไฟว์สตาร์ สัมภาษณ์ “อุ้ม” ลักขณา วัธนวงส์ศิริ รับบทเป็น กันตา ในอุกกาบาต

ข่าวทั่วไป Friday October 1, 2004 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
สัมภาษณ์ “ อุ้ม ” ลักขณา วัธนวงส์ศิริ รับบทเป็น กันตา
- อยากให้เล่าถึงบทบาทที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องอุกกาบาต ?
ในเรื่องนี้อุ้มรับบทเป็น “ กันตา ” เป็นพี่สาวของการินคือ พี่อู: ภาณุ ในเรื่องตอนแรกๆ จะยังไม่ตาย ในเรื่องนี้พี่อู กับ พี่ต็อก จะเกิดพร้อมกันตอนที่อุกกาบาตตก แต่ว่าแม่จะตายไป กันตากับการินก็จะถูกมิชชั่นนารีฝรั่งเอาไปเลี้ยงจนเราโตขึ้น ฝรั่งคนนี้ก็จะข่มขืนแต่ยังไปทันได้ข่มขืนกันตาก็จะต่อสู้แล้วก็หนีแล้วพลัดตกตึกลงมาแล้วก็ตาย พอตายแล้วทีนี้การินน้องชายก็เสียใจและก็โกรธมากที่ฝรั่งคนนี้มาทำให้พี่สวาวตาย เขาก็จะแค้นมา คือในเรื่องพี่อูจะร้ายมากเขาก็จะใช้พลังจิตชุบชีวิตพี่สาวของตัวเองขึ้นมาจากความตาย โดยใช้เถ้าอุกกาบาตทาตัวคือ กันตาจะต้องลงไปคลุกตัวเองอยู่ในหลุมอุกกาบาตเพื่อให้ร่างกายไม่เน่าสลายไป แต่ถ้าวันใดที่เถ้าอุกกาบาตหลุดวันนั้นร่างกายก็จะเน่า ในเรื่องอุ้มจะเหมือนครึ่งคน ครึ่งผี คือตัวกันตารู้อยู่แล้วว่าตัวเองตายไปแล้วและก็ไม่อย่างที่จะฝืนธรรมชาติให้มีชีวิตอยู่ แต่ตัวการรินน้องชายไม่ยอมก็เลยยื้อเอาไว้ ตัวกันตาจะเป็นคนที่มีอารมณ์เศร้าๆ อยู่ตลอด จะน่าสงสาร และจะคอยห้ามน้องไม่ให้ไปฆ่าคน ในเรื่องการินเขาจะจัดละครเล่ขึ้นมาเพื่อที่จะอาศัยตรงนี้เป็นสื่อเพื่อฆ่าคน แต่ตัวกันตาเองไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วมตรงนี้แต่ก็ขัดไม่ได้ ต่อมาวันหนึ่งหมอโอมก็เข้ามาในป่า และก็ตกลงไปในหลุมอุกกาบาต ก็มาเจอกับกันตาที่นอนอยู่ในหลุม และช่วงนั้นเป็นช่วงที่หมอโอมได้สลับบุคลิกของคนลามกเขาจะเข้ามาข่มขืนกันตา และพอสักพักเขาก็จะมีบุคลิกเปลี่ยนเป็นอีกคนปกติคล้ายๆ คนคุ้มดี คุ้มบ้า เขาเห็นกันตาเขาก็จะตกใจ ทีนี้เราก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง จากกนั้นกันตาก็จะสนิทกับหมอโอม ทีนี้พอการินรู้เรื่องว่าหมอโอมมายีงกับพี่สาว ก็จะเข้ามาทำร้าย แต่กันตาก็ไม่ยอมเพราะได้รู้สึกหลงรักหมอโอมก็เลยช่วยเหลือหมอโอม ก็พาหนีการิน จนกระทั่งพาหนีไปลงน้ำ พอลงน้ำไปเถ้าอุกกาบาตก็จะหลุดกันตาก็จะต้องเน่าเปื่อยและก็กำลังจะตาย หมอโอมจะสงสารจึงพาไปที่หลุมอุกกาบาต ทีนี้การินก็ตามมาทันก็ต่อสู้กัน แล้วก็มีลูกอุกกาบาตตกลงมาอีก แล้วกันตาก็โดนสะเก็ดของอุกกาบาตแล้วก็ตาย คือเรื่องนี้สรุปว่ามีอุกกบาตตก 2 รอบ คือรอบแรกกับรอบสุดท้าย
- ตัวกันตามีพลังจิตด้วยไหม ?
ไม่มีพลังจิต แต่จะดูน่ากลัวเพราะอุ้มต้องทาตัวดำ
- ใช้เวลาถ่ายทำนานไหม?
นานค่ะ ประมาณ 3-4 เดือน อุ้มจะอยู่ในป่าตลอด ในถ้ำ เรื่องนี้มีฉากที่อุ้มสวยน้อยมากๆ นอกนั้นจะต้องตัวดำตลอด
- ทำไมถึงอยากเล่นเรื่องนี้ ?
อุ้มว่ามันน่าสนใจนะ และมันก็คงจะหาได้ยากด้วยที่เล่นแบบไม่ต้องสวย มันท้าท้ายดีนะคะ ที่เราต้องทาตัวดำทั้งเรื่อง เล่นไปแล้วก็คงมีคนสงสัยนะว่าทำไมถึงกล้าเล่น และอีกอย่างมันก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับอุ้ม และอุ้มก็ไม่อยากให้คนดูติดภาพที่ว่าอุ้มจะต้องเซ็กซี่ คืออุ้มสามารถทำอย่างอื่นก็ได้ เรื่องนี้จะไม่เห็นภาพเซ็กซี่ของอุ้มเลยมันจะเป็นอีกแบบหนึ่งเลย เรื่องนี้อุ้มก็จะไม่ค่อยมีบทพูดนะ แต่มันจะใช้สีหน้าและอารมณ์มากกว่า คือหน้าก็จะดำอยู่แล้วเราก็ต้องพยายามแสดงให้ได้ ให้คนดูรับรู้ได้นะว่าตอนนี้เราอารมณ์ไหน ก็นับว่ายากค่ะ
- เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกับคุณบัณฑิตใช่ไหม?
ใช่ค่ะ เป็นเรื่องแรกที่ทำงานร่วมกับอาบัณฑิตค่ะ
- เป็นยังไงบ้าง ? ได้ข่าวคุณบัณฑิตจะเข้มเหมือนกันนะ
ใจดีค่ะคือแรกๆก็ได้ยินมานะว่าอาบัณฑิตจะดุ ก็เกร่งๆ อยู่เหมือนกันแต่พอเราได้มาทำงานกับอา รู้เลยค่ะว่าอาบัณฑิตไม่ดุเลย อาใจดีมากในการทำงานร่วมกันอุ้มจะคอยถ้าอาตลอดเมื่อเวลาที่เราไม่เข้าใจ อาบัณฑิตจะคอยบอก และสอน คอยอธิบายเวลาทำงานอุ้มจะสบายใจ และเราก็เต็มที่ แต่ว่าถ้าฉากไหน หรือ ซีนไหนที่ไม่ได้นิดเดียวเขาก็จะไม่เอาเลย ก็ต้องถ่ายกันใหม่ คืออาบัณฑิตจะพิถีพิถันมาก ตรงนี้อุ้มว่ามันดีนะ และอีกอย่างอุ้มก็มีความประทับใจในตัวอาบัณฑิตอยู่แล้ว และพอได้มาทำงานกับอาอุ้มก็ยิ่งรู้สึกดี จะถ่ายใหม่กี่ครั้งกี่หน อุ้มก็โอเค.นะอยากให้งานออกมาดีด้วยค่ะ
- ก่อนรับเรื่องนี้รู้ก่อนไหมว่าต้องตัวดำ และที่บ้านว่าอย่างไรกันบ้าง ?
รู้ค่ะ อุ้มก็ยินดีนะ ส่วนที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณพ่อบอกเลยว่าได้เล่นหนังของอาบัณฑิตสุดยอดแล้ว ถึงเราจะต้องตัวดำ มันก็ต้องมีเหตุผลที่ทำให้เราต้องเป็นอย่างนั้น ไม่งันเขาก็จ้างคนอื่นก็ได้ ใครก็ได้ เพราะทาตัวดำมันไม่ต้องเห็นหน้าตาที่แท้จริง เขาต้องมีเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกอุ้ม ก็จงภูมิใจเถอะ คุณพ่อบอกกับอุ้มแบบนี้
- แล้วคุณบัณฑิต เคยบอกไหมว่าทำไมถึงเลือกอุ้ม ?
ไม่เคยบอกค่ะ บอกแต่ว่าอุ้มดำแล้วสวยกว่าตอนขาวๆ แบบนี้อีก อีกอย่าง อุ้มจะหน้าคล้ายๆ พี่อูที่เล่นเป็นการิน เหมาะสมที่จะเล่นเป็นพี่น้องกันและก็อาจะบอกอีกว่าอุ้มเวลาตาเศร้าก็จะดูเศร้า แต่เวลาทำตาดุก็จะดูดุตรงนี้ด้วยมั้งที่ตรงกับคาแร็คเตอร์ของกันตา
- แล้วมีผลกระทบอะไรบ้างไหม? กับคนรอบข้างเช่น เพื่อนๆ พอรู้ว่าเราเล่นหนังต้องทาตัวดำขนาดหนัก
ก็มีบ้างนะคะ เพื่อนจะบอกเลยว่าเล่นไปได้ยังไง คิดดีแล้วหรือ ? ตัวดำขนาดนั้น อย่างตอนที่กำลังถ่ายทำมีพี่ๆ นักข่าวมาที่กอง เขาก็ตกใจกันนะ เขาจำอุ้มไม่ได้ มันดำมากและมันก็น่ากลัว ไม่สวยเลย ตอนถ่ายมีเด็กมานั่งดูอุ้ม ยังร้องไห้เลย บางทีอุ้มก็ยังกลัวตัวเองเลยนะ ถ่ายตอนกลางคืนอุ้มจะไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำกลัวตัวเอง
- ใช้เวลาในการทาตัวดำนานแค่ไหน?
ประมาณ 2-3 ชม.ได้ และมันก็ลำบากมากอุ้มไม่สามารถหยิบจับอะไรได้เลยเพราะสีมันจะหลุดลอก ต้องอยู่เฉยๆ และเวลาล้าง ยากมากอุ้มต้องให้คุณแม่เข้ามาช่วยขัดให้เลยคือสีมันติดทนนานมากๆ และยิ่งโดยเฉพาะที่หน้าพี่เขาทา 3 ชั้น จะลงลองพื้นธรรมดาก่อน แล้วถึงลองพื้นสีดำมันจะเหมือนกีวี ดำมากๆ เสร็จแล้วก็ลงด้วยแป้งฝุ่นสีดำอีก คิดดูซิ กว่ามันจะล้างออกหมดมันยากมาก มันจะเหนียวๆ ด้วยและอุ้มก็เป็นคนที่หน้าแพ้ง่ายมาก ถ่ายหนังเรื่องนี้เสร็จหน้าจะเป็นอุกกาบาตจริงๆ อุ้มจะหาหมอทุกอาทิตย์
- ตอนทำงานเจออุปสรรคอะไรบ้างไหม?
ก็จะเจอฝนตกค่ะ คือเวลาอุ้มไป ก่อนจะเข้าฉากอุ้มจะแต่งดำ พอแต่งเสร็จฝนตกอุ้มก็ทำอะไรไม่ได้ โดยน้ำไม่ได้เดี๋ยวสีหลุด อุ้มก็ไม่ได้ถ่ายต้องนั่งรอฝน นั่งๆ อยู่ก็จะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนประหลาด
- เป็นเรื่องแรกที่ร่วมงานกับ อู:ภาณุ เป็นยังไงบ้าง
ที่จริงอุ้มไม่ได้ร่วมงานกับใครเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก อย่างพี่อู อุ้มจะรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นพี่ชาย อยู่ในกองเขาจะเรียกกันนะว่า 2 พี่น้อง คือหน้าเราคล้ายๆ กันด้วยมั้ง และอุ้มกับพี่อูเราจะสนิทกัน พี่อูเขาก็จะสนิทกับคุณแม่อุ้มด้วย เขาจะรักเป็นผู้ชายใจดี มีอะไรก็จะคอยช่วยอุ้มตลอด อย่างช่วยใส่คอนแทรกเลนส์ให้ เพราะอุ้มใส่ไม่เป็น คือในเรื่องอุ้มจะใส่คอนแทรกเลนส์สีเทา พี่อูจะใส่สีเขียว
- ก่อนหน้านี้อุ้มมีผลงานอะไรบ้าง
ก็มีเรื่องตำนานกระสือ และมีละครทางไอทีวี และตอนนี้กำลังทำงานเพลงอยู่ เป็นของค่ายรถไฟดนตรี เป็นงานเพลงแนวป็อบ-แดนส์ ตอนนี้กำลังทำอยู่ค่ะ ปลายปีนี้ก็น่าจะได้ฟังกัน ตอนนี้อุ้มจะมีงานแน่นๆพอสมควรและก็กำลังจะจบก็ทำทรีซีทด้วยก็จะเหนื่อยๆ เหมือนกัน แต่ก็ดีใจนะใกล้จะจบแล้ว
- การที่อุ้มอยู่ในวงการแสดงก็ส่งผลดีให้กับอุ้มในเรื่องของการเรียนด้วยรึเปล่า?
อย่างอุ้มเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดง งานในวงการบันเทิงส่งผลโดยตรงเลย เพราะเราจะได้เปรียบนะ ได้เลยของจริง ที่เขาทำกัน อย่างอุ้มกำลังทำทรีซีทอุ้มรับหน้าที่เขียนบท ตรงนี้อุ้มก็เอาประสบการณ์เข้ามาปรับใช้ด้วยได้
- ในหนังเรื่องนี้มีฉากไหนที่เรารู้สึกประทับใจ
ฉากที่คุยกับพี่ต็อกตอนที่เขามาเจออุ้มนอนอยู่ในหลุมอุกกาบาต ตอนมันเป็นซีนอารมณ์ เราต้องเล่าให้เขาฟังว่าเราเป็นอะไร ทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ ฉากนี้จะเป็นฉากที่เศร้ามาก และเราก็รู้ตัวดีว่าเรากำลังจะตาย และที่จริงเราก็ไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ แต่น้องชายเรายื้อเอาไว้ และเราก็ไม่อยากให้พี่ต็อกเขากลัวเรา และเชื่อว่าเราไม่น่ากลัว แต่ถ้าเป็นฉากที่ตื้นเต้น ก็จะเป็นฉากที่ต้องตกตึกลงมาตอนที่กำลังจะโดนข่มขื่น คือฉากนี้อุ้มต้องเล่นเอง เพราะอาบัณฑิตต้องการถ่ายให้เห็นสีหน้าของอุ้มตอนที่อุ้มตกตึก อุ้มก็ไม่เคยเล่นอะไรที่ลักษณะแบบนี้นะ มันต้องหงายหลังตกด้วยนะมันก็น่ากลัว ถึงแม้ว่าทีมงานจะมีการเตรียมความพร้อมแล้วอย่างดี อุ้มก็ยังกลัว ตึกก็จะสูงประมาณ 3 ชั้น น่ากลัวมาก อุ้มไม่ซ้อมเลย พี่สตั้นเขาก็จะสอนวิธีตกและก็จะให้อุ้มซ้อมก่อน อุ้มบอกเลยว่าไม่ซ้อมดีกว่าถ่ายจริงตกจริงเลย ก่อนตกอุ้มจะร้องไห้เลยนะ ทำใจอยู่นานเหมือนกัน ตอนซ้อมอาก็จะบอกคิวว่าจะต้องหนียังไง ตกยังไง แล้วการที่เราหงายหลังลงมันน่ากลัวกว่าเอาหน้าลงนะ เพราะมันมองไม่เห็น
- ตอนตกลงมาเจ็บไหม?
เจ็บค่ะ จมูกกระแทกเจ็บมาก คือเราต้องตีลังกาด้วยมันไม่ใช่ว่าหงายอย่างเดียว เราจะต้องดีดตัวเพื่อให้สามารถตีลังกาลงมา แล้วลงมาในท่านอนหงาย พี่สตั้นเขาทำให้ดูก่อน ดูมันง่ายมากนะ แต่พอเราทำยากมากๆ ซ้อมคิวนี้กันเป็นชั่วโมงเลย บอกได้เลยว่าเรื่องนี้โหดมาก คุณแม่ก็มาช่วยลุ้นอยู่ด้วยว่าเราจะทำได้ไหมแต่คุณแม่เองก็ไม่กล้าดูอีกเสียวแทน
- สรุปว่าฉากนี้อุ้มถ่ายกี่เทค ?
ตั้งใจมากเลยนะว่าจะเทคเดียวผ่าน แต่ปรากฎว่าต้องถ่าน 2 เทค คืออุ้มต้องโดดแบบตีลังกา 2 ครั้ง คือตอนแรกอุ้มกระโดดลงมาแล้วไม่ได้ยินว่าอาสังคัดก่อน ที่จะกระโดดเท่ากับว่ายังไม่ได้ถ่ายตอนโดด ก็เลยต้องโดดใหม่
- และมีฉากอื่นอีกไหมที่หนักๆ ?
ก็มีฉากตอนจบที่อุ้มต้องใส่เอฟเฟก คืออุ้มก็ใส่เอฟเฟคครั้งแรกเหมือนกัน ใส่รอบตัวเลยทั้งที่หน้าท้อง ด้านข้าง ด้านหลัง และก็ถ่ายหลายเทคมาก ระบมทั้งตัวเลย พอเล่นเสร็จหน้าท้องเขียวเลย เพราะตรงส่วนนี้เราจะใช้เยอะ คือไม่ใช่ว่าใส่ที่ตัวอย่างเดียว ยังต้องมีการวิ่งหลบอีกเพราะอุกกาบาตจะไล่ตาม หนักเหมือนกันถ้าหลบไม่ดีก็แย่เลย
- การทำงานเรื่องก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ให้อะไรกับอุ้มเยอะมาก-น้อยแค่ไหน?
เป็นการทำงานที่ทรหดมาก ได้ประสบการร์เยอะมากเพราะบางอย่างก็เป็นการทำงานครั้งแรก อุ้มไม่เคยมีประสบการณ์ตรงนี้มาก่อน อุ้มจะรู้สึกดีมากๆ มันทำให้อุ้มได้เรียนรู้สิ่งใหม่
- ในเรื่องเห็นว่ามีฉากเลิฟซีนด้วย
มีค่ะ แต่จะไม่ใช่อุ้มที่เล่นใช้สแตนอิน ที่จริงก่อนรับงานตรงนี้อาบัณฑิตจะบอกก่อนเลยว่ามีฉากเลิฟซีนด้วยนะ โป๊ได้ไหม? อาจะถามก่อน อุ้มบอกเลยว่าของสแตนอินนะคะ ในฉากนี้ตอนที่ถ่ายแล้วเห็นเป็นแผ่นหลังตรงนี้จะเป็นอุ้มแต่ไม่โป๊นะเพราะจะใส่สม๊อคสีดำแล้วก็ทาตัวดำด้วยก็จะไม่เห็นอะไร แต่ตอนที่เห็นเป็นหน้าอก ตรงนั้นจะเป็นสแตนอิน แต่ถ้าต้องให้เห็นหน้า อุ้มก็จะใส่เกาะอกสีดำ ก็ไม่น่าเกลียดอะไร
- อุ้มเรียนอยู่และกับการที่ต้องมารับบทที่ต้องมีเลิฟซีน มีผลกระทบอะไรกับการเรียนหรือไม่ ?
ไม่ค่ะ อาจารย์จะทราบดี ตอนรอบสื่อมวลชนของตำนานกระสืออาจารย์ก็ไปดูนะคะ ตอนนั้นหนังเรื่องตำนานกระสือจะด้วยโป๊ซะด้วยซ้ำ อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร อาจารย์จะเข้าใจค่ะ ว่ามันเป็นงาน และภาพที่สื่อออกมามันดูเป็นศิลปมากกว่าอานาจาร เราไม่ได้ไปทำอะไรที่เสื่อมเสีย เราไม่ได้ไปแก้ผ้าถ่ายรูปนี่ ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่จริงๆ ภาพลักษณะแบบนี้มันก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนด้วยว่าจะมองยังไง
- อุ้มคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าที่จะให้อะไรกับคนดู?
ที่น่าสนใจสำหรรับหนังเรื่องนี้ อุ้มว่ามันเป็นเรื่องของความรักและความผูกพันของพี่น้อง ที่ไม่มีอะไรตัดขาด อย่างอุ้มกับพี่อูจะรักกันมากในเรื่อง มันเป็นเรื่องของความผูกพัน ต่อให้น้องของเราร้ายแค่ไหน จะฆ่าคนที่เรารัก แต่เขาก็เป็นน้องของเรายังไงเราก็รักน้องเรา มันเป็นเรื่องของความรัก ความผูกพันระหว่างพี่น้องที่ชัดเจน
- ขอถามเรื่องส่วนตัวของอุ้มเป้นยังไงบ้าง ?
ตอนนี้อุ้มเรียนอยู่ปี 4 คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว.ประสานมิตร สาขาการแสดง ตอนนี้อายุ 21 ปี สูง 171 ซม. หนัก 48 กก. เป็นคนไทยแท้ แต่รูปหน้าจะออกไปทางแขกๆ นิดหน่อย มีพี่น้อง รวม 3 คน อุ้มเป็นคนโต และก็มีน้องสาวน 1 คน น้องชายอีก 1 คน นิสัยส่วนตัวอุ้มจะเป็นคนที่โกรธง่าย แต่หายเร็ว เป็นคนใจเย็น ถ้าไม่ถึงที่สุดจะไม่โกรธใคร เข้าวงการการแสดงมาได้ประมาณ 2 ปี โดยเริ่มจากการได้ตำแหน่งเป็นซุปเปอร์โมเดล ออฟ ไทยแลนด์ ปี........... ของฟอร์ดโมเดล ที่ปีแรกเป็น ยุ้ย : รัตนา อุ้มได้ต่อจากยุ้ย และจากนั้นอุ้มก็ไปประกวดที่เมืองนอก ที่อเมริกา พอกลับมาเมืองไทยก็มีงานเดินแบบ ถ่ายแบบค่อนข้างเยอะ อุ้มจะมากจากการเป็นนางแบบก่อน หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เล่นภาพยนตร์เรื่องตำนานกระสือ จากนั้นก็มีงานละคร แต่คนจะรู้จักอุ้มจากตำนานกระสือมากกว่า
- มีโปรเจ็คอะไรในอนาคตอีกไหม
ตอนนี้อยากเรียนให้จบและก็ตั้งใจทำเกรียตินิยมอยู่ ถ้าเป็นไปได้เพราะอุ้มตอนนี้เรียนก็ 3 กว่ามาตลอด ตอนนี้อยู่ที่ 3.2 คือเราต้องรักษาระดับเอาไว้มันก็จะมีโอกาส จากนั้นจบแล้วอุ้มก็อาจจะไปต่อโทที่ออสเตเลีย คือมีคุณน้าอยู่ที่นั่น แต่ตอนนี้จบแล้วอยากทำงานเก็บเงิน หาประสบการณ์ระยะหนึ่งแล้วอุ้มค่อยไป ตอนนี้อุ้มก็ภาระเยอะด้วยทั้งบ้านและรถ บางทีอุ้มกด็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร มันเป็นสิ่งที่เราชอบ อุ้มคิดว่ามันจะต้องมีสิ่งที่แลกกันได้อย่าง เราก็ต้องเสียอย่าง เราทำงานได้เงิน แต่เราก็ต้องเสียเวลาที่จะได้ไปสนุกสนานกับเพื่อน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ในอนาคตอุ้มก็อยากที่จะมีธุรกิจส่วนตัวเล็ก อุ้มอยากมีร้านกาแฟ เบเกอรี่เล็กๆ อุ้มอยากที่จะๆไปเรียนทำเบเกอรี่ ก็ไม่ตั้งใจปักหลักเป็นนักแสดงไปตลอดเพราะคนเรามีเกิดก็ต้องมีดับ มันเป็นสัจจะธรรมนะค่ะ--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ