กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. ร่วมกับสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย กำหนดแนวปฏิบัติในการบันทึกบัญชีการรับรู้รายได้ของบริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้การบันทึกบัญชีเป็นไปตามหลักความระมัดระวังและไม่รับรู้รายได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น
แนวปฏิบัติที่กำหนดเป็นการย้ำว่าบริษัทจดทะเบียนจะสามารถรับรู้รายได้ตามวิธีอัตราส่วนของงานที่ทำเสร็จ (percentage of completion) ได้ก็ต่อเมื่อรายการขายนั้นเข้าเงื่อนไขการรับรู้รายได้ทุกข้อตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 26 เรื่อง การรับรู้รายได้สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งมีข้อแนะนำ ดังนี้
- ผู้บริหารบริษัทจะต้องประเมินความก้าวหน้าในการก่อสร้างเพื่อเปรียบเทียบกับแผนงานที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ
- หากประเมินแล้วเห็นว่ามีข้อบ่งชี้ที่แสดงว่าบริษัทอาจไม่สามารถก่อสร้างให้เสร็จตามสัญญา บริษัท
ต้องหยุดรับรู้รายได้
- แสดงตัวอย่างการบันทึกบัญชีกรณีลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เกินกว่า 3 งวดติดต่อกัน ซึ่งต้องหยุดรับรู้
รายได้ทันที และตัดรายการลูกหนี้หรือตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการประเมินความสามารถทางการเงินของผู้ขาย และความก้าวหน้าในการก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขในการรับรู้รายได้ว่า หากบริษัทต้องพึ่งพิงเงินผ่อนในอนาคตจากลูกค้าเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ เนื่องจากแหล่งเงินจากสถาบันการเงินหรือเครดิตที่ได้รับจากผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่เพียงพอ อาจเป็นข้อบ่งชี้ที่แสดงว่าบริษัทอาจไม่สามารถก่อสร้างให้เสร็จตามสัญญา และต้องหยุดรับรู้รายได้ เว้นแต่บริษัทจะมีข้อมูลอื่นที่สามารถยืนยันโอกาสสำเร็จดังกล่าว--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--