กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--แฟรนคอม เอเซีย
ไรมอน แลนด์เผยผลกำไรเติบโตกว่าเท่าตัวจากการโอนโครงการเดอะริเวอร์พร้อมเผยถึงโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ “เดอะ ลอฟท์ เอกมัย”และกลยุทธ์การซื้อที่ดินของบริษัทฯ
บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) รายงานยอดขาย Backlog และผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาส 3 ปี 2555
ไรมอน แลนด์รายงานผลกำไรประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ซึ่งนับเป็นผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงที่สุด โดยมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษีเงินได้นิติบุคคลและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากไตรมาสที่แล้วเท่ากับ 470 ล้านบาทและ 262 ล้านบาท ตามลำดับ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการโอนโครงการเดอะริเวอร์ โดยสามารถรับรู้รายได้กว่า 2 พันล้านบาทในไตรมาสนี้
มร.อูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้แสดงความคิดเห็นต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในครั้งนี้ว่า:
“ความพยายามของไรมอน แลนด์ที่ผ่านมาได้ส่งผลบวกต่อผลประกอบการของบริษัทฯ เป็นอย่างมากจากความสามารถในการทำกำไรที่สูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ผ่านมา แต่นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น บริษัทฯ ยังมีโครงการในปัจจุบันจำนวน 5 โครงการซึ่งมีมูลค่าขายกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท โดยมียอดขายไปแล้วกว่าร้อยละ 70 และในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้มีการรับรู้รายได้ไปเพียง 7 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของผลประกอบการที่แข็งแกร่งในอนาคต
นอกจากนี้ หากมองในด้านกระแสเงินสดจากโครงการในปัจจุบัน บริษัทฯ จะมีกระแสเงินสดรับกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐในปีต่อๆไป โดยกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐจะเป็นกระแสเงินสดจากยอดขายที่เกิดขึ้นแล้ว
มร.อูแบร์ วิริออท กล่าวต่อไปว่า:
“อย่างไรก็ตาม ไรมอน แลนด์จะไม่หยุดอยู่เพียงโครงการในปัจจุบันเพื่อรอรับกระแสเงินสดที่จะเกิดขึ้น แต่บริษัทฯ จะดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกในการเปิดโครงการที่มุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้าชั้นกลางจนถึงชั้นสูง
แม้ว่าในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา ไรมอน แลนด์ ได้ให้ความสำคัญกับโครงการในพัทยาเป็นพิเศษ แต่ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ไรมอน แลนด์ จะเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์เดอะ ลอฟท์ (The Lofts) โดยบริษัทฯ ได้มีการซื้อที่ดินขนาด 2 ไร่บนพื้นที่ย่านสุขุมวิท — เอกมัย เพื่อที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมขนาดประมาณ 250 ห้อง ซึ่งจะมีราคาเฉลี่ยประมาณห้องละ 7.5 ล้านบาท และมีราคาเริ่มต้นที่ 3.9 ล้านบาท ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและย่านความเจริญบริเวณทองหล่อและเอกมัย บริษัทฯ คาดว่าโครงการเดอะ ลอฟท์ เอกมัยจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยคาดการณ์ว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 58
ไรมอน แลนด์อยู่ในระหว่างการพัฒนาโครงการใหม่ๆในใจกลางของกรุงเทพฯ โดยจะเสนอโครงการที่มีแบรนด์หลากหลายในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน โดยบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อขายที่ดินสองแห่งที่คาดว่าจะสร้างมูลค่าการขายกว่า1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2559 — 2561”
ในปัจจุบัน ไรมอน แลนด์ มีโครงการทั้งหมด 5 โครงการ (ไม่รวมโครงการ เดอะ ลอฟท์ เอกมัย) ซึ่งแต่ละโครงการอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่แตกต่างกัน โดยทั้งหมดมีมูลค่าขายรวมกว่า 3.52 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 1.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ) แม้ว่าโครงการเหล่านี้จะมียอดขายแล้วกว่า 2.55 หมื่นล้านบาท (กว่า 835 ล้านเหรียญสหรัฐ) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 แต่ภายใต้มาตรฐานการบัญชีใหม่ บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้สะสมเพียง 7.2 พันล้านบาทเท่านั้น
ดังนั้น บริษัทฯ จึงมียอด Backlog กว่า 1.84 หมื่นล้านบาท ณ ไตรมาส 3 ปี 2555 โดยเกือบครึ่งของยอด Backlog มาจากโครงการเดอะริเวอร์ และกว่า 1 ใน 3 มาจากโครงการ 185 ราชดำริซึ่งเป็นโครงการสำคัญสำหรับลูกค้าระดับสูงของบริษัทฯ
บริษัทฯ ได้เริ่มทำการโอนโครงการเดอะริเวอร์เมื่อเดือนมิถุนายนผ่านมา ซึ่งโครงการเดอะริเวอร์มียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 80 หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555
สำหรับความคืบหน้าโครงการ 185 ราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมีเนียมระดับพรีเมี่ยมของบริษัทฯ และมียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 71 ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถโอนได้ในปลายปีหน้า โดยในขณะนี้ความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงสร้างหลักหรือ Superstructure นั้นได้สร้างถึงชั้นที่ 24 แล้ว และคาดว่าจะเสร็จสิ้นการก่อสร้างถึงยอดตึกได้ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ทั้งนี้ ด้วยราคาที่สูงถึง 250,000 บาทต่อตารางเมตรจะทำให้โครงการ 185 ราชดำริเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ราคาสูงสุดของกรุงเทพฯ
สำหรับยอดขายของโครงการในพัทยาของไรมอน แลนด์ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยสามารถปิดการขายอาคารแรกของโครงการซายร์ วงศ์อมาตย์ได้เรียบร้อยแล้ว โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน โครงการนอร์ทพ้อยท์ โครงการซายร์ วงศ์อมาตย์ และโครงการยูนิกซ์ เซาท์พัทยามียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 89 ร้อยละ 71 และร้อยละ 29 ตามลำดับ ซึ่งโครงการซายร์ วงศ์อมาตย์และโครงการยูนิกซ์ เซาท์พัทยา ที่ทำการเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว จะแล้วเสร็จและสามารถโอนได้ในปี 2557 และปี 2558 ตามลำดับ