กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--เดอะบิ๊กพอตเตอร์ คอมมิวนิเคชั่น
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)เล็งเห็นความสำคัญของการเสริมสร้างพัฒนาการและสติปัญญาของเด็กและผู้ป่วยบกพร่องทางสติปัญญา มอบนมไทย-เดนมาร์ค จำนวน 72,000 กล่อง ให้กับสถาบันราชานุกูล และโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ ดื่มฟรีตลอดปี 2556
นายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย นมไทย-เดนมาร์ค เปิดเผย ภายหลังเป็นประธานมอบนมไทย-เดนมาร์ค ให้แก่ ผู้ที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา จำนวน 72,000 กล่อง เพื่อให้ดื่มฟรีตลอดปี 2556 ตามโครงการความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและสติปัญญา ระหว่างองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กับสถาบันราชานุกูล และโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ ว่าโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นหลังจากพบว่าเด็กผู้บกพร่องทางด้านพัฒนาการและสติปัญญาและผู้ป่วย ภายใต้การดูแลของสถาบันราชานุกูลและโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ เป็นกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียนและอยู่ในวัยเรียนที่ไม่เข้าข่ายรับมอบนมภายใต้โครงการนมโรงเรียน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงอย่างยิ่งในด้านพัฒนาการที่อาจช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน
ภายใต้โครงการดังกล่าว อ.ส.ค.ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์ค และเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ได้เห็นความสำคัญในความเสี่ยงของเด็กและผู้ป่วย ซึ่งสอดคล้องกับแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนม เพื่อมุ่งหวังให้เกษตรกรไทยมีอาชีพและรายได้มั่นคง ตลอดจน ให้พสกนิกรชาวไทยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะ อ.ส.ค.เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมและช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อีกทั้งยังเป็นองค์กรที่ผลิตผลิตภัณฑ์นมจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ซึ่งการมอบนม ยู.เอช.ที ขนาด 125 มิลลิลิตร รสจืด ให้สำหรับเด็กและผู้ป่วยภายใต้การดูแลของทั้งสถาบันราชานุกูลและโรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ สถานที่ละ 200 กล่อง/วัน หรือ 6,000 กล่อง /เดือน หรือ 72,000 กล่อง/ปี นั้น คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 792,000 บาท/ ปี มีระยะเวลาของโครงการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 — เดือนกันยายน 2556 ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้เกิดขึ้นกับกลุ่มเด็กและผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงได้ อีกทั้งเป็นการลดปัญหาสังคมของประเทศอีกด้วย
ทางด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า สถาบันราชานุกูล เป็นหน่วยงานของรัฐบาล สังกัดกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายขยายบริการเข้าถึงประชาชนตลอดจนการให้ความรู้ ให้บริการ ส่งเสริมพัฒนาการ การฝึกทักษะเด็กด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม โดยภารกิจหลักของสถาบันฯ คือ การพัฒนาด้านวิชาการมุ่งเน้นการศึกษาวิจัย โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้คุณภาพชีวิตของผู้บกพร่องด้านพัฒนาการและสติปัญญาได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี เท่าเทียมกับบุคคลทั่วไปในสังคมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือ “ผู้บกพร่องด้านพัฒนาการและสติปัญญาสามารถดำรงชีวิตด้วยตนเองได้มากที่สุดตามศักยภาพและอยู่ร่วมกับครอบครัว ชุมชนได้อย่างมีความสุข”
โดยมั่นใจว่าโครงการนี้จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระ และเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กและผู้ป่วย ของสถาบันและโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี และจะช่วยให้การดำเนินงานของสถาบันราชานุกูล และโรงพยาบาลฯ สามารถให้บริการได้ครอบคลุมเด็กทุกกลุ่ม ได้แก่กลุ่มเด็กปกติเด็กที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาพัฒนาการ สติปัญญาและสุขภาพจิต และกลุ่มเด็กที่มีปัญหาทางพัฒนาการ สติปัญญาและสุขภาพจิตได้ในที่สุด