กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--วธ.
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องอัมรินทร์ โรงแรมเอสดี อเวนิว กระทรวงวัฒนธรรมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสังคม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสื่อที่ไม่เหมาะสม โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุม อาทิ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก สมาคมผู้ปกครองการสื่อโทรทัศน์ เกม และอินเตอร์เน็ต เครือข่ายครอบครัว เครือข่ายเยาวชน พร้อมด้วยบุคลากรในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อระดมความเห็น แลกเปลี่ยนความรู้ และถอดบทเรียนของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำไปสู่การพัฒนาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาสื่อที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนในเชิงบูรณาการและสร้างสรรค์ ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีเยาวชนทำร้ายมารดาจนถึงชีวิต และทำร้ายพี่สาวได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากโกรธที่ถูกมารดาดุด่าเรื่อง เล่นเกมและสังคมออนไลน์ รวมถึงกรณีเด็กฆ่าตัวตายเพื่อเลียนแบบละครทีวี ซึ่งถือเป็นปัญหาสังคมที่ต้องรีบแก้ไขและหาแนวทางป้องกัน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงแล้วจะโทษสื่อเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ฉะนั้นจะต้องมีแนวทางสร้างภูมิคุ้มกันให้มีความเข้มแข็งขึ้นในสังคม โดยกำหนดไว้ 7 ด้าน ได้แก่ 1.สถาบันครอบครัว จะต้องได้รับบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันให้กับคนในครอบครัว 2.สถาบันการศึกษา ถือเป็นการสร้างวัคซีนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาได้รับการพัฒนาให้มีความพร้อมสำหรับการอยู่ร่วมในสังคมร่วมกับคนอื่นๆ 3.สถาบันศาสนา ที่จะต้องทำหน้าที่อบรมเรื่องจิตวิญญาณของคนให้มีวุฒิภาวะ สามารถนำความรู้มาใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง 4.สื่อมวลชน เป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ เพราะมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างบุคลิกของคนในสังคม เช่น ภาพยนตร์บางเรื่องที่นำมาสร้างหลายๆครั้ง ก็จะทำให้สังคมเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นมาอย่างไร 5.องค์กรธุรกิจเอกชน ซึ่งมีส่วนสนับสนุนรายการโทรทัศน์ที่ปรากฎอยู่ทุกวันนี้ บางองค์กรฝ่าฝืนจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ แล้วไม่ยอมรับ ฉะนั้น จะต้องใช้มาตรการทางสังคมที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าว 6.ระบบราชการ ที่ต้องทำหน้าที่เป็นตัวกลางทำให้สังคมเกิดความสมดุล และ7.ภาคประชาสังคม หรือชุมชนจะต้องเข้ามามีบทบาทรในการแก้ปัญหาสังคมด้วย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญต่อการดำเนินการให้สังคมได้มีระเบียบความสัมพันธ์อย่างเหมาะสม
“เวทีในวันนี้ถือเป็นเวทีเริ่มแรก ซึ่งผมอยากให้เป็นคลื่นที่จะขับเคลื่อนให้เกิดพลังสังคมในการจัดการกับสื่อที่ไม่สร้างสรรค์ ขณะเดียวกัน การขับเคลื่อนการใช้สื่อในการสร้างสรรค์นั้น กฎหมายไม่ใช่เครื่องมือเดียวที่จะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ได้ พลังสังคมต่างหากเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแรงกระเพื่อมต่อการจัดการเรื่องนี้ ผมอยากให้ทุกภาคส่วนในสังคมใช้เวทีนี้ เพื่อสร้างกระแสสังคมให้มีการตระหนักรู้และรับผิดชอบร่วมกันในการจัดการต่อสื่อที่ไม่เหมาะสม และส่งเสริมพื้นที่สื่อที่เหมาะสมให้มีมากขึ้น”ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว