กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
ทรูมูฟเอช ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนตลอด 5 ปี และการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับแบรนด์อุปกรณ์สื่อสารชั้นนำ ร่วมกับ เซ็ทเทรด ดอท คอม และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จัดฟอรั่มสัมมนาครั้งสำคัญ โดยเชิญ ศาสตราจารย์ ดร.เบห์แนม ทาบิสซี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับเปลี่ยนองค์กร และเป็นที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา บารัค โอบามา มาบรรยายใน หัวข้อ “Inside-Out Effect — Transformational Leadership” ให้กับผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มทรู ผู้นำองค์กรธุรกิจชั้นนำ เพื่อนคู่ค้า ที่เป็นลูกค้าของทรูมูฟเอช และโบรกเกอร์สมาชิกบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำนวน 300 ท่าน ได้เปิดรับมุมมองใหม่ในการพัฒนาศักยภาพของผู้นำองค์กรที่จะขับเคลื่อนให้ธุรกิจได้ครองแชมป์ในตลาดและในใจผู้บริโภคอย่างยั่งยืน ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมภายนอกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการที่ผู้นำองค์กรธุรกิจจะต้องเตรียมความพร้อมช่วงชิงโอกาสจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้
ดร.กิตติณัฐ ทีคะวรรณ ผู้อำนวยการ ด้านบริหารผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เบื้องหลังของความสำเร็จที่ทำให้กลุ่มทรู ก้าวขึ้นมาเป็นองค์กรชั้นนำในประเทศไทยนั้น เกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งกลุ่มทรู ที่มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กร และจะเป็นผู้นำในตลาดในทุกธุรกิจที่กลุ่มทรูเข้าไปดำเนินการ ประกอบกับ ความเชื่อมั่นว่า พนักงาน คือ สินทรัพย์ที่มีค่ายิ่งของบริษัท จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ขึ้น ให้พนักงานและผู้บริหารได้มีเวทีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการทำงานร่วมกัน รวมทั้งเสาะหาแนวคิดใหม่ๆ และวิธีการใหม่ๆ ซึ่งจะนำมาซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพมาให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ธุรกิจพัฒนาไปสู่ความก้าวหน้าเหนือผู้อื่น และสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุด ในการเป็นผู้นำ Convergence lifestyle enabling”
ดร. กิตติณัฐ กล่าวเสริมว่า “กลุ่มทรู จัดกิจกรรมสัมมนาเป็นประจำอยู่ต่อเนื่องเพื่อพัฒนาบุคลากรในระดับผู้บริหารให้มีความรู้ที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ อยู่เสมอ เนื่องจากกผู้นำองค์กร เป็นหนึ่งในปัจจัยของการขับเคลื่อนให้องค์กรไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ กลุ่มทรู ยังเห็นสำคัญของ ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีส่วนร่วมสร้างธุรกิจในกลุ่มทรูให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน จึงมีนโยบายที่จะจัดสัมมนาพิเศษ เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้บริหาร ลูกค้า คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจได้มาพบปะกัน เป็นทั้งการกระชับความสัมพันธ์ และเปิดโลกทัศน์ใหม่เพื่อสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะเมื่อองค์กรธุรกิจของไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การแข่งขันที่รุนแรงในระดับอาเซียน จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้นำองค์กรธุรกิจควรจะต้องปรับองค์กรให้เร็วและรู้จักใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่มีเครือข่ายความเร็วสูงเพื่อทำให้เกิดความได้เปรียบในการทำธุรกิจเหนือคู่แข่ง อย่างที่ดร. ทาบิสซี่ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “Change is good and faster is better” กลุ่มทรู มีความเห็นพ้องกันว่า สำหรับการเป็นผู้นำตลาด “ใหญ่ไม่สำคัญเท่าต้องเร็วกว่าด้วย”
ศาสตรจารย์ ดร.บาห์แนม ทาบิสซี่ วิทยากรกิตติมศักดิ์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทางทรู คอร์ปอเรชั่น ให้โอกาสได้มาแบ่งปันประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับTransformational Leadership ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงพลังของความเป็นผู้นำที่จะพาองค์การไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จก่อนผู้อื่น ผู้นำองค์กรจะต้องเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นองค์กรธุรกิจอาจจะประสบกับความเสียหายมหาศาล แต่การปรับเปลี่ยนองค์กรไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นงานที่ท้าทายมาก ซึ่งเมื่อองค์กรไหนสามารถก้าวข้ามพ้นแรงต้านจากภายในไปได้ จะมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัยภายนอกได้อย่างมั่นใจและจะนำพาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปได้”
ในฐานะที่ ดร.เบห์แนม ทาร์บิสซี่ เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้นำระดับสูงขององค์กรชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขียนหนังสือเรื่อง “The Inside-out Effect: a practical guide for Transformational Leadership.” โดยได้อธิบายถึงแนวคิดภาวะผู้นำแบบเปลี่ยนแปลงสภาพ (transformational leadership) โดยเน้นพลังของปัจจัยภายในที่จะส่งผลกระทบต่อภายนอก ซึ่งเป็นหลักสูตรวิชาการบริหารธุรกิจและการศึกษาที่สอนในระดับบัณฑิตวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ในขณะที่หนังสือที่เขียนเกี่ยวกับภาวะผู้นำเล่มอื่นๆ มักจะแนะนำขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่อง หรือให้ลอกเลียนแบบบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่หนังสือเล่มนี้ของดร. ทาบิสซี่ มีคำแนะนำให้กับผู้นำทุกระดับที่จะพัฒนาสู่ความเป็นผู้นำที่สมบูรณ์ โดยชี้ว่าผู้นำจะต้องเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้และมีแรงผลักดันที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เมื่อไหร่ที่บุคคลที่เป็นผู้นำรู้ความหมายของการมีชีวิตอยู่และนำผู้อื่นไปในทางที่สอดคล้องกับความเป็นตัวตนของเขาเองด้วย บุคคลนั้นจะก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ จะมีความสุขและจะปฎิบัติงานได้ดีกว่าเดิม
ดร. ทาบิสซี่ กล่าวเสริมว่า “การนำเทคโนโลยีไอทีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการธุรกิจและการสื่อสารที่รวดเร็วบนเครือข่ายที่เร็วแรงและมีประสิทธิภาพสูงสุด จะทำให้องค์กรธุรกิจได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้น ผู้นำองค์กรธุรกิจที่จะครองตำแหน่งเป็นผู้นำตลาด ควรมีวิสัยทัศน์ในการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจอย่างสูงสุด”
นายกีรติ โกสีย์เจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาดระบบสารสนเทศ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด กล่าวว่า “เรื่องของการลงทุน การทำรายการซื้อขายออนไลน์ก็ต้องการความรวดเร็ว เพราะขาดทุนหรือกำไรอยู่แค่เสี้ยววินาที ปัจจุบันนี้ Smart Phone และ Tablet ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ผู้ลงทุน สามารถทำรายการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทุกที่ ทุกเวลา เซ็ทเทรด จึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ “Settrade Streaming for iPhone” เพิ่มเติมให้รองรับการใช้งานผ่าน iPhone 5 เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถติดตามข้อมูลเรียลไทม์และบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้ชัดเจนเต็มจอ และเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ Historical Chart ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นย้อนหลังได้ถึง 1 ปี พร้อมปรับฟังก์ชั่นในการส่งคำสั่งโดยใช้ Smart Numeric Keyboard เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนคีย์ราคาและปริมาณได้สะดวกยิ่งขึ้น และเพิ่มข้อมูล SET Index ทุกหน้าจอ Realtime ทำให้ผู้ลงทุนเกาะติดภาวะตลาดได้ตลอดเวลาไม่พลาดทุกโอกาสการลงทุน โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทในกลุ่มทรูฯ ในการให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดผ่าน App Store ของ Apple ซึ่งนับเป็นแอพพลิเคชั่นซื้อขายหุ้น และอนุพันธ์ของไทยที่เป็นที่นิยม และมียอดผู้ใช้งานมากที่สุดในขณะนี้”
“สำหรับ ในอนาคต ทางเซ็ทเทรด ดอทคอม มุ่งที่จะพัฒนาปรับปรุงโปรแกรมซื้อขายให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อขาย ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกสูงสุดและตอบโจทย์ผู้ลงทุนออนไลน์“ นายกีรติ กล่าวเสริม
ดร.กิตติ โพธิกิตติ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ กล่าวว่า “การบริหารธุรกิจในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น ผู้นำองค์กรธุรกิจควรจะต้องมีวิสัยทัศน์มองภาพรวมในระดับนานาชาติ
เข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมมีศิลปะในการบริหารเป็นทีม ปรับตัวเปลี่ยนแปลงในสภาวะที่แตกต่างอย่างรวดเร็วและรอบคอบสามารถสร้างองค์ความรู้ในองค์กร กล้าบริหารจัดการลงทุนและใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวก คิดบวกสร้างหุ้นส่วนธุรกิจและมีความสัมพันธ์ระยะยาว สุดท้ายต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม”
ดร.กิตติณัฐ กล่าวย้ำในที่สุดว่า “การที่ทรูมูฟเอช จะครองตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในไทยให้ได้ยาวนานและยั่งยืน นอกจากจุดเด่น 5 ประการ คือ 1) การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี อย่าง Apple 2) การบริการเครือข่าย 3G ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด 3) การได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้แทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของโลก 4)การมีบริการที่ดีที่สุดผ่านทรูช้อปสาขาทั่วประเทศ และไอที เฟรนด์ เพื่อนสนิทไอทีที่ให้คำปรึกษากับลูกค้าได้อย่างเชี่ยวชาญ และ 5) การพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกเพศทุกวัยทุกกลุ่มได้เสมอ แล้ว พนักงานและผู้บริหารในกลุ่มทรู จะต้องไม่หยุดพัฒนาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และต้องก้าวให้ทันกันกับเทคโนโลยี ที่ทำให้ไลฟ์สไตล์ การดำเนินชีวิตของผู้คน ทั้งด้านการงาน และชีวิตส่วนตัว เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเป้าหมายสูงสุดของกลุ่มทรู คือ การเป็นผู้นำ Convergence lifestyle enabling และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการสร้างสร้างชีวิตแบบคอนเวอร์เจนในรูปแบบที่มหัศจรรย์”
ด้วยประสบการณ์ด้านการเป็นที่ปรึกษาในการปรับเปลี่ยนองค์กรให้กับบริษัทชั้นนำมาแล้วของดร.เบห์แนม ทาบิสซี่ จะช่วยให้ผู้บริหารองค์กรธุรกิจที่เข้าร่วมฟังบรรยายครั้งนี้ เห็นภาพการปรับเปลี่ยนองค์กรด้วย Transformational Leadership และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ เพื่อพัฒนาในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีศักยภาพสูงสุด โดยมีทรูมูฟเอชเป็นผู้สนับสนุนที่ดีที่สุดในด้านเทคโนโลยีความเร็วสูงที่จะช่วยผลักดันให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่การแข่งขันที่การเปิดเสรีสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างมั่นใจ”