กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมส่งไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 สู้ศึกตลาดรถไตรมาสสุดท้ายเพิ่มฟังก์ชั่นเน้นความสปอร์ตด้วยการตกแต่งภายในโทนสีดำและอุปกรณ์ความบันเทิงครบครัน โดยไทรทัน เริ่มขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในขณะปาเจโร สปอร์ต จะพร้อมขายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูม รถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ 28 พฤศจิกายนนี้ พร้อมเตรียมขนยนตรกรรมร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป คับคั่ง
มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 สำหรับมิตซูบิชิไทรทันมาพร้อมแนวคิด “เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์” จากการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้กับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยพร้อมอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD, VCD, CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งานและช่องต่อ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone ได้ ในขณะที่มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมแนวคิด “All on Demands” ที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ตอบทุกไลฟ์สไตล์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมสมรรถนะที่ตอบสนองทุกความต้องการด้วยระบบ SS4 (Super Select 4WD) หนึ่งเดียวในรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ตามความต้องการและสภาพถนนจึงให้การประหยัดน้ำมันและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมการออกแบบภายนอกและภายในให้ตอบรับกับทุกความต้องการโดยมาพร้อมกล้องมองภาพหลังเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยขณะถอย และสัญญาณกะระยะขณะถอยหลังแบบ 4 จุด การออกแบบภายในโทนสีดำ พร้อมติดตั้งระบบนำทางอันชาญฉลาด (เนวิเกเตอร์) รูปแบบใหม่รองรับการแสดงภาพแผนที่แบบ 3 มิติ และจอภาพแบบ WIDE Screen ขนาดใหญ่10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone และฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) แบบพกพาได้
“มิตซูบิชิ ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 ได้รับการพัฒนาให้มีความลงตัวและสามารถตอบสนองความต้องการ รวมทั้งสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ให้ทั้งสมรรถนะและการตกแต่งในสไตล์พรีเมียมของมิตซูบิชิ ไทรทัน รวมไปถึงความสามารถในการตอบสนองทุกความความต้องการของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอ์ต ประกอบกับข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้” ด้วยดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 1.79% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีค่าบำรุงรักษา 30,000 กิโลเมตรแรก รวมไปถึงฟรีค่าแรง 100,000 กิโลเมตรแรก อีกทั้งรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ยังได้รับสิทธิ์คืนเงินภาษีรถคันแรกจะสร้างความสนใจและทำให้ลูกค้าพึงพอใจในรถยนต์มิตซูบิชิ ทั้ง 2 รุ่นอย่างแน่นอน” มร.มูราฮาชิกล่าว
ทั้งนี้ มร.มูราฮาชิ กล่าวเสริมถึงการร่วมงานมหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์ส เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน — 10 ธันวาคม นี้ว่า “สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ในปีนี้เราได้เตรียมนำรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นร่วมโชว์ครอบคลุมทั้ง มิตซูบิชิ ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 พร้อม มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าในขณะนี้ และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ พร้อมกับข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้” ทั้งนี้จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ประกอบกับข้อเสนอพิเศษ รวมไปถึงนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่กำลังจะหมดลงภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่จะได้รับการคืนภาษีสูงสุดถึง 77,000 บาท และ มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ได้รับการคืนภาษีสูงสุดที่ 91,000 บาท นั้น บริษัทฯ จึงตั้งเป้ายอดจองในงานไว้ที่ 6,500 คัน” มร.มูราฮาชิ กล่าว
1. ข้อมูลผลิตภัณฑ์
มิตซูบิชิ “ไทรทัน” “เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์”
การออกแบบในระดับ “พรีเมียมสไตล์”
ภายนอกมาดใหม่
- เสริมมาดเข้มเน้นความสะดวกสบายด้วยกรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมและไฟเลี้ยวในตัวที่สามารถพับและปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมคิ้วข้างประตูสไตล์สปอร์ตสีเดียวกับตัวรถ และไฟตัดหมอกหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ)
- เพิ่มสไตล์ที่ลงตัวยิ่งขึ้นด้วยกรอบไฟตัดหมอกสีเดียวกับตัวรถในรุ่น GLS และโป่งข้างสีเดียวกับตัวรถในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูงและขับเคลื่อน 4 ล้อ
การออกแบบภายในลงตัว
- อีกระดับของการออกแบบภายในเทียบเท่าระดับพรีเมียมสไตล์ด้วยการตกแต่งโทนสีดำ เบาะผ้าทูโทนสีใหม่เข้มขึ้น เฉพาะรุ่น GLX (ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ) และเบาะหนังสไตล์สปอร์ตสีดำเหมาะกับทุกสรีระที่มาพร้อมพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน และหัวเกียร์หุ้มหนัง เฉพาะรุ่น GLS
- ให้อารมณ์สปอร์ตและโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยแผงหน้าปัดเสริมโครเมียมเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ
- เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ในระยะทางไกลด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) เฉพาะรุ่น เกียร์อัตโนมัติ พร้อมสวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย ในรุ่น GLS ทุกรุ่น
- เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบล็อกเกียร์ Electric Shift lock เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
- ระบบเครื่องเสียงใหม่ (M9) เครื่องเล่นวิทยุซีดี ดีวีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone สำหรับรุ่นเมกะแค็บพลัส และดับเบิ้ลแค็บพลัส ทุกรุ่น ยกเว้น 2.5 GLX
- เครื่องเล่นวิทยุ ซีดี เอ็มพี 3 พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ AUX และ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone ได้ ยกเว้นรุ่น ซิงเกิ้ลแค็บ 3.2 GL
พลังที่ใช่ สำหรับทุกการเดินทาง
- ถึงพร้อมด้วยสมรรถนะและให้การประยัดน้ำมันเป็นเยี่ยมจากเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือก
เครื่องยนต์ดีเซล
- 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 — 2,850 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา และ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นเครื่องยนต์อัตโนมัติ สำหรับรุ่น GLS, GLS Ltd. และรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ 2.5 GLX ขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการกำลังและความประหยัดในเวลาเดียวกัน
- 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด บ140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 321 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที สำหรับรุ่น GLX ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และรุ่น GLS ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 2.5 DI-D ไฮเปอร์ คอมมอนเรล DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุด บ128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,000 รอบต่อนาที สำหรับรุ่น GL ขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่น GLX
เครื่องยนต์เบนซิน
- 2.4 ลิตร MPI SOHC ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซิน 91, 95 และแก๊สโซฮอล์ 91-95, แก๊สโซฮอล์ อี 20 พร้อมการติดตั้งระบบ CNG ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อและรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
- ตอบสนองรวดเร็วทันใจด้วยระบบเกียร์อัจฉริยะ 5 จังหวะ พร้อม Sportronic ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการในรุ่น GLS และ GLS-Ltd.
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
ครบทุกความเหนือชั้น ตอบทุกสไตล์ชีวิต ในหนึ่งเดียว All on demands
การออกแบบภายนอกครบทุกความเหนือชั้น
- หรูหราลงตัวด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์และหลอดไฟHID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ในรุ่น GT ปาเจโร สปอร์ตรุ่นปี 2013 ยังเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งสัญญานกะระยะจอดขณะถอยหลังแบบ 4 จุด พร้อมกรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น
- เสริมมาดเข้มเน้นความลงตัวด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ต พร้อมกล้องมองภาพหลังขณะถอดเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่จอด เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น GT
การออกแบบภายในตอบทุกสไตล์ชีวิต
- ภายในกว้างขวาง สบาย เหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกกว้างสบาย พร้อมการตกแต่งภายในโทนสีดำเฉพาะรุ่น GT
- ผ่อนคลายสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GT) ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับพนักพิงแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งสามารถแยกพับแบบ 50:50 ราบกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถที่มากขึ้น พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ให้ความเย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
- เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ในระยะทางไกลด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) พร้อมสวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย เฉพาะรุ่น GT
- ติดตั้งอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมพร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone และจอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอภาพแอลอีดี (LED) แบบ WIDE Screen ขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น GT
- ติดตั้งระบบนำทางอันชาญฉลาด (เนวิเกเตอร์) รองรับแผนที่ในรูปแบบ 3 มิติ เฉพาะรุ่น 3.0 GT และ 2.5 GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- เครื่องเล่นวิทยุ ซีดี เอ็มพี 3พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ AUX และ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone ในรุ่น 2.4 GLS และ 2.5 GLS
- เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบล็อกเกียร์ Electric Shift lock เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นยกเว้นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 GLS MT
ถึงพร้อมด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพ
- ด้วยเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือก
เครื่องยนต์ดีเซล
- 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที จึงตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการกำลังและความประหยัดในเวลาเดียวกัน
เครื่องยนต์เบนซิน
- เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6 สูบ 24 วาล์ว มีพละกำลังสูงสุด 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 281 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาทีรองรับน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์อี 20
- 2.4 ลิตร MPI SOHC ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซิน 91, 95 และแก๊สโซฮอล์ 91-95, แก๊สโซฮอล์ อี 20
- ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจซึ่งสามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ในรุ่น GT เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้การขับขี่เพื่อการควบคุมที่ดีกว่า
ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไปด้วยระบบ SS4 (Super Select 4WD)
- ระบบ SS4 (Super Select 4WD) ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกในมิตซูบิชิ ปาเจโร รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ในปี 2534 และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสนามแข่งขันแรลลี่ระดับตำนานของโลก โดยให้สมรรถนะในแบบฉบับของรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่เป็นเยี่ยม สามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน
- มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อม ระบบ SS4 (Super Select 4WD) ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่จากถนนปกติในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ให้การประหยัดน้ำมันมาเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับขับขี่เส้นทางขรุขระได้โดยไม่ต้องหยุดรถจากเทคโนโลยี Shift on the fly โดยมี 4 โหมดให้เลือก
- 2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติบนถนนธรรมดาที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ จึงให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน
- 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง โดยระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปที่ล้อหน้าและล้อหลังในอัตราส่วน 50:50 จึงให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ เกาะถนนเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น
- 4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูงโดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลังให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม
- 4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก
ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS) เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย
- สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
- ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับขี่เปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุด เมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม.
- ระบบปลดล็อกด้วยรีโมท ช่วยให้สามารถปลดล็อกและล็อกรถได้จากระยะไกล
- สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้าถ้าผู้ขับลืมปิดไฟหรี่หน้า หลังจากดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู เสียงสัญญาณจะดังเตือนขึ้น
- ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูช่วยให้ประหยัดไฟในแบตเตอรี่
- ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสารหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วปิดประตู ไฟในห้องโดยสารจะค่อยๆ หรี่ดับลงเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
- ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังดับเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้าจะยังคงสามารถเปิด-ปิดต่อไปได้อีกภายใน 30 วินาที
- ระบบเซ็นทรัลล็อก ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานโดยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านผู้ขับ
2. ข้อมูลการขาย
1. เปิดขายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ
- มิตซูบิชิ ไทรทัน 16 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
- มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 28 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
2. กิจกรรมการตลาด
- โรดโชว์ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด
- กิจกรรม Mitsubishi Happy Day ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ
- งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 29 “ มอเตอร์ เอ็กซ์โป” 29 พฤศจิกายน — 10 ธันวาคม 2555
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและสถานที่จัดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th
3. ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ทุกรุ่น ในช่วงนี้
- ฟรี…ประกันภัยชั้นหนึ่ง Diamond Insurance นาน 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
- ฟรี...ค่าบำรุงรักษาสูงสุด 30,000 กิโลเมตรแรก หรือระยะไม่เกิน 18 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
- ฟรี...ค่าแรง 100,000 กิโลเมตร หรือ 36 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน (เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ)
- ข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์มิตซูบิชิมีดังต่อไปนี้;
รุ่น ข้อเสนอพิเศษ
1. มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ? ดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่38,000 บาท (เงื่อนไขเงินดาวน์ 10%)
? ผ่อนเริ่มต้นที่3,999 บาท (เงื่อนไขเงินดาวน์ 30% ผ่อน 84 เดือน)
? รับส่วนลดเงินคืนภาษีรถคันแรกสูงสุด77,000 บาท(รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล)
2. มิตซูบิชิ ไทรทัน ? รุ่นเมกะแค็บ รับข้อเสนอรถเก่าแลกรถใหม่ เพิ่มมูลค่า30,000 บาท หรือรับฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท ยกเว้นรุ่น เมกะแค็บ CNG
? รุ่นดับเบิ้ลแค็บ รับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ1.79%* (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน)
? รับส่วนลดเงินคืนภาษีรถคันแรกสูงสุด91,000 บาท(รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล)
3. มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ? ดอกเบี้ยต่ำ1.99%* (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) ยกเว้นรุ่น เครื่องยนต์เบนซิน
4. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ? ดอกเบี้ยต่ำ1.99% *(ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน)
* ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
“ตูน บอดี้สแลม” กับภาพยนตร์โฆษณาไทรทันชุดใหม่ “เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์”
ในส่วนของภาพยนตร์โฆษณามิตซูบิชิ ไทรทัน นั้น บริษัทฯ ได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์”โดยยังคงมีอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม เป็นพรีเซ็นเตอร์นำเสนอจุดเด่นและฟังก์ชั่นการใช้งานของมิตซูบิชิ ไทรทัน และจะเริ่มออกอากาศเป็นครั้งแรกในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
มั่นใจเต็มที่กับคุณภาพของการบริการหลังการขาย
ความพร้อมของการบริการหลังการขาย ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ ปัจจุบันบริษัทฯ มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศ 174 แห่ง ทั้งนี้จากจำนวนโชว์รูมมาตรฐานที่เพิ่มขึ้นและครอบคลุมพื้นที่การขายดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการและการดำเนินงาน รวมทั้งสร้างความสะดวกสบายในการชื้อรถ ตลอดจนสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าที่เข้ารับบริการได้เป็นอย่างดี