กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--น้ำประปาไทย
บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) ผู้ผลิตและจ่ายน้ำประปาภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ มีกำลังการผลิตและจ่ายน้ำประปารวมสูงสุด 876,000 ลบ.ม. ต่อวัน เผยทิศทางธุรกิจปี 2556 ตั้งเป้าเดินหน้าขยายกำลังการผลิตธุรกิจน้ำ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก รุกศึกษาและลงทุนธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อมต่อ ขณะเดียวกันก็พร้อมส่งทีมเยาวชนไทยขึ้นเวทีประชันไอเดียนักอนุรักษ์ระดับโลก
ธุรกิจน้ำเติบโตไปได้สวย
สมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2556 ว่า ในปี 2556 บริษัทฯ ได้กำหนดแผนและทิศทางธุรกิจสรุปได้เป็น 3 ประเด็นใหญ่ๆ โดยประเด็นแรก ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตในธุรกิจน้ำประปา โดยจะเห็นได้ว่าในรอบ 9 เดือนของปี 2555 ที่บริษัทฯ ได้ประกาศผลประกอบการไปแล้ว ยอดจ่ายน้ำประปาได้เพิ่มขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ ดังนั้น เมื่อทำการศึกษาและประเมินสภาพแวดล้อมและความเป็นไปได้ต่างๆ แล้ว บริษัทฯ ยังมั่นใจว่ายอดจ่ายน้ำในพื้นที่ให้บริการจะโตได้อีก โดยตั้งเป้าจ่ายน้ำประปารวม 288.1 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2555 จำนวน 14.32 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือคิดเป็น 5.23% นอกจากนี้ ตั้งเป้าที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างเพื่อขยายกำลังการผลิตในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต และเริ่มการก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาแห่งที่ 2 ในพื้นที่นครปฐม-สมุทรสาครในช่วงต้นปีและปลายปีตามลำดับ ซึ่งในปัจุบัน การผลิตและจ่ายน้ำของบริษัทฯ ใกล้เต็มกำลังการผลิตสูงสุดแล้ว โดยในฝั่งปทุมธานี-รังสิตเคยทำสถิติสูงสุดที่ 97% และฝั่งนครปฐม-สมุทรสาครอยู่ที่ 85% ซึ่งจากการศึกษาของ บริษัทฯ พบว่าในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิตความต้องการใช้น้ำประปาจะเต็มกำลังการผลิตภายในปี 2557 หรือาจจะเร็วกว่านั้นอย่างแน่นอน ส่วนนครปฐม-สมุทรสาครความต้องการใช้น้ำประปาจะเต็มกำลังการผลิตภายในปี 2558 ดังนั้น จึงมีเวลาเพียงปีกว่าๆ ในการขยายกำลังการการผลิตที่ปทุมธานี-รังสิต และสองปีสำหรับพื้นที่นครปฐม-สมุทรสาคร ขณะนี้ ถือว่าพร้อมทุกๆ ด้านแล้วที่จะเริ่มดำเนินการดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของทุกภาคส่วน ซึ่งในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการ จึงไม่ต้องการให้ภาพการขาดแคลนเกิดขึ้นในพื้นที่ให้บริการของเรา
เตรียมแจ้งเกิดธุรกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อม......ทุ่มงบลงทุน 8 พันล้าน
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าที่จะลงทุนในธุรกิจน้ำ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมในปี 2556 ฉะนั้น แผนและทิศทางธุรกิจประเด็นที่สอง เป็นเรื่องของการลงทุน ควบรวม และ/หรือเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวกับน้ำ พลังงาน และ/หรือสิ่งแวดล้อมโดยมีเม็ดเงินลงทุนรวมไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท โดยพุ่งเป้าไปที่การลงทุนในธุรกิจโซล่าเซลล์เป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ในไตรมาสที่ 1/2556 ไม่น้อยกว่า 1 โครงการ ทั้งนี้ ตั้งเป้ากำไรสุทธิรวมของกลุ่มบริษัทก่อนหักภาษีไม่น้อยกว่า 2,800 ล้านบาท
พร้อมขึ้นเวทีประชันนักอนุรักษ์ระดับโลก
แผนและทิศทางธุรกิจในประเด็นที่ 3 ให้ความสำคัญกับการสร้างจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์....จากที่ในปี 2555 บริษัทฯ ได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ดำเนินการคัดเลือกผู้แทนจากโรงเรียนต่างๆ ที่ส่งโครงงานเข้าประกวดภายใต้ชื่อโครงการ “ยุวชนไทยร่วมใจรักษ์น้ำ” หรือ “Thai Tap Junior Water Prize” รอบตัดสินจะจัดขึ้นในกลางเดือนมกราคม 2556 ซึ่งทีมเยาวชนที่ชนะเลิศจะได้เป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลกในงาน Stockholm Junior Water Prize ที่จัดขึ้น ณ กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน งานนี้หวังผลลัพธ์ด้านการปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยเน้นที่เยาวชนซึ่งจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ และเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังเป็นหลัก ส่วนอีกกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าโครงการ “หนึ่งล้านกล้า สร้างป่าต้นน้ำ” เน้นการปลูกป่าต้นน้ำ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนต้นน้ำและปลายน้ำ ทั้งในแง่ลดปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในทุกภาคส่วน สร้างรายได้ให้ชุมชนต้นน้ำที่บริษัทฯ เข้าไปทำโครงการ และสร้างผืนป่าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยในปี 2556 จะเข้าสู่ปีที่ 3 ของการดำเนินโครงการ บริษัทฯ จะปลูกป่าเพิ่มอีก 200,000 ต้นพร้อมกับบำรุงรักษาของเดิมที่ปลูกไปแล้ว 400,000 ต้น นายสมโพธิกล่าว