กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ก.ล.ต.นับหนึ่งคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป(IPO) ของบมจ.ดีเอ็นเอ 2002 ผู้จำหน่ายสินค้าสื่อ โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ประเภทภาพยนตร์ เพลง ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีกที่มีสาขากว่า 1,432 สาขา โดย บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 เตรียมเสนอขายหุ้น 160 ล้านหุ้น ด้านที่ปรึกษาทางการเงินคาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในปลายปีนี้ ส่วนบล.คันทรี่ กรุ๊ป ผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ชี้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตสูง
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเสนอขาย ขณะนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งคำขอฯ แล้ว และคาดว่าจะสามารถนำหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ จำกัด (มหาชน)เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปลายปีนี้
ทั้งนี้ บมจ. ดีเอ็นเอ 2002 มีทุนจดทะเบียน 160 ล้านบาท หรือ 640 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เป็นทุนชำระแล้ว 120 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.ดีเอ็นเอ 2002 กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2552 บริษัทฯ มีรายได้รวม 750.86 ล้านบาท ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 952.13 ล้านบาทในปี 2553 ขณะที่ปี 2554 รายได้รวมอยู่ที่ 1,112.37 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้รวมแล้วกว่า 1,014.93 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจบริษัทฯ
“เรามีความมั่นใจในศักยภาพของธุรกิจบริษัทฯมาก เนื่องจากบริษัทฯมีจุดแข็งเรื่องช่องทางการจำหน่ายทั้งร้านค้าปลีกและจุดจำหน่ายกว่า 1,432 สาขาที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศและนักลงทุนก็เคยเห็นร้านขายปลีกของ DNA ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงสินค้าก็มีความหลากหลายทั้งแผ่นภาพยนตร์ เพลง และสินค้าประเภทสิ่งพิมพ์ โดยแผ่นภาพยนตร์มีหลายประเภททั้ง VCD DVD Blu-ray การขยาย Product life cycle โดยการผลิตเป็นแผ่นภาพยนตร์ All-in-one หลายเรื่องในแผ่นเดียว”ดร.ประสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ระบบการบริหารจัดการของบริษัทก็มีความเป็นเลิศเนื่องบริษัทฯใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาในการบริหารการขาย สินค้าคงคลังและบัญชี ทำให้ข้อมูลที่อัพเดทแบบ Real-time สามารถนำมาวิเคราะห์ทางการบริหารได้และในอนาคต รวมถึงการขยายสาขาของบริษัทฯยังได้ขยายสาขาไปกับห้างเทสโก้ โลตัสที่จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกปีละกว่า 10 สาขา
นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์(Home Entertainment)ประเภท ภาพยนตร์ เพลง ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯใช้กลยุทธ์ในการเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าเป็นกลยุทธ์หลักในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากด้วยสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ เป็นสื่อเพื่อความบันเทิง ในครอบครัว ดังนั้น การกระจายจุดจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างนั้น จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของกลุ่มบริษัทฯเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อการขยายตัวและการเติบโตของกลุ่มบริษัทฯ
ปัจจุบันบริษัทฯมีช่องทางการจำหน่ายมากกว่า 1,432 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจสื่อโฆษณาและบันเทิง เป็นการดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท ดีเอ็นเอ เรฟโวลูชั่น จำกัด ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ของทุนชำระแล้วอีกด้วย
“กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ จะเป็นลูกค้าบุคคลทั่วไปที่นิยมรับชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงที่บ้านมากกว่าเข้าชมในโรงภาพยนตร์ หรือนิยมซื้อผลงานเพื่อเก็บสะสม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยทำงานขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ และมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่นิยมความคล่องตัวในการรับชมและรับฟังงานภาพยนตร์และเพลง ทำให้นิยมซื้อแผ่นภาพยนตร์และเพลงมากกว่าการดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ต โดยบริษัทฯ มีช่องทางการจำหน่าย 2 รูปแบบ ได้แก่ การขายปลีก ซึ่งมีร้าน DNA ในห้างสรรพสินค้า และไฮเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทั่วประเทศรวม 365 สาขา รวมถึงร้านค้าฝากขายในร้านสะดวกซื้อต่างๆ เช่นโลตัส บิ๊กซี จำนวน 1,067 แห่ง และการขายส่ง (Wholesale) ให้กับเซเว่น อีเลฟเว่น บีทูเอส แมงป่อง ” นายสามารถกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในผู้นำในการดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ในรูปแบบร้านค้าปลีกที่มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเป็นเบอร์ 2 ของตลาด รองจากร้าน 7-11 ด้วยจุดจำหน่ายกว่า 1,432 สาขา ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่งผลให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการขยายตลาดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการซื้อสินค้าสื่อโฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์
วรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด
ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
สามารถ ฉั่วศิริพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน)