“ศรีรัตน์”ชี้อาเซียน+6 เขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก ดันไทยศูนย์กลางเอเชีย-โลจิสติกส์ เผยตัวเลขการค้าสูงกว่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ข่าวทั่วไป Monday November 26, 2012 14:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ “ศรีรัตน์”ชี้อาเซียน+6 เขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก ดันไทยศูนย์กลางเอเชีย-โลจิสติกส์ เผยตัวเลขการค้าสูงกว่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 9 เดือนแรกการค้าไทยกับ6พันธมิตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงโอกาสทางการค้าของไทย ภายใต้การจัดทำความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือเรียกว่า“RCEP”)หรือ อาเซียน+6 ว่า เป็นความตกลงที่จะพัฒนาต่อยอดจากความตกลงการค้าเสรีที่อาเซียนมีอยู่5 ฉบับ กับ 6ประเทศ(จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย) ให้เป็นความตกลงการค้าเสรีร่วมกันฉบับเดียว โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ครอบคลุมทุกมิติการค้า (สินค้า บริการ ลงทุน มาตรการการค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ) หากการเจรจาประสบความสำเร็จ RCEP จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนได้มากยิ่งขึ้น ความตกลงจะมีผลกระทบสูงต่อภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่รวมกัน 3,358 ล้านคน และสัดส่วนการค้าที่มีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันสูงถึงกว่า 17 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าการเจรจาจะเริ่มได้ในต้นปี 2556 และคาดว่าจะเจรจาให้แล้วเสร็จในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) จากสถิติการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 (ม.ค.- ก.ย.) ไทยส่งออกไปอาเซียนคิดเป็นมูลค่า 42,470 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็นการค้าระหว่างไทยกับจีน 20,128 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 0.19% ญี่ปุ่น 17,709 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ลดลง 4.6 % ออสเตรเลีย 7,156 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 11.5 % อินเดีย 4,017 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 1.07% เกาหลีใต้ 3,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 0.27% และ นิวซีแลนด์ 752 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 11.4% ส่วนการนำเข้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยนำเข้าจากอาเซียนคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาเป็นการนำเข้าจากญี่ปุ่น 36,168 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 12.6% จีน 27,226 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 11.6% อินเดีย 2,306 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 0.68% เกาหลีใต้ 6,572 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ลดลง -7.3% ออสเตรเลีย 4,327 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ลดลง 33.4% และนิวซีแลนด์ 465 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 9.3% นางศรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทยในตลาดเออีซีว่า จะเพิ่มการพัฒนา และส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้มีสมรรถนะ ความพร้อม และศักยภาพในการขยายธุรกิจสู่ตลาดเออีซี รวมทั้งเป็นแหล่งการลงทุน หรือแหล่งปัจจัยและวัตถุดิบในการผลิตเพื่อการบริโภคภายในกลุ่มเออีซี และตลาดโลก ได้แก่ สร้างและเพิ่มสมรรถนะให้กับผู้ประกอบการฯ สินค้าและธุรกิจบริการ ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคอาเซียน การสร้างโอกาสและช่องทางการเข้าสู่ตลาดอาเซียนกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและ/หรือ ผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศรายใหม่ๆ สร้างพันธมิตรเครือข่าย เรียนรู้ประสบการณ์จากผู้ประกอบการที่มีความชำนาญในตลาดอาเซียน รวมทั้งสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีก ส่งเสริมการขยายการลงทุนระหว่างไทยและอาเซียนในภาคการผลิตที่มีการเปิดเสรีการลงทุน ได้แก่ การเกษตร ประมง ป่าไม้ เหมืองแร่ และภาคอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อแสวงหาโอกาสในการลงทุน การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงการนำข้อมูลจากฐานข้อมูลการค้า การลงทุนอาเซียน เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อได้เปรียบและข้อด้อยในการกำหนดชี้ช่องและโอกาสทางธุรกิจในตลาดอาเซียน การส่งเสริมการส่งออกสินค้าและธุรกิจบริการไทยที่ตรงกับความต้องการของแต่ละตลาด การเตรียมความพร้อมสมรรถนะผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของไทยในการรองรับการแข่งขันในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสร้างพันธมิตร และกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นเฟ้นระหว่างองค์กรของไทยกับองค์กรของประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการส่งเสริมการรวมกลุ่มระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการในอาเซียน เพื่อไปทำตลาดในประเทศที่สาม “การสร้างความเชื่อมั่น และการส่งเสริมภาพลักษณ์ และอัตลักษณ์สินค้า สินค้าบริการไทย เช่น ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าและธุรกิจบริการไทยผ่านสื่อต่างๆ การประกาศเกียรติคุณและการมอบรางวัล PM Award / DE mark / TTM / ELMA” นางศรีรัตน์ กล่าวและว่า รวมถึงการเตรียมความพร้อมองค์กร และบุคลากรขององค์กร สู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากนี้ต้องพัฒนา และส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อก้าวไปสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์ทั้งตลาดด้านตะวันตก และด้านตะวันออก ได้แก่ การพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจการให้บริการด้านโลจิสติกส์การค้า การสร้างเครือข่ายการให้บริการโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมอาเซียน + 6 และ ส่งเสริมการใช้ประโยชน์สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์การค้าอย่างสูงสุด สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร.(02) 507-7932-34

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ