กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมฯ โดยสำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ ซึ่งมีภารกิจในอนุรักษ์ส่งเสริมและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในเขตพื้นที่ต้นน้ำ ได้จัดทำโครงการหมู่บ้านพิทักษ์ระบบนิเวศต้นน้ำขึ้น
เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนในพื้นที่ต้นน้ำ รวมทั้งเพิ่มประสิทธภาพในการคุ้มครองพื้นที่ต้นน้ำโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาการมีส่วนร่วมระหว่างรัฐกับชุมชน อันเป็นการสนองแนวพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในหลักการที่ให้ “คนอยู่ป่า” ได้อย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน
ซึ่งแนวทางหลักในการดำเนินโครงการนี้ คือ ลดความขัดแย้ง โดยปรับทัศนคติทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจในสิทธิหน้าที่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้อันเป็นภูมิปัญญาในพื้นที่ “ลุ่มน้ำชุมชน” พร้อมกันนี้ยังมีแนวทางการสร้างความร่วมมือ โดยใช้เวทีชาวบ้านในการเรียนรู้ร่วมกันตลอดจนส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกลุ่มองค์กรพิทักษ์ต้นน้ำเพื่อความร่วมมือในการอนุรักษ์
นอกจากนั้นยังมีการใช้แนวทางการวางแผนร่วมกันโดยเจ้าหน้าที่รัฐและชุมชน เพื่อจำแนกพื้นที่การใช้ประโยชน์ของ “ลุ่มน้ำชุมชน” ให้แบ่งออกเป็นพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน พื้นที่ใช้ประโยชน์จากป่า และพื้นที่ป่าต้นน้ำที่จะพิทักษ์รักษา รวมทั้งร่วมกันกำหนดกติกาของชุมชนเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและจัดทำกิจกรรมหรือโครงการเสนอ
“ทางกรมฯ ได้มอบหมายให้สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 (เดิม) จ.เชียงใหม่ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการนี้ โดยให้หน่วยจัดการต้นน้ำในสังกัดจำนวน 50 หน่วยพิจารณาคัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมาย เฉลี่ยหน่วยละ 2 หมู่บ้านรวม 100 หมู่บ้าน และให้ทุกหมู่บ้านจัดตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบนิเวศต้นน้ำ รวมทั้งเสนอกิจกรรมโครงการหมู่บ้านพิทักษ์ระบนิเวศน์ต้นน้ำประจำหมู่บ้าน ต่อคณะกรรมการฯ ผ่านทางหัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบจากกรมฯ หมู่บ้านละ 50,000 บาท”
ซึ่งกิจกรรมหลักในโครงการที่กำหนดให้ต้องดำเนินการนั้นมีในเรื่อง การพิทักษ์ป่าต้นน้ำลำธารในพื้นที่ลุ่มน้ำชุมชนตั้งแต่ 300 ไร่ขึ้นไป การป้องกันและควบคุมไฟป่า การฟื้นฟูระบบนิเวศต้นน้ำ โครงการปลูกหรือฟื้นฟูป่า รวมทั้งปลูกสมุนไพรเพื่อเป็นอาหารชุมชน การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนมีส่วนร่วม
การสร้างกติกาของชุมชนในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์เชิงอนุรักษ์จากทรัพยากรในพื้นที่ต้นน้ำ พร้อมทั้งการสร้างแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินของหมู่บ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำชุมชน เป็นต้น
“สำหรับผลการดำเนินงานนั้น ขณะนี้ทั้ง 100 หมู่บ้านได้รับงบประมาณสนับสนุนจากงบปี 2547 แล้ว
และทุกหมู่บ้านได้เร่งดำเนินกิจกรรมทุกกิจกรรมตามที่ได้รับอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะมีพื้นที่ป่าต้นน้ำได้รับการฟื้นฟู
อนุรักษ์ให้มีความสมบูรณ์และยั่งยืน ตลอดจนมีการควบคุมและป้องกันไฟป่าจำนวน 198,921 ไร่ และมีองค์กรชุมชนที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการจัดการป่าต้นน้ำ รวมทั้งกฎระเบียบของชุมชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนในทุกหมู่บ้าน” อธิบดีกรมอทุยานฯ กล่าว--จบ--
--อินโฟเควสท์ (อบ)--