กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--IR network
บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) ประกาศไตรมาส 4/2555 ขอทำผลงานโตต่อเนื่องอีกครั้งส่งท้ายปี หลังไตรมาส 3/2555 โชว์ผลงานสุดประทับใจด้วยกำไรสุทธิ 57.6 ล้านบาท เหตุเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ผลักดันให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 31.2% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 22.5% "วิวรรธน์ เหมมณฑารพ" มั่นใจผลประกอบการทั้งปีไม่พลาดเป้าโต 20-25%
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยถึงทิศทางของผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2555 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์นมและน้ำมันหล่อลื่น รวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์ โดยขณะนี้บริษัทมีเครื่องจักรใหม่เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทจะเติบโตได้มากกว่า 20-25% จากปี 2554 ที่มีรายได้รวมอยูที่ 1,644 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นตั้นบริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาไว้ที่ 19-20% โดยมุ่งเน้นการบริหารประสิทธิภาพด้านการผลิตและผลักดันยอดขายในส่วนของธุรกิจหลักที่บริษัทดำเนินการอยู่ให้เติบอย่างต่อเนื่อง
"จากภาพรวมทางเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาที่ถือว่ายังขยายตัวได้ดี ส่งผลทำให้ธุรกิจที่บริษัทดำเนินการอยู่ได้รับผลดีตามไปด้วย เห็นได้จากคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร ไม่ว่าจะเป็นนมและนมเปรี้ยว หรือแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/55 ของบริษัทออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ทำให้มั่นใจภาพรวมในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันได้ โดยในไตรมาส 4 ก็ยังเป็นช่วงที่จะสร้างผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องและเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจด้วย" นายวิวรรธน์กล่าวในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมไตรมาส 3/2555 ปรากฎว่าบริษัทและบริษัทย่อยว่ามีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.6 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 25.3 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.3 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 78.3 ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 151.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น39.8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 112.0 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 35.5 เป็นผลสืบเนื่องมาจากมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 120.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31.2 จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ บรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยว บรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นและบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 22-65 ขณะที่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 20.4 เป็นร้อยละ 22.5 เนื่องจากอัตราการใช้กาลังการผลิต (Utilized Rate) สูงขึ้นโดยเฉพาะสาขาชลบุรี ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง 1.6 ล้านบาท จากการจ่ายคืนชำระหนี้เงินกู้ตามเงื่อนไขการใช้เงินเพิ่มทุน 100 ล้านบาท