กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--บางกอกพีอาร์
สยามพิวรรธน์ ปฏิวัติวงการค้าปลีกและศูนย์การค้าเปลี่ยน สยามเซ็นเตอร์ เป็น Ideaopolis “เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์” คอนเซ็ปต์โปรโตไทป์ใหม่ล่าสุด แห่งแรกในโลก
- นับจากนี้สยามเซ็นเตอร์จะไม่ใช่ศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็น Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการ และงานสร้างสรรค์ ไร้ขีดจำกัดในศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์
- ทุ่มงบกว่า 1,800 ล้านบาท จับมือ 200 แบรนด์ดังสร้างปรากฏการณ์ความร่วมมือในรูปแบบ Collaboration ปฏิวัติวงการค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน ยกระดับมหานครกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าชั้นนำระดับโลก
สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ และพาราไดซ์พาร์ค เปิดตัวสยามเซ็นเตอร์รูปโฉมใหม่ ปฏิวัติวงการศูนย์การค้าและวงการค้าปลีกของโลก (Retail Revolution) ยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าชั้นนำระดับโลก พร้อมเปิดบริการในวันที่ 11 มกราคม 2556
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า “การปรับปรุงสยามเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ มิได้เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปโฉมทั่วไป แต่เป็นการปฏิวัติสู่ยุคใหม่ของวงการค้าปลีก The Retail Revolution ด้วยการบัญญัตินิยามใหม่ รูปแบบใหม่ สยามพิวรรธน์ ตั้งใจที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการศูนย์การค้าไทย โดยการนำเสนอโปรโตไทป์ล่าสุดของวงการ ยกระดับ สยามเซ็นเตอร์และกรุงเทพมหานครให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งและท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก ที่จะดึงดูดใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่เป็น “The Most Powerful Retail Phenomenon” ซึ่งไม่เคยปรากฎที่ใดมาก่อนในโลก
เปิดคอนเซ็ปต์ใหม่ “Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์”
นางชฎาทิพ กล่าวว่า “ สยามเซ็นเตอร์ จะไม่ใช่ศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็น The Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของ ศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ เป็นศูนย์รวมแห่งแนวคิดและการออกแบบใหม่ๆ จากทั่วโลก
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของสยามเซ็นเตอร์นี้ เริ่มจากการปรับพื้นที่ภายในทั้งหมดของสยามเซ็นเตอร์ให้เป็นเสมือน Platform ของงานศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ เราได้เนรมิต คอนเซ็ปต์ช็อป (Concept Shops) ในรูปแบบอาร์ทฟอร์มที่ร้านค้าแบรนด์ต่างๆ จะอยู่ในคอนเซ็ปต์ช็อปรูปทรงแตกต่างกัน นอกจากนี้ สยามเซ็นเตอร์ยังได้จัดพื้นที่สำหรับแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์ดังระดับโลก ขนาดพื้นที่ใหญ่ถึง 500 — 1,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยหน้าร้านที่ตกแต่งด้วยกระจกทั้ง 4 ด้าน ส่งผลให้แต่ละแบรนด์สามารถออกแบบตกแต่งร้านที่สะท้อนภาพลักษณ์ได้อย่างเต็มที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“เวลานี้การทำศูนย์การค้าทั่วไปไม่ว่าที่ไหนทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศจะดูคล้ายๆ กัน เพราะทุกแห่งจะมีแต่ร้านค้าแบรนด์ดังที่มีอยู่หลายแห่ง และร้านค้าแบรนด์ทั้งหลายจะมีการตกแต่งอย่างสวยงามเฉพาะตนเองคล้ายกันในหลายๆ ที่ เป็นการยากที่ศูนย์การค้าจะสร้าง
บรรยากาศที่แตกต่างให้โดดเด่นชัดเจนออกมาได้ ดังนั้นสยามเซ็นเตอร์จะเป็นที่แรกที่ร้านค้าทุกร้านได้ร่วมสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญนี้ในการออกแบบตกแต่งร้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับสยามเซ็นเตอร์อย่างที่ไม่เคยทำที่อื่นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ชั้นนำของไทยและแบรนด์ดังระดับโลก ทั้งกลุ่มสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และกลุ่มร้านอาหาร (F&B) เพื่อให้มีเอกลักษณ์ที่สอดคล้องตาม คอนเซ็ปต์หลักของสยามเซ็นเตอร์ ทำให้สยามเซ็นเตอร์มีความโดดเด่นแตกต่างอย่างชัดเจน” นางชฎาทิพกล่าว
โซโห นิวยอร์ค แรงบันดาลใจที่ต้องสร้างให้ยิ่งกว่า
โซโห ย่านสำคัญของนครนิวยอร์ค คือ หนึ่งในแรงบันดาลใจหลากหลายที่นำมาสร้างสรรค์ สยามเซ็นเตอร์รูปโฉมใหม่ “ในย่านโซโห คุณจะเห็นส่วนผสมที่เหนือกาลเวลาและความมีชีวิตชีวาของศิลปะ แฟชั่น และเทคโนโลยี ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่สอดคล้องกับบรรยากาศที่ตื่นเต้น และ มีพลัง เป็นสถานที่เดียวในโลกที่ร้านค้าทุกประเภทจากแบรนด์ดังระดับโลกจนถึงร้านอาหารได้ปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่มีบุคลิกเฉพาะอันโดดเด่นของย่านนี้ ในขณะเดียวกันแต่ละร้านก็รักษาไว้ซึ่งคอนเซ็ปต์ที่ทำให้ตัวแบรนด์มีความพิเศษและมีคุณค่าของตนเองที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร ในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ จะเกิดขึ้นภายใต้หลังคาเดียวกัน คือ ณ สยามเซ็นเตอร์” นางชฎาทิพกล่าว
นางชฎาทิพอธิบายถึงแนวคิดการออกแบบตกแต่งสยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ว่าเป็นการผสม- ผสานความเท่ของอินดัสเทรียลชิค (Industrial Chic) เข้ากับดีไซน์ความล้ำหน้า และทันสมัยแบบ สุดขั้ว (Ultra-modern) ซึ่งทำให้เกิดภาพ และบรรยากาศของความขัดแย้งและความตรงกันข้ามกัน ที่ผสมผสานอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว เล่นแสงกับสี ความมืดและความสว่าง แม้แต่ในส่วนของการจัดแสงไฟซึ่งโดยปกติของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วไปมักจะจัดให้ดูเรียบง่ายเป็นกลาง แต่ที่สยามเซ็นเตอร์ใช้วิธีการจัดแสงที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษด้วยโคมไฟที่ดีไซน์ขึ้นแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ และมีลักษณะเป็น Art Piece ไปด้วยในตัว ทำให้บรรยากาศโดยรวมของสยามเซ็นเตอร์น่าตื่นตาตื่นใจ และดูไม่เหมือนศูนย์การค้าแต่จะเหมือนกับฮิปโฮเต็ลมากกว่า ซึ่งรวมกันแล้วจะเป็นสไตล์ที่จะอยู่ในความนิยมร่วมสมัยไปได้อีกนานมาก และได้มอบหมายให้ บริษัท เออร์เบิ้น อาร์คิ-เต็คส์ จำกัด โดยคุณอัจฉริยะ และ คุณวาลุกา โรจนะภิรมย์ ทำแบบตามคอนเซ็ปต์ที่บริษัทวางไว้
สยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ล่าสุดนี้ นอกจากเป็นศูนย์กลางแห่งงานสร้างสรรค์ด้านแฟชั่น ศิลปะ และไลฟ์สไตล์แล้ว ยังเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมใหม่ๆ ของการสร้างสรรค์ด้านสื่อดิจิตอลมัลติมีเดีย อีกด้วย โดยรวบรวมเทคโนโลยีล่าสุดทั่วโลก และนำมาผสมผสานเข้ากับการตกแต่งภายในสยาม-เซ็นเตอร์ควบคู่ไปกับฟังก์ชั่นการใช้งาน “สยามเซ็นเตอร์ เปิดโอกาสให้ผู้คนสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทุกย่างก้าวภายในสยามเซ็นเตอร์ คุณจะอยู่ท่ามกลาง
นวัตกรรมใหม่แห่งโลกอนาคตที่คุณจะสนุกสนานและสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับความล้ำหน้าแห่งเทคโนโลยีได้อย่างใกล้ชิด”
สยามพิวรรธน์ทุ่มงบประมาณการลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ กว่า 70 ล้านบาท โดยภายในอาคารได้ติดตั้ง LED Screen และมอนิเตอร์รูปแบบต่างๆ มากกว่า 500 จอทั่วทั้งอาคาร เสริมสร้างบรรยากาศภายในให้มีพลัง ลูกค้าจะมีความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทุกครั้งที่เดินเข้ามาในสยามเซ็นเตอร์ด้วยภาพต่างๆ ในจอที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งเป็นการโชว์ Moving Art Content อันน่าตื่นตาตื่นใจ ที่สยามเซ็นเตอร์ได้ทำ Collaboration กับศิลปินชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจะเป็นสื่อในการแนะนำสินค้าของแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ เช่น Digital Closet หรือ Digital Stylist ที่ลูกค้าสามารถจะลองเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านจอทัชสกรีนระบบดิจิตอล ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำในการเลือกสินค้า ได้ข้อมูลสินค้าฮอตไอเทม สินค้าคอลเลคชั่นใหม่ และไอเดียในการแต่งตัวใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กับประสบการณ์ที่สนุกสนานอีกด้วย
พลังแห่ง Absolute Siam ที่มีเพียงที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น
นางชฎาทิพ กล่าวว่า “สยามเซ็นเตอร์จะสร้างความตื่นเต้นให้แก่วงการศูนย์การค้า โดยใช้แนวความคิดของการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้ค้าและเจ้าของแบรนด์ดัง เพื่อทำให้ร้านค้าทั้งหมดในอาคารมีเอกลักษณ์ที่สอดคล้องและตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าในแนวทางเดียวกัน ซึ่งจะไม่ปรากฎที่ไหนนอกจากที่สยามเซ็นเตอร์ เราเรียกคอนเซ็ปต์นี้ว่า “Absolute Siam”
นางชฎาทิพ กล่าวว่า “ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ศึกษา วิจัย และร่วมพูดคุยกับเจ้าของแบรนด์ต่างๆ ทั้งแบรนด์ดังระดับโลก แบรนด์สินค้าประเภทฟาสต์ฟอร์เวิร์ดแฟชั่น และ แบรนด์ไทย เพื่อทำงานร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์ “Absolute Siam” ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสยามเซ็นเตอร์ในทุกๆ ระดับที่จะสามารถนำเสนอได้ ซึ่งทุกแบรนด์ต่างตื่นเต้นและได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์จากต่างประเทศต่างๆ ล้วนเห็นตรงกันว่า คอนเซ็ปต์ใหม่ของสยามเซ็นเตอร์นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ทรงพลังที่สุดในวงการค้าปลีกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”
“Absolute Siam” จะเป็นไฮไลท์และแม็กเน็ตสำคัญที่บ่งบอกความเป็นสยามเซ็นเตอร์ได้มากที่สุด โดยจะนำเสนอปรากฏการณ์ที่มีความพิเศษสุดที่แตกต่าง คือ:
? ร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลกและแบรนด์ไทยทุกร้านภายในสยามเซ็นเตอร์ออกแบบ ตกแต่งร้าน สร้างสรรค์นิวโปรโตไทป์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
? สินค้าและบริการของร้านค้าจะมีการนำเสนอแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น โดย 20% ของสินค้าจะเป็นการออกแบบและจำหน่ายเฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์ ส่วนแบรนด์ต่างประเทศก็จะนำสินค้าคอลเลคชั่นใหม่มาลงที่สยามเซ็นเตอร์ก่อนสาขาอื่นๆ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังรวมถึงบรรดาร้านอาหารและ caf? ที่จะมีเมนูเด็ดที่มีจำหน่ายที่นี่เพียงแห่งเดียว อีกทั้งบางร้านจะให้บริการพิเศษในรูปแบบ personalise ที่มีได้หนึ่งเดียวในเอเชียเท่านั้นอีกด้วย
? สยามเซ็นเตอร์ร่วมกับร้านค้าได้พัฒนา product line ใหม่ๆ ขึ้นมา กระตุ้นให้ร้านค้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน แตกไลน์ signature label ต่อยอดความสำเร็จให้แก่แบรนด์ในเชิงลึก มีการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ร้านที่เคยจำหน่ายเฉพาะสินค้าแฟชั่น จะมีการเปิดบริการเครื่องดื่มและ เบเกอรี่ บริการรับจัดดอกไม้ หรือ เพิ่มการผลิตสินค้าตกแต่งบ้าน stationary เป็นต้น รวมทั้งการนำเสนอสินค้าใหม่ในกลุ่ม Absolute Siam ที่จะมีจำหน่ายที่สยามเซ็นเตอร์เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
? ร้านค้าต่างๆ ได้ทำการออกแบบ Visual Merchandise Design การจัดดิสเพลย์ในรูปแบบใหม่ทั้งหมด อีกทั้งสยามเซ็นเตอร์มีทีมที่ปรึกษาด้านการออกแบบตกแต่งร้านและการจัด ดิสเพลย์ สามารถช่วยตกแต่งให้พื้นที่หน้าร้านสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์กลางของศูนย์ฯ หรือกิจกรรมทางการตลาดที่จัดร่วมกับศูนย์ฯ อยู่ตลอดเวลา
? สยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์รวมแห่งการสร้างสรรค์ในรูปแบบ Collaboration โดยมีการทำงานร่วมกันกับศิลปินระดับโลกและศิลปินชื่อดังของไทยในการผลิตผลงานร่วมกัน และการจัด
แสดงนิทรรศการ (Art Display & Exhibition) ที่หาชมได้ยาก โดยจัดอย่างต่อเนื่องไปตลอดเวลา
? สยามเซ็นเตอร์นำเสนอ Interactive Communication เพื่อเชื่อมโยงและมีปฏิสัมพันธ์และให้ข้อมูลข่าวสาร trend ของโลก และสินค้าจากร้านค้า รวมทั้งโปรโมชั่นและอีเว้นท์ต่างๆ กับลูกค้าผ่านทางเทคโนโลยีล้ำสมัย
สยามพิวรรธน์ เป็นมากกว่าผู้พัฒนาวงการ
การปฏิวัติวงการศูนย์การค้าครั้งสำคัญนี้ เป็นปรากฎการณ์ที่สะท้อนว่า สยามพิวรรธน์ทำงานก้าวข้ามจากการเป็น Retail Developer ไปอีกสเต็ปต์ ในการบุกเบิกแนวทางใหม่ของการทำงานร่วมกันกับเจ้าของแบรนด์และผู้เช่า ซึ่งการปรับปรุงทุกอย่างในครั้งนี้ทั้งสิ้นมีมูลค่าการลงทุนรวมกันกว่า 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็น สยามพิวรรธน์ 1,000 ล้านบาท ในส่วนของการตกแต่งภายนอกอาคาร และการตกแต่งภายในศูนย์ฯ ในขณะที่ทางผู้เช่าและเจ้าของแบรนด์ต่างๆ ร่วมลงทุนรวมจำนวนกว่า 800 ล้านบาทในการรีแบรนด์ดิ้ง (Re-branding) ออกแบบและสร้างสรรค์ร้านค้าให้มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เฉพาะที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น มิใช่การเปิดร้านในรูปแบบปกติที่เคยทำกันมาในศูนย์การค้าอื่นทั่วไป
นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ได้ช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการสินค้า (Merchandise) ให้ แบรนด์ต่างๆ ได้พัฒนาสินค้าและบริการในเชิงลึกต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์สู่อนาคต แนะนำการแตกไลน์สินค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม และได้ให้คำปรึกษาด้านการออกแบบตกแต่งร้าน และการจัด ดิสเพลย์ใหม่ให้กับร้านที่ต้องการนำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และสิ่งสำคัญคือ Integrated Marketing แผนการตลาดครบวงจรที่จะตอบรับปรากฏการณ์การปฏิวัติวงการค้าปลีกในครั้งนี้ เพื่อสร้างความสำเร็จให้กับผู้เช่าโดยเน้นการสื่อสารในเรื่องการรีแบรนด์ดิ้งและสินค้า Absolute Siam ซึ่งเป็นแม็กเน็ตสำคัญ ไปยังทุกช่องทางการสื่อสารอย่างครบวงจร ทั้งสิ้นนี้ยังไม่มี Retail Developer รายใดได้บริหารจัดการร่วมกับผู้ประกอบการร้านค้าในรูปแบบเช่นนี้มาก่อน
Collaboration กลยุทธ์การวาง Positioning ใหม่ในอนาคต
คอนเซ็ปต์การ Collaboration ของสยามเซ็นเตอร์รูปโฉมใหม่ ยังปรากฎในทุกๆ รายละเอียดภายในอาคาร โดยทำงานในลักษณะ Collaboration ร่วมกับเหล่านักออกแบบและศิลปิน ระดับโลก เช่น มร.ฮิโรโตชิ ซาวาดะ (Mr. Hirotoshi Sawada) ศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้มีผลงานการออกแบบชิ้นงานศิลปะและ Sculpture ตกแต่งให้กับโรงแรมระดับ 5 ดาว และห้างร้านชื่อดังในหลายประเทศทั่วโลก มาสร้างสรรค์ อาร์ทพีชที่น่าตื่นตาตื่นใจที่จะประดับอยู่ภายในศูนย์ฯ, มร.ซานตู มัสโทเนน (Mr.Santtu Mustonen) ศิลปินอิลัสเตรเตอร์ชาวฟินแลนด์ ซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย ทั้งในเฮลซิงกิ อัมสเตอร์ดัม และนิวยอร์ก มาร่วมออกแบบ Illustration ที่จะปรากฎในแคมเปญโฆษณาใหม่ล่าสุดของสยามเซ็นเตอร์ รวมทั้งของที่ระลึกชิ้นพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เตรียมมอบให้ลูกค้า
นอกจากนี้ ยังมีศิลปินชาวไทยชื่อดังแขนงต่างๆ มาร่วมงาน Collaboration กับ สยาม เซ็นเตอร์ มากมาย อาทิ การนำการ์ตูนแอนิเมชั่น "ยอดชายนายศุขเล็ก" ผลงานสร้างสรรค์ของ ประยูร จรรยาวงษ์ นักเขียนการ์ตูนชื่อดังรุ่นแรกๆ ของเมืองไทย มาถ่ายทอดให้มีชีวิตโลดแล่นบนจอ LED ขนาดใหญ่เหนือเพดาน ปิยะ ผาสุข นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์รุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามอง มาร่วมออกแบบเฟอร์นิเจอร์ส่วนกลางให้แก่สยามเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ การทำงานลักษณะ Collaboration นี้ จะเป็นแนวทางหลักของสยามเซ็นเตอร์ต่อไป เพื่อให้เป็นแหล่งที่ศิลปินไทยและศิลปินต่างชาติได้มาแลกเปลี่ยนความสามารถกัน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือบทพิสูจน์ว่า สยามพิวรรธน์ เป็นมากกว่า Retail Developer ทั่วไป เพราะสยามพิวรรธน์ได้สร้างปรากฏการณ์ Exclusive Speciality Concept ซึ่งไม่เคยปรากฎที่ใดมาก่อน
เตรียมพบกับรูปโฉมใหม่ของสยามเซ็นเตอร์ ที่ทุกคนต้องตะลึง!
คนรักสยามเตรียมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ต้องตื่นตะลึง โดย สยามเซ็นเตอร์ จัดพื้นที่ชั้นต่างๆ ให้มีความโดดเด่นทั้งในด้านแบรนด์สินค้าและการตกแต่งที่มีความเฉพาะตัว ได้แก่
ชั้น 1 Fashion Avenue ซึ่งประกอบด้วยร้านแฟล็กชิปสโตร์ของแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ในพื้นที่ร้านขนาดใหญ่ ตกแต่งพื้นที่ในลุกส์โปร่ง สบายตา ฟรีฟอร์ม อาทิ การใช้กระจกหรืออาครีลิกใสทรงโค้งเหลี่ยม ในการตกแต่งหน้าร้าน เปิดพื้นที่ทางเดินให้โล่งกว้าง
ชั้น 2 Fashion Galleria พื้นที่ของอินเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าและแอ็คเซสเซอรี่ ทั้งกลุ่มแฟชั่นและกลุ่มคอสเมติก มีการจัดพื้นที่แบบคอนเซ็ปต์ช็อป (Concept Shop) ซึ่งทุกร้านค้าออกแบบการตกแต่งร้านสุดทันสมัยในลุกส์โทนสีขาวดำการตกแต่งของร้านค้าคอนเซ็ปต์ช็อปได้รับการสร้างสรรค์ด้วยรูปทรงแปลกตา
ชั้น 3 Fashion Visionary ศูนย์รวมแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยชั้นนำครบครันที่สุดในประเทศไทย ที่เหล่าดีไซเนอร์ต่างออกแบบเนรมิตร้านใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นแฟล็กชิปสโตร์ที่มีสินค้าครบที่สุด นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การตกแต่งบริเวณชั้น 3 จะเป็นแนวออร์แกนิคลุกส์ ใช้วัสดุตกแต่งด้วยไม้ เหล็ก และทองแดง
ชั้น 4 Food Factory แหล่งแฮงค์เอ้าท์สุดฮิปแห่งใหม่ใจกลางเมือง ด้วยภัตตาคาร ร้านอาหารนานาชาติ รวบรวมร้านเด็ด จานดังมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศแปลกใหม่ แนวอินดัส-เทรียลลุกส์ ที่จะเป็นแหล่งนัดพบที่สนุกสนาน เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืน
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย : Siam DNA
ลูกค้าประจำของสยามเซ็นเตอร์ จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มี SIAM DNA คือ เป็นคนที่ให้ความสนใจเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นผู้สร้างกระแสนิยม (Trend Setter) เป็นคนที่ชื่นชอบในศิลปะและแฟชั่น นอกจากนี้ ยังก้าวทันเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
“ในการทำโปรเจคใดๆ ก็ตาม สยามพิวรรธน์จะทำการศึกษาวิจัย และนำเสนอโปรเจคให้ตอบสนองตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ตรงกับคาแรกเตอร์ของลูกค้าในแต่ละแห่งที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น สยามเซ็นเตอร์โฉมใหม่ ได้ผ่านการคิดค้นเพื่อให้ตรงตามคาแรกเตอร์ของลูกค้าสยามเซ็นเตอร์ 100 % เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกค้ามาที่สยามเซ็นเตอร์เพื่อต้องการอัพเดท Global เทรนด์ใหม่ๆ มีความคาดหวังในการซื้อสินค้าและบริการที่ล้ำกว่าที่อื่นๆ เพราะเป็นที่ยอมรับว่าสยามเซ็นเตอร์เป็นแหล่งที่นำเสนอเทรนด์ที่ล้ำสมัยกว่าที่อื่นๆ ทุกยุคทุกสมัย หากคนต้องการสินค้าธรรมดาทั่วไปก็ไม่จำเป็นต้องมาที่สยามเซ็นเตอร์ ดังนั้น คอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่าเราทำเพื่อตอบสนองลูกค้าของสยามตัวจริงที่มี Absolute Siam DNA และ เชื่อว่า คอนเซ็ปต์นี้ ไม่สามารถนำไปใช้กับศูนย์การค้าอื่น โลเคชั่นอื่นได้ เพราะความคาดหวังของลูกค้าในที่อื่นๆ ไม่ได้มีความคาดหวังในระดับที่มากขนาดนี้” นางชฎาทิพ กล่าว
นางชฎาทิพกล่าวว่า “ในวันนี้ ลูกค้าที่เข้ามาที่สยามเซ็นเตอร์ไม่จำเป็นต้องมีจุดมุ่งหมายในการซื้อสินค้า แต่พวกเขารู้ว่าเมื่อก้าวเข้าสู่สยามเซ็นเตอร์ จะได้รับประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นรับรู้เทรนด์ที่ล้ำที่สุดจากทั่วโลก และได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่จะนำเสนอครอบคลุมให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ได้อย่างแท้จริง”
ไทยจะก้าวสู่แถวหน้าในวงการค้าปลีกโลก
"ดิฉันปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นประเทศไทยก้าวสู่แถวหน้าในวงการธุรกิจการค้าโลก นี่คือเหตุผลที่สยามเซ็นเตอร์ต้องเป็นผู้บุกเบิกนำไอเดียที่ก้าวล้ำที่สุดนี้มาใช้เป็นแห่งแรก ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่มีอิทธิพลต่อการยกระดับผู้ประกอบการศูนย์การค้าให้คิดใหม่ ทำใหม่ มากขึ้นกว่าเดิม และจะเป็นตัวอย่างในการพัฒนาศูนย์การค้าทั่วโลกในอนาคต” นางชฎาทิพ กล่าว
“เรามักจะได้ยินคนไทยพูดถึงความต้องการที่อยากจะเห็นกรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางแห่งการ ช้อปปิ้งเหมือนที่นิวยอร์ค ลอนดอน หรือฮ่องกง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะบอกใครๆ อย่างภาคภูมิใจว่าประเทศอื่นๆ จะต้องหันมามองกรุงเทพฯ และเห็นว่าศูนย์กลางแห่งการช้อปปิ้งสุดล้ำสมัยนั้นควรเป็นเช่นไร” นางชฎาทิพ กล่าว
นับจากนี้
สยามเซ็นเตอร์ จะไม่นำเสนอเรื่องการช้อปปิ้งอีกต่อไป
แต่ สยามเซ็นเตอร์ จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ (New Experience)
ที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด คุณสิรีธร นิยมเสน โทรศัพท์ 02-658 1000 ต่อ 234
บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด คุณไพโรจน์ ภาชนะปรีดา โทรศัพท์ 02-664 9500 ต่อ 115