ไนท์แฟรงค์เผยตลาดคอนโดมิเนียมระดับไพร์มเติบโตต่อเนื่อง ชูจุดแข็งบริการระดับโรงแรมไฮเอนด์ เจาะกลุ่มคนรวยต่างชาติและไทย

ข่าวอสังหา Thursday November 29, 2012 18:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--ไนท์แฟรงค์ ระบบขนส่งมวลชนของที่สะดวกสบายประกอบกับชื่อเสียงอันลือชื่อเรื่องการบริการ และการต้อนรับที่อบอุ่น ได้ส่งผลให้คอนโดมิเนียมระดับหรูผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อนภายในกรุงเทพมหานครเมื่อปีที่ผ่านมา คอนโดฯ หรูหราชั้นหนึ่งเหล่านี้ มักจะเพียบพร้อมไปด้วยบริการระดับ5ดาว และสิทธิการเช่าทรัพย์สิน (Leasehold) ที่อยู่ระหว่าง 30 — 90 ปี เครือโรงแรม2เครือ ที่เลื่องลือทั่วโลกในด้านการบริการ ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นประกอบไปด้วย Ritz Carlton และ St. Regis ซึ่งทั้งสองแบรนด์ดังนี้ ได้มุ่งนำเสนอความพิเศษเฉพาะตัวของแบรนด์ โดยได้เปิดโครงการระดับหรูในกรุงเทพมหานครได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมืองไทยถือได้ว่าเป็นตลาดที่น่าไว้วางใจที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่คิดจะลงทุนซึ้อคอนโดฯ ระดับหรูด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือการเปิดตัวของประชาคมอาเซียนซึ่งได้มีการคาดคะเนว่าจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายในกรุงเทพฯ และเสริมความต้องการของคอนโดมิเนียมระดับบน สินทรัพย์เหล่านี้เคยประสบกับสภาวะการเจริญเติบโตที่ซบเซาเนื่องจากผู้พัฒนาโครงการขาดที่ดินทำเลที่เหมาะสมในราคาที่สมเหตุสมผล จึงทำให้ราคามีแนวโน้มที่สูงขึ้น (ซึ่งผลตอบแทนการลงทุนก็จะมากขึ้นสำหรับนักลงทุน) สำหรับโครงการที่ออกแบบแปลนอย่างมีประสิทธิภาพ และโครงการที่มีความเป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตามราคาสินทรัพย์ในกรุงเทพฯ ก็ยังคงมีดึงดูดผู้ซื้อมากกว่าราคาสินทรัพย์ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ จาการ์ตา กัวลาลัมเปอร์ และเมืองนานาชาติอื่นๆ และนอกจากนี้ กรุงเทพฯ ก็ยังคงนำเสนอตัวเลือกไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ สำหรับชาวต่างชาติอีกด้วย มิสเตอร์แฟรงค์ ข่าน ผู้อำนวยการ- หัวหน้าฝ่ายที่ฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าถึงแม้การพัฒนาที่ดินใหม่ๆ ในตลาดแห่งนี้ยังคงจำกัดอยู่ เพราะยังขาดทำเลที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาที่ดินในพื้นที่ย่านธุรกิจในใจกลางเมือง แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ของ3โครงการหรูกำลังจะย่างเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอีกไม่ช้า อสังหาริมทรัพย์หรูหราชั้นหนึ่งมักถูกมองว่าเป็นตัวป้องกันความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อ และเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals) ซึ่งความต้องการของคอนโดมิเนียมหรูในตลาดมักจะมาจากบุคคลเหล่านี้ และอภิมหาเศรษฐี (Ultra High Net Worth Individuals) ส่วนใหญ่นักลงทุนในทั้ง2กลุ่มนี้มากรุงเทพมหานครเป็นประจำเพื่อมาทำธุรกิจ พักผ่อน หรือทั้งสองอย่าง โดย 70% ของตลาดเป้าหมายหลักประกอบด้วยชาวฮ่องกงเชื้อสายจีน ชาวฮ่องกงที่ทำงานในประเทศไทย ชาวสิงค์โปร์เชื้อสายจีน ชาวสิงค์โปร์ที่ทำงานในประเทศไทย ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ และชาวรัสเซีย ส่วนผู้ซื้อลำดับสองคือ 10% มาจากยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย ไต้หวัน และเกาหลี และที่เหลือ 20% เป็นคนไทย และคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหาคร นอกจากนี้ยังมีดีมานด์จากองค์กรข้ามชาติ เช่น บริษัทชั้นนำจากฮ่องกงที่ซื้อคอนโดระดับไฮเอนด์ไว้สำหรับเป็นที่พักของผู้บริหารและหุ้นส่วนในการเดินทางมาทำธุรกิจที่กรุงเทพ ซึ่งเขาเหล่านี้จะได้รับบริการที่สะดวกสบายในระดับโรงแรม5ดาวไปด้วย จากการสำรวจโดยธนาคาร HSBC ในปี 2553 จากกลุ่มชาวต่างชาติ 4000 รายใน 25 ประเทศ ผู้ซึ่งได้ทำการย้ายถิ่นฐานและ ณ ปัจจุบันกำลังอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศของตน ระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศมากที่สุดเป็นอันดับแรก ตามด้วยแคนาดา และสเปน เป็นอันดับรองลงมา อีกทั้งยังเป็นอันดับสองในหมู่ประเทศที่มีสมดุลในการใช้ชีวิต และการทำงานที่ดีที่สุด โดยมีแอฟริกาใต้เป็นอันดับหนึ่ง และสเปนเป็นอันดับสาม มิสเตอร์ข่าน กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากทำเลที่ยอดเยี่ยมแล้ว มาตรฐานการบริการที่ดีเลิศโดยแบรนด์โรงแรมนานาชาติ ก็ยิ่งเสริมความพิเศษเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของของแต่ละโครงการระดับไฮเอนด์ โดยโครงการเหล่านี้จำต้องเพียบพร้อมด้วยบริการที่ครอบคลุม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานและเฉพาะตัวสำหรับผู้อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ และเพื่อให้เท่าเทียมกับมาตรฐานระดับโลก ห้องชุดหรูหราเหล่านี้จึงออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและการตกแต่งอย่างมีระดับที่ตอบสนองถึงทุกความต้องการสำหรับชีวิตคนเมืองที่ร่วมสมัย ในส่วนของขนาดยูนิตคอนโดฯ ที่จัดได้ว่าเป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมจะต้องเป็นห้องชุด 2 ห้องนอนขึ้นไป ห้องชุดเพ้นท์เฮ้าส์ และห้องชุดดูเพล็กซ์ โดยที่ห้องชุด 1 ห้องนอนจะไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดฯ หรูในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ระหว่าง 225,000 บาท ถึง 320,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นมาประมาณ 4% จากปีที่แล้ว กล่าวโดย มิสเตอร์ข่าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ