วี-คูล ย้ำโต 70%

ข่าวยานยนต์ Friday November 30, 2012 17:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--วี-คูล วี-คูล มาแรง โตแซงหน้าตลาดรถเมืองไทยยอดขายฟิล์มกันร้อน ทั้งมูลค่าและปริมาณปีนี้โตถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว วี-คูล ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำด้านฟิล์มกันร้อนระดับบนสำหรับรถยนต์ ประกาศมูลค่ายอดขายและปริมาณปีนี้พุ่งถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว แม้ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะพุ่งทะยานแตะระดับ 1 ล้านคันหรือคิดเป็นอัตราเติบโตที่ 49% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับ บริษัท วี-คูล ประเทศไทย แล้ว นับว่ากำลังถึงจุดเติบโตสูงสุด แซงหน้าอัตราการเติบโดของอุตสาหกรรม จากการมียอดขายและปริมาณการขายฟิล์มกรองแสงแบบเลือกรังสี ของ วี-คูล พรีเมี่ยม สูงถึง 70% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุก็คือการขยายตัวอย่างมากของอุตสาหกรรมยานยนต์ และความต้องการแบรนด์ วี-คูล ที่ลูกค้ามักถามหา การรุกตลาดเข้าหาโชว์รูมรถยนต์ และกลยุทธใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ การเติบโตในยอดขายของ วี-คูล นั้น มาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ รวมไปถึงการเร่งดำเนินกิจกรรมทางการตลาดของ วี-คูล เพื่อกระตุ้นความต้องการของลูกค้า การรุกตลาดโชว์รูมรถยนต์ และการสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางการตลาด นางสาวพิมพา ชลาลัย ประธานบริหาร บริษัท วี-คูล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “การเติบโตของ วี-คูล ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากคุณลักษณะพิเศษที่เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งในเรื่องคุณภาพที่เด่นชัดในการป้องกันความร้อน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ลูกค้าสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกของตัวเอง ทำให้วี-คูลแตกต่างและโดดเด่น กว่าฟิล์มยี่ห้ออื่น ๆ เหนือไปกว่านั้นวี-คูล ยังเป็นผู้พัฒนาหรือเรียกได้ว่าปฏิวัติวงการฟิล์มติดรถยนต์ด้วยการยกระดับร้านประดับยนต์ให้ก้าวข้ามไปอีกระดับหนึ่ง ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า “V-KOOL Full Fledged Outlet” หรือร้านติดตั้งภายใต้ตราสัญลักษณ์วี-คูลเต็มรูปแบบ โดยร้านค้าที่เป็นผู้แทนจำหน่ายต้องได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็น ทางการ รวมถึงได้รับการฝึกอบรมด้านมาตรฐานการติดตั้ง และการบริการอย่างเป็นเลิศ หากก้าวเข้ามาในศูนย์ติดตั้งชั้นนำของเราลูกค้าจะได้สัมผัสกับ การต้อนรับ และการอธิบายรายละเอียดของสินค้ารวมถึงการทดสอบทดลองสินค้าในอุโมงค์ทดสอบฟิล์ม ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสินค้าได้ด้วยตัวเองอย่างความมั่นใจ ในระหว่างที่รอการติดตั้งลูกค้าสามารถมองเห็นรถยนต์ของตัวเองอยู่ภายใต้การติดตั้งในห้องปลอดฝุ่น ในขณะเดียวกันลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายจากการต้อนรับด้วย เครื่องดื่มนานาชนิดที่ผู้แทนจำหน่ายจัดเตรียมไว้ให้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเราใส่ใจพัฒนาในทุกๆ สิ่ง จึงทำให้วี-คูลเติบโตอย่างก้าวกระโดด” ทางด้านนายกนต์ธร จาตุภัทรพนิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี-คูล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า “หนึ่งในสามภารกิจหลักของ วี-คูล คือ ผลักดันเรื่อง EnviroCare ในฐานะที่เรามีบทบาทเป็นหนึ่งในผู้นำในการรณรงค์ลดโลกร้อน เราสามารถพูดได้ว่า เราสนับสนุนแนวทางการทำธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม วี-คูล ยังคงเป็นบริษัทเดียวในตลาดที่ระบุปริมาณการลดอัตราการปล่อยคาร์บอนจากการเลือกฟิลม์ต่างชนิดกัน ฟิลม์รุ่น Solitaire ของเราสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 132 กก. ต่อคันต่อปี เทียบเท่ากับการที่ต้นไม้ 11 ต้นต้องดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งปี” อีกปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จคือการทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ รวมไปถึงโรงงานประกอบรถยนต์อย่างต่อเนื่องและขยายการขายปลีกออกไปทั่วประเทศ นายกนต์ธรกล่าวเสริมว่า “วี-คูล ประเทศไทย มีศูนย์ค้าปลีกมากกว่า 75 แห่ง และยังร่วมมือกับโชว์รูมรถยนต์ชั้นนำ มากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ เราเน้นเรื่องที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด ดังนั้นกลยุทธ์การค้าปลีกของวี-คูล ที่ไม่มีใครแซงหน้าได้ และ ความน่าเชื่อถือของสัญลักษณ์ วี-คูล ทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีเลิศสำหรับเครือข่ายธุรกิจของเราในประเทศไทย แม้ในช่วงปีที่แล้วที่เกิดมหาอุทกภัย หุ้นส่วนของเราก็ยังเห็นว่าธุรกิจของเราสามารถเติบโตได้โดยไมได้รับผลกระทบใด ๆ ซึ่งเป็นผลจากความแข็งแรงของแบรนด์ วี-คูล โดยลูกค้าชาวไทยเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเติบโตได้อย่างมากเป็นประวัติการณ์” สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในช่วงงานมหกรรมยานยนต์ประจำปี 2555 นี้ บูธ วี-คูล ประเทศไทย จะนำเสนอแพ็คเกจฟิล์มติดรถยนต์ 3 ชุดได้แก่ 1. Solitaire Energy 2. Eco Stature และ Ozone signature เพื่อเป็นทางเลือกแก่ลูกค้าพิจารณาตามความเหมาะสมกับรถของตน ยกตัวอย่างเช่น แพ็คเกจ Solitaire Energy จะเป็นการติดฟิล์ม V-kool 70 บนกระจกบานหน้า และ V-Kool 30 บนกระจกด้านข้างและด้านหลัง เพื่อสะท้อนแสงอินฟราเรดออกไปและป้องกันความร้อนให้รถยนต์ได้มากถึง 99% ขณะที่ปล่อยแสงสว่างผ่านได้มากถึง 70% ทางกระจกบานหน้าเพื่อความปลอดภัยและขับขี่อย่างสะดวกสบายที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ