สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 7, 2012 10:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,690 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,696 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.67 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท และกลับมาปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,411 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 15,632 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 62 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3% Silver Futures ลดลง 15% GFZ12 ปิด 24,830 บาท และ GFG12 ปิด 24,970 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,820 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,970 บาท SVZ12 ปิดที่ 1,020 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,701.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.11 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,351.53 ตัน ( ถือครองเท่าเดิม ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.62 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 86.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 39.55 จุด ปิดที่ 13,074.5 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.3 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ ที่มา : TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC - กลุ่มเทรดเดอร์กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ราคาทองคำแท่งปรับตัวสูงขึ้นพอประมาณจากปริมาณการซื้อขายในยุโรป ซึ่งเป็นแรงซื้อขายทางเทคนิค หลังจากที่ตลาดให้การสนับสนุนเพิ่มขึ้น โดยไม่สนใจสกุลเงินดอลลาร์ที่กำลังแข็งค่าในขณะนี้ - สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 1,701.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1704.8 - 1687.1 ดอลลาร์ - หลี่ หนิง นักวิเคราะห์ประจำสถาบันซึ่งไฮ้ CIFCO ฟิวเจอร์ส์ กล่าวว่า ETF ยังคงเป็นผู้ถือครองทองคำในระดับสูงสุด ถึงแม้ว่าราคาทองคำไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก นั่นหมายความว่ากองทุนยังคงรอโอกาสอันดีจากอนาคตของทองคำ นอกจากนี้ หลี่ หนิง ยังคาดการณ์ว่า ทองคำจะกลับมาสดใสอีกครั้งที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ ภายในครึ่งปีแรกของปี 2013 และสามารถผ่อนคลายทุนสำรองในปีหน้าได้ ซึ่งจะเป็นการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจโลกที่อาจมีการอนุมัติให้ธนาคารกลางของพวกเขาออกจากการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน - มีการเคลื่อนไหวอย่างเบาบางต่อภาคความเชื่อมั่นและความสนใจในกลุ่มโลหะมีค่า ซึ่งกลุ่มตลาดเงินทุนก็ยังคงรอความชัดเจนในการแก้ปัญหา fiscal cliff ที่จะมีการตัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มภาษีอย่างอัตโนมัติเป็นจำนวนกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ ที่จะเกิดในช่วงมกราคม และกุมภาพันธ์ได้ - โดยนักโบรกเกอร์ของสแตนดาร์ดแบงก์ กล่าวว่า “ทุกคนต่างรอคอยความคืบหน้าในการเจรจาหารือถึงปัญหา fiscal cliff ซึ่งพวกเราเชื่อว่าจะส่งผลต่อกลุ่มโลหะมีค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทองคำที่จะมีความยากลำบากในการทรงตัวตลอดสัปดาห์นี้ อย่างน้อยที่สุดก็ขึ้นอยู่กับในวันนี้ที่มีการประกาศตัวเลข non-farm payroll รวมถึงความคืบหน้าในเรื่องของ fiscal cliff ที่ยังไม่ปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจนนัก” นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในสภาวะของกลุ่มตลาด ที่คาดว่าจะยังคงถกเถียงกันต่อในเรื่องของ fiscal cliff โดยที่การหารือเจรจาต่อรองในกรุงวอชิงตันระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ยังคงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มตลาดเงินทุนต่างๆ อีกทั้งต่างฝ่ายต่างเสนอการประนีประนอมครั้งใหม่ โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุว่าข้อตกลงในการสกัดกั้นปัญหา fiscal cliff อาจจะมีความเป็นไปได้ภายใน 1 สัปดาห์ หากรีพับลิกันจะประนีประนอมเกี่ยวกับอัตราภาษี - สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง จากการซื้อขายเมื่อวานนี้ โดยอยู่ที่ประมาณ 1.2970 เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่มาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีแสดงมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนและยังได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในยูโรโซนด้วย ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากจำนวนคนว่างงานของสหรัฐที่ลดลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ นายดรากิกล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มอ่อนแอลงไปจนถึงปีหน้า โดยข้อมูลเชิงสถิติและผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะอ่อนแอลงไปจนถึงไตรมาส 4 ปี 2556 และคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งคือช่วงปลายปี 2556 เนื่องจากตลาดการเงินเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและจากผลกระทบในด้านบวกของการใช้นโยบายผ่อนคลายของอีซีบี โดยที่อีซีบี มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ - การประกาศตัวเลข Unemployment Claims ของสหรัฐเมื่อวานนี้ พบว่าอัตราคนว่างงานปรับตัวลดลงหลังผลกระทบจากสตอร์มแซนดี้ค่อยๆจางหายไป ซึ่งข้อมูลครั้งใหม่ของจำนวนผู้ขอสวัสดิการคนว่างงานมีการปรับตัวลดลงตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่มีผู้ขอสวัสดิการลดลงจำนวน 25,000 คน สู่ระดับ 370,000 คน จากเดิมที่ระดับ 395,000 คน อีกทั้งยังปรับตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 378,000 คนอีกด้วย - รายงานจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส (UCLA) คาดการณ์ว่าค่าจีดีพีของสหรัฐจะขยายตัวไม่ถึง 2% ต่อปีจนถึงกลางปี 2556 และคาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเกิน 3% สำหรับช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2557 เพราะได้แรงหนุนจากกิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัย ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Unemployment Claims ออกมาที่ระดับ 370,000 ราย จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 393,000 ราย ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในคืนนี้ - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 171,000 ราย คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 89,000 ราย - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.9% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 7.9% - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 82.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 82.4 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวได้ดีโดยมี Technical Rebound ในเมื่อวาน โดยราคาสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ต่อยูโรร่วงจากระดับ 1.3055 ดอลลาร์/ยูโร มาอยู่ที่ระดับ 1.2965 ดอลลาร์/ยูโรโดยประมาณ จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนตัวของทองคำในช่วงสั้นๆไม่ค่อยสัมพันธ์กับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ทั้งที่ตัวเลขเมื่อคืนนี้คือตัวการจ้างงานออกมาดีมากและค่าเงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ราคาทองคำวิ่งสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร ในส่วนของราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวตามกระแสข่าว Fiscal Cliff ที่จะออกมา ซึ่งข่าวโดยส่วนใหญ่คิดว่าจะตกลงกันได้ในสัปดาห์หน้า และก็น่าจะเป็นลักษณะถอยกันคนละก้าว โดยภาพรวมน่าจะดีต่อราคาทองคำในทิศทางขาขึ้น อย่างไรก็ดีพบว่าแรงเทขายในทองคำในรูปของสัญญาออปชั่นเริ่มจะหมดไปในเมื่อวาน และเริ่มมีแรงซื้อกลับ ส่วนกองทุน SPDR ไม่ได้ซื้อเพิ่มยังคงทองคำในระดับสูงที่ 1,351.53 ตัน ในขณะที่ ETF ยังคงทองคำสูงสุดอยู่เช่นเดิม วิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำเริ่มส่งสัญญาณดีดกลับโดยมีแนวรับที่แข็งแกร่งที่ระดับ 1,690 เหรียญ ราคาทองคำสามารถมายืนเหนือ 1,700 เหรียญได้โดยสามารถทะลุแนวต้านสำคัญแรกที่ระดับ 1,695 เหรียญได้ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี สำหรับนักลงทุนระยะสั้นมากรายชั่วโมง จะมีแนวต้านแรกที่ระดับ 1,705 เหรียญ เราคาดว่าราคาทองคำน่าจะกลับมาสดใสขึ้นได้ โดยคาดว่าน่าจะเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideway Up กรอบ 1,700-1,715 เหรียญ ขึ้นอยู่กับข่าว Fiscal Cliff ตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ น่าออกมาไม่ดีนักและน่าจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ สรุปได้ว่า ราคาทองคำในระยะสั้นส่งสัญญาณ Technical Rebound และระยะปานกลางส่งสัญญาณหยุดตก โดยดูแล้วจากการที่ราคาทองคำไม่หลุดแนวรับสำคัญระดับ 1,685 เหรียญลงไป Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,000 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,150 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,010 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,060 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,700-1,715 เหรียญ แนะนำให้เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ปรับพอร์ทกลับมาที่ 50% เมื่อราคากลับมาเหนือระดับ 1,690 เหรียญได้ และถ้าวันนี้ทั้งวันราคาทองคำยืนเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ ก็คาดว่าน่าจะกลับไปเป็นขาขึ้น นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ถือครอง Portfolio อยู่ที่ระดับ 50% ยังไม่ทำอะไรทั้งสิ้น บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ