กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--โฟร์ฮันเดรท
“ดูเร็กซ์” ทั่วโลกร่วมใจจัดกิจกรรม “1 share 1 condom” เนื่องในวันเอดส์โลก เชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคถุงยางอนามัย 2.5 ล้านชิ้น “ฟรี” เพียง 1 คลิกที่ www.1share1condom.com ด้าน “ดูเร็กซ์”(ประเทศไทย) มอบถุงยาง 10,000 ชิ้น ร่วมช่วยต้าน พร้อมเผยตลาดถุงยางกว่า 1,000 ล้านบาท ยังโตไม่หยุด โดยมีดูเร็กซ์เป็นผู้นำ ที่มีแชร์กว่า 64.9 % รุ่นบางพิเศษยังคงขายดีอันดับ 1 โดยไทยครองความเป็นผู้นำในการผลิตของโลก แต่อัตราการใช้ในประเทศยังต่ำ ย้ำเดินหน้ารณรงค์อย่างต่อเนื่อง
นายโอ พงษ์เวช ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ กล่าวว่า “ดูเร็กซ์” ในฐานะผู้นำตลาดถุงยางอนามัยของโลก ได้มีการรณรงค์เรื่องการป้องกันเอดส์อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และเนื่องในโอกาสวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2555 ทาง “ดูเร็กซ์” ทั่วโลก ร่วมจัดกิจกรรมในสังคมออนไลน์ ทั้งเฟสบุ๊ค และเว็บไซต์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวี และบริจาคถุงยางให้องค์กรทั่วโลกที่มีส่วนช่วยป้องกันโรคเอดส์ ภายใต้โครงการ “1 share 1 condom” เชิญชวนพี่น้องชาวไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมรณรงค์บริจาคถุงยางอนามัยในวันเอดส์โลก โดยดูเร็กซ์จะบริจาคถุงยางอนามัย 1 ชิ้น สำหรับ 1 การแชร์ข้อมูล ผ่านเว็บไซต์ www.1share1condom.com หรือสำหรับสาวกเฟสบุ๊ค เพียงแชร์รูปภาพหรือวีดีโองาน “ดูเร็กซ์เวิลด์เอดส์เดย์” (Durex World Aids Day) ที่มีอยู่ในเว็บไซต์บนหน้าเฟสบุ๊คของคุณ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่ง ที่ช่วยบริจาคถุงยางฟรีแล้ว
อีกทั้งโครงการ “1 share 1 condom” ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนรุ่นใหม่ปลอดเชื้อเอชไอวีอย่างแท้จริง โดยส่งเสริมให้คนทั่วโลกแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชไอวีทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันกามโรค รวมทั้งการทำโครงการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รณรงค์ให้ทั่วโลกใช้ถุงยางคุณภาพสูง เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการบรรลุวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง
“อย่างไรก็ตามแม้ที่ผ่านมา จะมีการจัดงานวันเอดส์โลกมาแล้ว 25 ปี แต่การติดเชื้อเอชไอวีก็ยังเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกอยู่ ตามข้อมูลขององค์การเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ปีพ.ศ. 2554 มีจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี 2.5 ล้านคน และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้กับบุคคลเหล่านี้ ทางบริษัทเรกคิทท์ เบ็นคีเซอร์ จึงตั้งเป้าว่าจะบริจาคถุงยางให้ได้ 2.5 ล้านชิ้น โดยหวังว่าจะได้ตามกำหนดภายในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2555 นี้” นายโอ กล่าว
นายโอ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของดูเร็กซ์ (ประเทศไทย) ได้ร่วมมือกับสภากาชาดไทย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และองค์การแพธ (PATH) ในการจัดโครงการรณรงค์ภายใต้โครงการ “ตรวจเพื่อก้าวต่อ...” รณรงค์ตรวจเลือดโดยสมัครใจช่วงวันเอดส์โลก เพื่อให้ คนรุ่นใหม่ปลอดภัยจากเชื้อเอชไอวีอย่างแท้จริง พร้อมบริจาคถุงยางอนามัยกว่า 10,000 ชิ้น ให้กับองค์การแพธ องค์กรพัฒนาเอกชนสาธารณประโยชน์ระหว่างประเทศด้านการสาธารณสุขเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีของคนในสังคม
“การใช้ถุงยางอนามัยของคนไทยยังอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก เนื่องจากค่านิยมของการใช้ยาคุมกำเนิดที่เปลี่ยนได้ยาก จึงต้องอาศัยการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องว่า ถุงยางอนามัยเป็นทั้งสิ่งป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการตั้งครรภ์ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนำมาซึ่งปัญหาสำคัญของวัยรุ่นไทย ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อจากนี้คือกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งดูเร็กซ์จะมีการเดินสายให้ความรู้ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง” นายโอ กล่าว และว่า
“สำหรับตลาดรวมถุงยางอนามัยในประเทศไทยปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 10 % อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 1,048 ล้านบาท และในปีนี้ยอดขายตั้งแต่ต้นปีจนถึงตุลาคมมีอัตราการเติบโดยอยู่ที่ 12.6 % ซึ่งปัจจุบันตลาดถุงยางอนามัยแบ่งเป็นกลุ่ม Basic Confidence ผิวเรียบ มาตรฐาน 31% กลุ่ม Fun & Adventure มีปุ่ม มีริ้ว 34% กลุ่ม Feeling & Intimacy หรือ รุ่น บาง-บางพิเศษ 27% และ กลุ่ม Performance รุ่นผสมสารหล่อลื่นพิเศษ 8% โดยดูเร็กซ์ เป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 64.9 %”
“โดยกลุ่มถุงยางอนามัยประเภท Feeling & Intimacy (กลุ่มบาง) เป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุด เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสที่เสมือนไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัยเป็นจำนวนมาก โดยในรุ่นบางพิเศษถือเป็นตัวที่ได้รับความนิยมมาก จนทำให้สินค้ากลุ่มนี้เข้ามากระตุ้นการเติบโตของตลาดในปัจจุบัน และการผลิตถุงยางอนามัย ประเทศไทยยังคงเป็น 1 ใน 2 โรงงานหลักของดูเร็กซ์ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดโลก มีโรงงานในจีน 1 แห่ง และไทย 1 แห่ง ผลิตและส่งออกไปทั่วโลก” นายโอ กล่าวปิดท้าย