สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 11, 2012 10:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,703 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,702 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.67 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,650 บาท กับ 24,750 บาท และกลับมาปิดที่ 24,650 บาท กับ24,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,036 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,581 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 23 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.07% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.7% GFZ12 ปิด 24,900 บาท และ GFG12 ปิด 25,060 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,900 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,060 บาท SVZ12ปิดที่ 1,010 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 8.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,714.4 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.246 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.377 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,353.34 ตัน ( คืนวันศุกร์เพิ่ม 1.81 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 37 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 85.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 14.75 จุด ปิดที่ 13,169.88 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.3 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ ที่มา : TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC - ราคาทองคำเมื่อคืนวันศุกร์ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบมากกว่า 1 เดือน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวขึ้นสูงเกินคาด 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7.7% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวเท่ากับเดือนก่อนหน้านี้ที่ระดับ 7.9% ภายหลังมีแรงเข้าซื้ออย่างมากจากตลาดจากการที่ตัวเลขการจ้างงานเดือนที่ผ่านมามีการปรับทบทวนลดลง รวมไปถึงการทำ short covering จากกองทุนต่างๆ ส่งผลให้ราคามีการฟื้นตัวกลับมาปิดตลาดบวก 3.7 เหรียญ ที่ระดับ 1,705.5 เหรียญ นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนส่วนหนึ่งคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปอีกในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายในสัปดาห์นี้ เแม้ข้อมูลแรงงานเดือนพ.ย.จะออกมาดีเกินคาดก็ตาม โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะประกาศการเข้าซื้อพันธบัตรมูลค่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพิ่มเติมจากเดือนกันยายนที่มีการประกาศการเข้าซื้อหลักทรัพย์ MBS มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนจนกว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัว ขณะเดียวกันความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ ก็ช่วยกระตุ้นให้มีแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลง 0.7% โดยนับเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง นายแมทธิว เทิร์นเนอร์ นักวิเคราะห์ฝ่ายวิจัยจากมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การประชุม FOMC ในวันอังคารและวันพุธนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดมากที่สุด โดยมาตรการ Operation Twist ใกล้จะหมดอายุลง และเราควรที่จะคอยติดตามว่าทางคณะกรรมการจะจัดหามาตรการใดมาทดแทน ซึ่งก่อนหน้านี้มาตรการดังกล่าวได้หมดอายุไปในเดือนมิถุนายน และมีการต่ออายุมาจนถึงสิ้นปี ดังนั้นการประชุม FOMC ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำอะไรบางอย่างก่อนเข้าสู่ปีใหม่ นอกจากนี้นายเทิร์นเนอร์มีตัวเลือกอยู่หลายทางด้วยกัน หากเฟดไม่ทำอะไรเลยนั่นจะเทียบเท่ากับเป็นการเข้มงวดทางการเงิน หรือหากมีการขยายระยะเวลาต่อไปหรือใช้ทางอ้อมที่จะผ่อนคลายการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งเขาขนานนามสิ่งนี้ว่า “QE3.5” และนั่นจะเป็นผลบวกต่อตลาดทองคำ มีการรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ปริมาณการส่งออกทองคำจากฮ่องกงไปยังจีนลดลงในเดือนตุลาคมสู่ระดับต่ำสุดในรอบสิบเดือน เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อทองคำแท่งต่างๆ เพิกเฉยต่อการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งในช่วงเวลานั้นสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นถึง 1.5% ข้อมูลจาก CFTC รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์และผู้จัดการฝ่ายการเงินต่างๆ ได้ลดสถานะการลงทุนในทิศทางขาขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาลงไปสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางรายยังคงมีการลงทุนในกองทุน ETFs ซึ่งปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน Gold ETFs ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมาที่ระดับ 76.129 ล้านออนซ์ แม้ว่าราคาจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนที่มีการประกาศออกมาได้แก่ ยอดการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีนเพิ่มขึ้น 20.7% ต่อปี แตะ 32.32 ล้านล้านหยวน หรือ 5.18 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ในขณะที่ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือเพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นเพิ่มขึ้น 14.9% สู่ระดับ 1.85 ล้านล้านหยวนเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งช่วยหนุนยอดค้าปลีกในช่วง 11 เดือนแรกทะยานขึ้น 14.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 18.68 ล้านล้านหยวน สำหรับทองคำเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สาม ปิดตลาดบวก 8.9 เหรียญ ที่ระดับ 1,714.4 เหรียญ เนื่องจากนักลงทุนต่างไม่มั่นใจเกี่ยวกับวิกฤตทางด้านงบประมาณของสหรัฐที่ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาทางสหรัฐ หลังจากที่ทำเนียบขาวและโฆษกสภาพรรครีพับลิกัน นายจอห์น โบห์นเนอร์ ได้มีการเจรจาต่อรองเพิ่มเติม แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ยังไม่ได้มีรายละเอียดใดตอบกลับ โดยนายโอบามายังคงยึดมั่นในแนวความคิดที่จะเพิ่มอัตราภาษีผู้มีรายได้สูง ทั้งนี้นายโอบามายังมอบหมายให้นายแฮรี่ รี้ด ผู้นำพรรคเดโมแครตหารือในประเด็นงบประมาณแทน ขณะที่นายจอห์น คาร์นี ไม่ยอมเปิดเผยถึงผลการเจรจาส่วนตัวระหว่างนายโอบามาและนายจอห์น โบห์นเนอร์ แต่พรรครีพลับลิกันยังคงรอว่านายโอบามาจะระบุงบประมาณส่วนใดที่จะทำการตัดลดเพื่อให้บรรลุ Balanced Approach ที่จะนำไปสู่ข้อตกลง การเข้าพบส่วนตัวระหว่างนายโอบามาและนายจอห์น โบห์นเนอร์เมื่อวานนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่นายโอบามายังยืนกรานที่จะเพิ่มอัตราภาษีผู้มีรายได้สูง ขณะที่ผู้นำพรรครีพลับลิกันมีท่าทีต่อต้านแนวคิดนี้เมื่อ 2 — 3 วันก่อน เป็นไปได้ว่าข้อตกลงอาจจะทำให้มีการเพิ่มรายได้ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และมีการตัดงบประมาณไป 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดตรงกลางระหว่างข้อเสนอของทั้ง 2 พรรค โดยอัตราภาษีผู้มีรายได้สูงอาจเพิ่มเป็น 37% หรือ 38% จากเดิม 35% และจะเพิ่มเป็น 39.6% ในปีหน้า หากรัฐสภายังคงไม่ดำเนินการใดๆ และทั้ง 2 พรรคอาจจะยอมรับการลดค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มรายได้และตัดลดงบประมาณในปีหน้า พร้อมทั้งการปฏิรูปภาษีและโครงการ สวัสดิการต่างๆ นอกจากนี้อีกทางเลือกหนึ่งคือ พรรครีพลับลิกันอาจจะเสนอร่างให้มีการขยายระยะเวลาอัตราภาษีระดับต่ำสำหรับ ทุกคนยกเว้นผู้มีรายได้สูงตามที่พรรคเดโมแครตต้องการเป็นการชั่วคราว และใช้ระดับเพดานหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า จากนั้นค่อยมาใช้วิธีการตัดลดโครงการสวัสดิการต่างๆ แทน อย่างไรก็ตามนาย บ๊อบ คอร์กเกอร์ สมาชิกระดับอาวุโสของพรรครีพลับลิกันกล่าวว่า พรรครีพลับลิกันต้องทำการอนุมัติการเพิ่มอัตราภาษีผู้มีรายได้สูงเพื่อที่ เจรจาจะดำเนินจากประเด็นภาษีไปประเด็นโครงการสวัสดิการต่างๆแทน เนื่องจากการโต้แย้งประเด็นนี้ จะทำให้พรรคดูเหมือนจะพยายามที่จะปกป้องผู้มีรายได้สูงเพียงอย่างเดียว อีกทั้งเวลาในการแก้ปัญหาเหลือเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้การพบปะส่วนตัวระหว่างนายโอบามาและนายจอห์น โบห์นเนอร์ ทำให้มีความหวังในการแก้ปัญหาเป็น 40% แม้ทั้ง 2 พรรคจะปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดในการพบปะครั้งนี้ แต่นายคอร์กเกอร์ก็ยังมีความกังวลว่าพรรครีพลับบลิกกันจะไม่ยอมในประเด็น โครงการสวัสดิการต่างๆด้วย นอกจากนี้ยังมีความกังวลเพิ่มมากขึ้นทางฝั่งยุโรปซึ่งช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำ หลังจากที่นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีได้ประกาศว่าเขาจะลาออกถ้าแผนงบประมาณปี 2013 ได้รับการอนุมัติ ตลาดทองคำโดยภาพรวมเพิกเฉยต่อข่าวที่ว่า นายจอห์น พอลสัน ผู้จัดการเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ได้กล่าวต่อกลุ่มลูกค้าของเขาในคืนวันศุกร์ว่า กองทุนพอลสันประสบกับผลกำไรที่ผสมปนเปกันในเดือนพฤศจิกายนจากการที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง ซึ่งมีอิทธิพลต่อพอร์ทของนักลงทุนบางพอร์ท แม้ว่าความสนใจของนักลงทุนจะพุ่งตรงมาที่ความคืบหน้าในการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff ของสหรัฐและความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลี แต่กุญแจสำคัญในสัปดาห์นี้จะกลับกลายเป็นการประชุมกำหนดนโยบายของคณะกรรมาธิการที่จะมีการประกาศในคืนวันพฤหัสบดี ประมาณเวลาเที่ยงคืนครึ่งตามเวลาประเทศไทย พร้อมกับการแถลงของนายเบน เบอร์นันเก ถึงการอัพเดทมุมมองทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้มีการคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะมีการซื้อพันธบัตรเพิ่มอีก 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนแทนที่มาตรการ Operation Twist ที่จะหมดอายุสิ้นปี จากเดิมที่มีการซื้อหลักทรัพย์ MBS อยู่แล้ว 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนก็เป็นตัวสนับสนุนทองคำเช่นกัน ตัวเลขเศรษฐกิจคืนวันศุกร์ - Non-Farm Employment Change ออกมาที่ระดับ 146,000 ราย จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 138,000 ราย - Unemployment Rate ออกมาที่ระดับ 7.7% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.9% -Prelim UoM Consumer Sentiment ออกมาที่ระดับ 74.5 จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 82.7 ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ - Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -41.5B คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -42.4B วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์ หลังจากที่มีการประกาศอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7.7% และมาดีดกลับในช่วงท้ายตลาด ในขณะที่ในวันจันทร์ราคาทองคำเริ่มทรงตัวเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ และไปทำจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,715 เหรียญ ทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในการแกว่งตัวอย่างมาก แต่เริ่มกลับมาแกว่งในทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับแรกที่ 1,700 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1,715 เหรียญและ 1,720 เหรียญตามลำดับ ทองคำยังคงรอข่าวในคืนวันพุธ(เช้าวันพฤหัสบดี)กับการแถลงของนายเบอร์นันเกที่จะสิ้นสุดการประชุม FOMC ในเชิงเทคนิคแล้วจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำจะมีแรงกดดันในทิศทางการขาย ทำให้ในระยะสั้นกราฟรายวันกับกราฟรายชั่วโมงยังแกว่งตัวอย่างมาก แต่เริ่มกลับมาเป็นทิศขึ้นในระยะสั้นรายชั่วโมง ในขณะที่นักลงทุนระยะกลางกราฟรายวันยังมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,715 เหรียญและ 1,720 เหรียญ คาดว่าราคามีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นตาม sentiment การแถลงของนายเบอร์นันเก ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่า ราคาทองคำสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุระดับ 1,720 เหรียญได้ทองคำดูจะเริ่มสดใสขึ้นมาใหม่ ในทางตรงกันข้ามถ้าราคาปรับลดลงหลุดระดับ 1,700 เหรียญอีกครั้ง อาจทำให้ราคาคงจะแกว่งตัวในทิศทาง Sideways ในภาพรวมยังเชื่อว่ายังรอสองข่าวใหญ่ที่น่าจะเป็นผลบวกต่อทองคำ ไม่ว่าจะเป็นการแถลงของนายเบอร์นันเก ซึ่งน่าจะใช้วิธีการเข้าซื้อพันธบัตรอย่าง QE3 ต่อจากการที่มาตรการ Operation Twist จะหมดอายุสิ้นปีนี้ ในขณะที่สัปดาห์หน้าน่าจะสามารถตกลงกันได้ในส่วนของ Fiscal Cliff เพื่อที่จะจบปัญหาก่อนสิ้นปี สรุปได้ว่าราคาทองคำในวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,705 — 1,715 เหรียญ Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,920 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,100 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,250 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 990 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,030 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,705 — 1,715 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ยังคงเป็นการทยอยเข้าถือพอร์ทเพิ่มเมื่อราคาอ่อนตัว ประมาณ 40% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ถือครองสถานะ Portfolio อยู่ที่ 50-60% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ