สาวๆที่มีผิวบอกบาง และมีอาการแพ้ง่าย ฟังทางนี้! ! !

ข่าวทั่วไป Tuesday December 11, 2012 11:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--พรวิมล คลินิก อาการของการแพ้เครื่องสำอางนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยและทุกสภาพผิว และสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีที่สัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ (Allergen) หรืออาจมีอาการเกิดขึ้นในภายหลังก็ได้ ผู้ที่แพ้สารใดแล้ว เมื่อสัมผัสกับสารนั้นเพียงเล็กน้อยก็เกิดการแพ้ขึ้นได้ สารที่พบว่าก่อให้เกิดการแพ้ได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ คือ 1. สารแต่งกลิ่นน้ำหอม(fragrance/perfume) 2. สารกันเสีย (preservatives) 3. สารป้องกันแสงแดด (Sunscreens) รูปแบบการ แพ้เครื่องสำอาง ประกอบด้วยด้วยหลายอาการ ดังนี้ 1. อาการปวดแสบปวดร้อน หรือรูสึกคันยิบ ๆ อาการจะเกิดไม่เกิน 10 นาที ที่ได้สัมผัสสารนั้นๆ 2. บางครั้งก็เกิดอาการปรากฎเป็นผื่นแดงคัน ถ้าแพ้มากก็เป็นตุ่มแดงตุ่มน้ำหรือเป็นปื้นนูนแบบลมพิษ เคยสังเกตหรือไม่ว่า บางคนอายุมากแล้วก็ยังมีสิวเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าอยู่ ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากการแพ้เครื่องสำอางได้เช่นกัน ผู้ที่รักสวยรักงามทุกคน คงไม่อยากเจอปัญหาแพ้เครื่องสำอางภายหลังการใช้เป็นอย่างแน่นอน วิธีการทดสอบการแพ้ ก่อนที่จะใช้เครื่องสำอางกับผิวหน้าของเรา ดังนี้ คือ ให้ทาเครื่องสำอางตรงบริเวณท้องแขนทิ้งไว้ประมาณ 24-28 ชั่วโมง หากไม่พบความผิวปกติแล้วจึงค่อยใช้ หรืออาจทดสอบอีกวิธีหนึ่งก็ได้คือ ทาเครื่องสำอางที่ซื้อมาบริเวณข้อพับแขน วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถ้าไม่มีผื่นแดงเกิดขึ้นแสดงว่าใช้เครื่องสำอางนั้นได้ งามช้าลงสักหน่อยแต่มั่นใจคงดีกว่างามเร็วแบบเสี่ยง ๆ นะค่ะ ผู้ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติทาแล้วจะไม่เกิดอาการแพ้ เพราะทำมาจากธรรมชาติแล้วย่อมปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งไม่จริงเสมอไป ทั้งนี้ เนื่องจากการแพ้เป็นปฏิกิริยาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคนจึงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ประกอบกับเครื่องสำอางสมุนไพร เช่น แชมพู สบู่ โลชั่นทาผิวหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมายที่ทำมาจากสมุนไพรเพียงอย่างเดียว แต่มีสารเคมีอื่นผสมอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่สามารถรับรองได้ว่าใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดการแพ้ *แนะนำ สมุนไพรใกล้ตัวที่สามารถแก้อาการแพ้เครื่องสำอางเบื้องต้น คือ 1. ขมิ้นอ้อย : ทุบ หรือบดให้ละเอียดผสมน้ำสะอาดเพียงเล็กน้อย ทาหรือพอกให้ทั่วบริเวณที่มีอาการคัน หรือ แดง อับเสบทิ้งใว้จนอาการดังกล่าวดีขึ้นแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 2. ว่านหางจระเข้ : ลอกเปลือกสีเขียวออกให้หมด จะใช้เฉพาะวุ้นสีใสๆ แล้วนำไปล้างเมือกสีเหลืองๆออกให้หมด จากนั้นนำไปพอก หรือทาบริเวณที่มีอาการแพ้ ข้อมูลจาก พรวิมล คลินิก โทร 086-187-187-0

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ