กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ม.อ. สุราษฎร์ฯ เดินหน้าตั้งโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนต้นแบบพัฒนาบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดึงเยาวชนที่มีความสามารถแต่ขาดโอกาสทางการศึกษาได้เข้าเรียน คาดเริ่มได้ปีการศึกษา 2556 หวังเป็นแม่แบบในการพัฒนาการศึกษาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
รศ.ดร.เจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดีวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) (Assoc. Prof. Dr. Charoen Nakasan , Vice President for Prince of SongKla University, Suratthani Campus)เปิดเผยว่า สภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เห็นชอบโครงการจัดตั้งโรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ สุราษฎร์ธานี เพื่อเสริมสร้างเยาวชนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ โดยจะเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีความสามารถ แต่ขาดโอกาสเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีคุณภาพได้เข้ามาศึกษายังโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อผลักดันให้โรงเรียนดังกล่าว เป็นสถานศึกษาต้นแบบทั้งด้านความรู้และการจัดการ เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่สถาบันการศึกษาอื่นๆ
ทั้งนี้ โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์ สุราษฎร์ธานี จะตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของ ม.อ.วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ซึ่งรูปแบบการเรียนการสอนจะเน้นพัฒนาการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียน โดยให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังคงไว้ซึ่งการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมผ่านกิจกรรมเสริมหลักสูตร รวมทั้งกีฬาและนันทนาการ
สำหรับการบริหารงานนั้น จะใช้รูปแบบของมูลนิธิ โดยจะเปิดรับสมัครนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในปีการศึกษา 2556 จำนวน 8 ห้องๆ ละ 40 คน รวม 320 คน โดยระยะแรกจะใช้อาคารศูนย์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และเครื่องมือกลางของวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่เรียน และหลังจากนั้นจะย้ายไปยังอาคารถาวรภายใน 3 ปี ซึ่งนักเรียนทุกคนจะสามารถใช้ทรัพยากรการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยได้ เช่น ห้องสมุดปฏิบัติการด้านภาษา ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องวิจัย ศูนย์กีฬาและนันทนาการ โดยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัย นักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงบ่มเพาะด้านวิชาการให้แก่นักเรียนทุกคน
“หลังจากที่เราได้ทำแบบสอบถามและเสวนาร่วมกับองค์กรต่างๆ ในจังหวัด เกี่ยวกับการจัดตั้งโรงเรียนแล้ว พบว่า ได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างมาก เราจึงได้จัดตั้งโรงเรียนดังกล่าวขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้พัฒนาประเทศให้มีความเข้มแข็งและเจริญก้าวหน้าต่อไป” รศ.ดร.เจริญ กล่าว