กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--วธ.
เมื่อเวลา 14.09 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2555 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานครฯ นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม โดยมีเหล่าข้าราชการ นักศึกษา และพุทธศาสนิกชนจำนวนกว่า 300 คน เข้าร่วมพิธี
นายสนธยา กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 เพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งให้ประชาชนที่อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารได้ร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมโดยใช้หลักธรรมทางพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติเพื่อให้เกิดธรรม ในสังคม อีกทั้งให้บังเกิดความสุขความเจริญและความรุ่งเรืองแห่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนอันนำไปสู่ประเทศที่สุขสงบสืบไป
นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า พิธีเจริญพระพุทธมนต์นพเคราะห์ เป็นพิธีโบราณาจารย์ที่ได้กระทำ และสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ซึ่งปรากฏตามเอกสารหนังสือ “พระคัมภีร์พระเวท ฉบับฉัฏฐบรรพ” รวบรวมและเรียบเรียง โดย อาจารย์ เทพย์ สาริกบุตร ว่า เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งมีการเจริญพระพุทธมนต์ที่มีเรื่องความเชื่อตามหลักโหราศาสตร์ที่ว่า ชีวิตของคนเรามีเทวดานพเคราะห์ได้ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาเสวยอายุของมนุษย์ นับแต่แรกเกิด ซึ่งดาวนพเคราะห์เหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันในฐานะเป็นคู่มิตรกัน ตามหลักโหราศาสตร์ เมื่อเทวดานพเคราะห์คู่ใดซึ่งเข้ามาเสวยอายุและเข้ามาแทรกอยู่เป็นคู่มิตรกัน ก็จะทำให้บุคคลผู้นั้นมีความสุขความเจริญ มีโชคลาภโดยมิรู้ตัว ส่วนบุคคลผู้ใดอยู่ในช่วงอายุที่เทวดาเข้ามาเสวยอายุ และเข้ามาแทรกเสวยที่เป็นคู่ศัตรูกัน ย่อมจะก่อให้บุคคลผู้นั้นประสบอุปสรรค และความพลาดหวัง ความขัดข้องบางประการ หรือบางครั้งอาจทำให้เสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ บรรดาท่าน โบราณาจารย์และโหราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย จึงได้หาวิธีแก้ไข เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งหลักธรรมเพื่อเจ้าชาตานำไปประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิต ที่เรียกว่า “พิธีนพเคราะห์” ตามหลักการความเชื่อที่ว่า “ไหว้ดีพลีถูกตามหลักของบุรพาจารย์” เพื่อจะได้เป็นเครื่องบูชาเทวดา ที่ได้พลัดเปลี่ยนกันเข้ามาเสวย และแทรกอายุของมนุษย์ให้มีความเมตตาปราณี และอดโทษเพื่อทุเลาความเลวร้ายต่างๆ ลง รวมทั้งดลบันดาลประทานแต่ความเจริญให้ ซึ่งมีผู้นิยมทำพิธีบูชานพเคราะห์กันอยู่เป็นประจำ