กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,711 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,706 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.62 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,750 บาท กับ 24,850 บาท และกลับมาปิดที่ 24,750 บาท กับ 24,850 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,294 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,084 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 10 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.05% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.7% GFZ12 ปิด 24,910 บาท และ GFG12 ปิด 25,080 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,910 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,080 บาท SVZ12ปิดที่ 1,029 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 4.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,709.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 36.00 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.017 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,351.42 ตัน ( ขายออก 1.92 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ้มขึ้น 23 เซนต์ ปิดที่ระดับ 85.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 78.56 จุด ปิดที่ 13,248.44 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.7 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
ที่มา : TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ โดยได้รับอิทธิพลจากความคาดหวังว่า วิกฤตการณ์ด้านงบประมาณของสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงได้ รวมไปถึงการคาดการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับมุมมองทางด้านนโยบายการเงินของสหรัฐในช่วงก่อนการแถลงนโยบายของการประชุม FOMC ที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนวันนี้ส่งผลให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยังคงรออยู่นอกตลาด โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลง 4.8 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,709.6 เหรียญ
ราคาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันสามวันทำการก่อนหน้านี้ ตามที่นักลงทุนยกให้เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากนายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสภาผู้แทนราษฏรของสหรัฐได้กล่าวว่า เขายังคงมีความหวังว่าข้อตกลงทางด้านงบประมาณจะสามารถสรุปผลได้ภายในกำหนดเส้นตายสิ้นปี ส่งผลให้ในเบื้องต้นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นจากความคิดเชิงบวกที่ว่า การเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ระหว่างนายโบห์นเนอร์ และประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff ได้ อย่างไรก็ตาม นายโบห์นเนอร์ไม่ได้ส่งสัญญาณที่เป็นรูปธรรมใดๆ ในความคืบหน้าทางการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างๆ ยังมีการลดการลงทุนในทิศทางขาขึ้นก่อนการแถลงการประชุมกำหนดนโยบายของเฟด โดยโกลด์คอร์ได้กล่าวว่า มีความเชื่อในหมู่นักลงทุนในตลาดมากมายว่า เฟดจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะกระตุ้นความน่าดึงดูดใจในกลุ่มโลหะมีค่าต่างๆ เพื่อเป็นการถัวความเสี่ยงกับภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่เทรดเดอร์อื่นๆ ได้กล่าวว่า ตลาดทองคำได้รับข่าวแล้วว่าเฟดจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจในคืนนี้ และหากเกิดความผิดหวังอาจก่อให้เกิดการเทขายในทองคำ
ตลาดการเงินทั้งหมดค่อนข้างทรงตัวก่อนจะมีการแถลงผลการประชุม FOMC โดยในการแถลงนโยบายนี้ นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดจะมีการสรุปความคืบหน้าในเรื่องเศรษฐกิจและเปิดเผยมุมมองทางด้านนโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม ซึ่งดูเหมือนว่าทาง FOMC จะมีความพยายามใช้การเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่ที่จะมาแทนที่มาตรการ Operation Twist ที่จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมจากเฟดถูกจัดให้เป็นสิ่งที่สนับสนุนราคาทองคำ เนื่องจากการอัดฉีดสภาพคล่องแบบพิเศษจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและก่อให้เกิดความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หากเฟดไม่ได้ตัดสินใจที่จะประกาศสิ่งใดออกมาในคืนนี้ ราคาทองคำอาจร่วงไปอย่างรวดเร็วหลุดระดับ 1,700 เหรียญ
โบรกเกอร์ ANZ ได้กล่าวว่า ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับ FOMC และการตัดสินใจว่าจะทำสิ่งใดเมื่อมาตรการ Operation Twist หมดอายุลง โดยอาจมีการขยายการใช้มาตรการ QE ที่ยังดำเนินอยู่มูลค่า 4 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือนนั้นเพิ่มอีก 4 — 4.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือนก็เป็นได้ แต่รายละเอียดต่างๆ อาจยังไม่มีการประกาศออกมาในการประชุมครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน ความกังวลในเรื่อง Fiscal Cliff ของสหรัฐดูเหมือนจะผ่อนคลายลงไปบ้าง โดยตลาดมีความคาดหวังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่จะเกิดหนทางแก้ไขก่อนถึงกำหนดเส้นตาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษีที่จะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4.9% จากเดือนก.ย. แตะ 4.224 หมื่นล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.27 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกหดตัว ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ยอดขาดดุลการค้าในเดือนก.ย.ได้มีการปรับลงมาอยู่ที่ 4.028 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมที่รายงานไว้ที่ 4.155 หมื่นล้านดอลลาร์
แม้ว่าเมื่อคืนนี้ราคาทองคำจะมีการปรับตัวลดลง แต่ปริมาณความต้องการทองคำแท่งของจีนยังคงแข็งแกร่ง โดยค่าพรีเมี่ยมทองคำในฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบประมาณ 5 เดือนเมื่อวานนี้ เนื่องจากธนาคารต่างๆ ของจีนได้มีการกักเก็บทองคำแท่งเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางด้านอุปทานในช่วงที่โรงงานสกัดปิดทำการในช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี
ทางด้านแอฟริกา ผลผลิตทองคำลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่แสดงถึงผลกระทบของความรุนแรงจากเหตุปะทะกันที่มีอยู่ทั่วเหมืองทองในแอฟริกา
ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน Gold ETFs ขยับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 76.178 ล้านออนซ์เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม หลังจากปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.187 ล้านออนซ์ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับข่าวทางฝั่งยุโรป ขวัญกำลังใจในหมู่นักวิเคราะห์และนักลงทุนชาวเยอรมันได้ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างมากในเดือนธันวาคม โดยได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐที่ช่วยกระตุ้นความหวังต่างๆ ว่า เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่างเยอรมนีจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในช่วงฤดูหนาวนี้
เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติของอิตาลีได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการถลำลึกเข้าไปสู่ความเป็นประชานิยม เนื่องจากนายซิลวิโอ้ แบร์ลุสโคนี่ได้โจมตีรัฐบาลพรรคเทคโนแครต โดยมีการกล่าวโทษว่าเป็นนโยบายที่เรียกว่า เยอรมาโน่-เซ็นทริก ที่ล้มเหลว ที่ฉุดเศรษฐกิจของอิตาลีให้ลงไปสู่ภาวะถดถอย
เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อยก่อนการแถลงนโยบายของเฟดที่นักลงทุนต่างคาดหวังว่าจะมีการเปิดเผยการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนความน่าดึงดูดใจในทองคำ โดยมีผลสำรวจจากรอยเตอร์สระบุว่า เฟดอาจมีการประกาศการเข้าซื้อพันธบัตรรอบใหม่ในช่วงการแถลงการประชุมกำหนดนโยบายคืนนี้
นายโอบามาและนายจอห์น โบห์นเนอร์ได้กล่าวในเช้าวันนี้ว่า พวกเขาได้ทำการแลกเปลี่ยนข้อเสนอกัน และนายโอบามาได้ให้สัมภาษณ์กับ ABC News อีกว่าเขายังมีมุมมองเชิงบวกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยนายโอบามาได้ลดความต้องการรายได้ทางภาษีจาก 1.6 ล้านล้านดอลลาร์เป็น 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และนายโบห์นเนอร์ได้เสนอรายได้จากการตัดลดภาษีลดหย่อนจำนวน 8 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้เพื่อนำไปสู่ Balanced Approach นายมิเชล สตีล โฆษกของนายโบห์นเนอร์กล่าวว่า เราได้ยื่นข้อเสนอกับทำเนียบขาวให้มีการปฏิรูปภาษีและสวัสดิการโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตหนี้และเพิ่มการสร้างงาน ขณะที่นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกของนายโอบามาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาที่ผ่านมา ส่วนนายแฮรี่ รีด ผู้นำพรรคเดโมแครตได้กล่าวว่ารัฐสภายังคงเหลือเวลาในการกำหนดแผนก่อนช่วงวันหยุดคริสมาสต์ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย
เฟดได้สร้างความหวังท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหา Fiscal Cliff โดย นายจอร์จ กอนคาฟ หัวหน้าฝ่ายวางแผนอัตราดอกเบี้ยสหรัฐของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระกล่าวว่า เฟดเตรียมที่จะออกนโยบายผ่อนคลายเศรษฐกิจหรือ QE รอบที่ 4 นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์บางท่านคาดว่าจะมีการประกาศครั้งสำคัญของเฟดในคืนวันนี้ด้วย และนายกอนคาฟกล่าวว่าเฟดอาจจะใช้โอกาสที่จะขยายระยะเวลาในการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวนมหาศาลที่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย QE3 เนื่องจากนโยบาย QE3 ยังไม่ทำให้ช่วยผู้บริโภค หรือตลาดภาคแรงงานให้ฟื้นตัวได้ โดยเขากล่าวว่าเฟดอาจจะส่งสัญญาณการเพิ่มการเข้าซื้อพันธบัตรในช่วงระยะกลางที่อาจจะช่วยคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำในขณะนี้ไว้ได้ และเพื่อเป็นการป้องกันผลเสียจากปัญหา Fiscal Cliff ซึ่งจะทำให้งบดุลเพิ่มขึ้นเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า 20% ของจีดีพี
อดีตประธานเฟด อลัน กรีนสแพนกล่าวว่า สหรัฐน่าจะมีการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ได้ แต่อาจจะมีความยุ่งยากเล็กน้อยก่อนที่จะมีการบรรลุข้อตกลงกันได้ เนื่องจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาเชื่อว่าเขามีอำนาจในการออกคำสั่งจากการได้รับเลือกตั้ง ขณะที่พรรครีพลับลิกันก็ยังคงเชื่อมั่นในแนวทางของพวกเขา และเขาได้ให้ความเห็นสำหรับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันนี้ว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดไม่ได้ส่งผลมากนัก เนื่องจากการเพิ่มงบดุลจำนวนมากนั้น ได้ไปสิ้นสุดอยู่ที่เงินสำรองของธนาคารเท่านั้น จึงไม่ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจ และเขาเชื่อว่าตลาดที่อยู่อาศัยเป็นส่วนเดียวของเศรษฐกิจที่สามารถฟื้นตัวได้ด้วยตนเอง
นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นอีกคนในบรรดาผู้มีรายได้สูงที่ได้ลงนามในคำแถลงที่ออกโดยกลุ่ม United For Fair Economy ที่ได้เรียกร้องให้มีการใช้อัตราภาษีระดับสูงสำหรับผู้มีรายได้สูง นอกจากนี้ยังมีนายบิล เกท เพื่อนของนายบัฟเฟตต์ นายจิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดี นายจอร์จ โซรอส นักลงทุนผู้มีชื่อเสียง และนายโรเบิร์ต รูบิน อดีตเลขาธิการกระทรวงการคลังที่ได้ร่วมลงนามด้วย ซึ่งคำแถลงนี้ได้รวมถึงการที่รัฐบาลต้องการเงินที่จะใช้เป็นงบประมาณสำหรับบริการสำคัญๆ และลดการขาดดุลของงบประมาณอีกด้วย อีกทั้งในกฎหมายปัจจุบันที่จะหมดอายุสิ้นปี มีการยกเว้นภาษีให้แก่คู่สมรสจำนวน 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เกิดรายได้จำนวนมากหลังกฎหมายหมดอายุ อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องการให้มีการยกเว้นภาษี 4 ล้านดอลลาร์ และการลดหย่อนอัตราดอกเบี้ยอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มต้นที่ 45% แทน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Trade Balance ออกมาที่ระดับ -42.2B จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -40.3B
ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -2.4M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -2.6M
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -120.0B คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -160.0B
- Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.25% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.25%
- FOMC Statement
- FOMC Press Conference
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold —ราคาทองคำโดยภาพรวมยังเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ในทิศทาง Sideways ระหว่าง 1,707 — 1,711 เหรียญ ในการซื้อขายเมื่อวานนี้ เป็นช่วงที่ราคาทองคำพักฐาน ซึ่งยังเป็นลักษณะ Sideways Up อย่างช้าๆ โดยราคาทองคำยังมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,700 เหรียญและแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,720 เหรียญ โดยบริเวณ 1,715 เหรียญถือว่าเป็นแนวต้านแรกที่เป็นจุดสูงสุดเมื่อสองวันก่อน ในตลาดโดยทั่วไปคงรอการประกาศหรือการแถลงของนายเบน เบอร์นันเก ช่วงเวลาประมาณตีสองหลังสิ้นสุดการประชุม FOMC ซึ่งตลาดคาดหวังว่าน่าจะมีการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาเพิ่มจากมาตรการ QE3 เพื่อที่จะแก้ปัญหา Operation Twist ที่จะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ โดยภาพรวมจะเห็นถึงการเคลี่อนไหวในกรอบแคบๆ และปริมาณการซื้อขายค่อนข้างต่ำ โกลด์ฟิวเจอร์สเมื่อวานมีการซื้อขายประมาณ 20,900 คู่สัญญา โดยเป็นการรวมการซื้อขายในช่วงคืนวันศุกร์ และช่วงเช้าวันอังคาร ซึ่งปริมาณการซื้อขายในช่วงกลางคืนวันอังคารเองค่อนข้างเบาบางที่ประมาณ 5,637 คู่สัญญาเท่านั้น โดยเป็นสัญญาขนาดเล็ก 4,143 คู่สัญญา และสัญญาขนาดใหญ่ 1,490 คู่สัญญา เงินบาทเองปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยประมาณ 2 สตางค์จากเมื่อวานมาอยู่ที่ 30.64 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอีกตัวที่กดดันราคาทองคำ ในตลาดเงินยูโรเองดีดกลับขึ้นมาได้โดยมีการปรับแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามราคาทองคำในช่วง 3 — 4 วันนี้ไม่ได้เคลื่อนตัวตามค่าเงินยูโร จากการประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นเยอรมนีออกมาดีขึ้นส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 1.3000 ดอลลาร์/ยูโรอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวตามค่าเงินยูโรเลย วิเคราะห์ได้ว่า ทางเทคนิคราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้น่าจะเคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,700 — 1,715 เหรียญเท่านั้น
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,250 บาท
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,200 บาท
Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,120 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,705 — 1,715 เหรียญ แนะนำให้เป็นการขายทำกำไรเป็นช่วงๆ ในระยะสั้น
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
เฝ้ารอความชัดเจนของทิศทางตลาดก่อนทำอะไรเพิ่ม ถือครองพอร์ทประมาณ 40%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังคง Wait and See ถือ Portfolio อยู่ที่ประมาณ 40-50%
สรุป ช่วงนี้ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เป็นการทำกำไรได้ในระยะสั้นๆ แบบเข้าออกเร็วเท่านั้นเอง เคลื่อนตัวเป็นกรอบแบบ Sideways
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง