กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--Work Link
BEAUTY ลุยเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯวันเลขสวย 12/12/12 คอนเฟิร์มปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% หลังระดมทุนมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง เล็งเปิดสาขา “BEAUTY BUFFET” “BEAUTY COTTAGE” และขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “MADE IN NATURE” ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และเร่งยอดขาย ที่ปรึกษาการเงิน ฟิลลิป มั่นใจสร้างผลตอบแทนดีให้นักลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะธุรกิจเติบโตสูง มีปันผลต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไร ขณะที่ราคา IPO มีส่วนลด
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน)(BEAUTY) ผู้นำในธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เพื่อความงามประเภทเครื่องสำอางและบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ เปิดเผยว่า บริษัทจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันนี้ (12 ธ.ค. 55) เป็นวันแรก และเชื่อว่าหุ้น BEAUTY จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเดียวกับช่วงเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เนื่องจากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทมีการกำหนดแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน อีกทั้งมีเป้าหมายที่จะสร้างอัตราการเติบโตเฉลี่ยให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี
ทั้งนี้ BEAUTY มีแผนจะขยายสาขาของ BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ตลอดจนช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว MADE IN NATURE ในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่และโมเดิร์นเทรดให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงของกลุ่มลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับผลิตภัณฑ์ทุกรูปแบบ โดยเบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศของ BEAUTY BUFFET จำนวน 180 สาขา และ BEAUTY COTTAGE จำนวน 50 สาขา ภายในปี 2556
“การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ นอกจาก BEAUTY จะนำเงินระดมทุนไปใช้สำหรับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญของบริษัทในการเสริมศักยภาพ ประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านต่างๆให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ระบบการบริหารจัดการ การลดต้นทุน การเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ฯลฯ ซึ่งเรามั่นใจว่าการดำเนินงานดังกล่าว จะนำมาสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทด้วยเช่นกัน”นายแพทย์สุวิน กล่าว
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาหุ้นของ BEAUTY น่าจะมีการปรับตัวในทิศทางเดียวกับการเติบโตที่ชัดเจน และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ขณะเดียวกันคาดว่าจะเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนได้
เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น อีกทั้งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่งที่ผ่านมามีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 54 ซึ่งมีรายได้รวม 615.31 ล้านบาท กำไรสุทธิ 134.22 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปีนี้มีรายได้รวม 558.63 ล้านบาท กำไรสุทธิ 122.92 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ BEAUTY ที่ราคา 8 บาทต่อหุ้นกับค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน ซึ่งได้แก่ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยมี P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 เดือน (22 ส.ค. - 21 พ.ย. 55) ของบริษัทดังกล่าวซึ่งมีค่าเท่ากับ 24.20 เท่า หรือ คิดเป็นส่วนลด 48.92% และ P/E ที่เสนอขายไอพีโอยังคิดเป็นอัตราส่วนลดประมาณ 8.98% จากค่า P/E ของหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงระยะเวลา 3 เดือน (22 ส.ค. - 21 พ.ย.55) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 17.71 เท่า
“BEAUTY เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจและโดดเด่น ทั้งจากฐานะทางการเงินที่ดี แนวโน้มการเติบโต ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรของบริษัท อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการผู้บริโภค โดยไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจ เชื่อว่าหลังจากการะดมทุนแผนการดำเนินงานที่บริษัทวางไว้จะเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการการขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ และการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ”นายวิชา กล่าว
สำหรับหุ้น BEAUTY เสนอขาย IPO จำนวน 82.5 ล้านหุ้นที่ราคา 8 บาท/หุ้น เปิดตลาดในการซื้อขายวันแรกที่ .... บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น .... บาท หรือ เพิ่มขึ้น ....% ระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด .... บาท และปิดตลาดที่ราคา .... บาท หรือ เพิ่มขึ้น ....%