กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยเล็งรุกตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าเป็นเอเชียนแบงก์ที่เชี่ยวชาญด้านการค้าการ ลงทุนในภูมิภาค หนุนจับคู่ธุรกิจดันผู้ประกอบการสู่เวทีโลก ปี 56 คาดจีดีพีกลุ่มเออีซี พลัส โต 5.1% การส่งออกไทยโต 10-15% ส่งผลรายได้เทรดไฟแนนช์โต 26%
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ สหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษกิจถดถอย ในขณะที่ยุโรปต้องเผชิญกับปัญหาเสถียรภาพทางการเงิน แต่ สภาพเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในเอเชียยังคงเติบโตจากการประเมินคาดว่าแนวโน้มการเติบโตทาง เศรษฐกิจของกลุ่มเออีซีพลัส (อาเซียนและจีน ญี่ปุ่น เกาหลี) ปี 56 มีจีดีพีอยู่ที่ 5.1% ส่งผลให้ ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อรับมือกับเออีซีอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2558
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงตั้งเป้าหมายรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังด้วยการเป็นเอเชียน แบงก์ (Asian Bank) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย และพร้อมจะเป็นพันธมิตร ดูแลลูกค้า ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปลงทุนต่างประเทศ และผู้ประกอบการต่างประเทศ ที่ต้องการมาลงทุนในประเทศไทย โดยอาศัยความแข็งแกร่งของธนาคารที่มีธนาคารพันธมิตรอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ที่ผู้ประกอบการต้องการเข้าไปลงทุน ซึ่งธนาคารท้องถิ่นเหล่านั้นมีข้อดีคือมีสาขาและความเชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในการทำธุรกิจของประเทศนั้นๆ ซึ่งจะสามารถช่วยผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ธนาคารมีโมเดลในการขยายเครือข่ายธนาคารพันธมิตร ยึดตามรูปแบบของ Inbound Japanese Model ที่ธนาคารใช้เป็นกลยุทธ์ดูแลลูกค้าญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย นอกจากนี้ ยังเข้าไปตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนสูง เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีธนาคารพันธมิตร ทั้งสิ้น 35 ธนาคารใน 9 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า สหรัฐอเมริกาและอียู รวมทั้งมีสำนักงานตัวแทน 2 แห่งในญี่ปุ่นและพม่า เพื่อดูแล ผู้ประกอบการไทยและต่างชาติที่ต้องการเข้าไปลงทุนในประเทศดังกล่าว
โดยได้ประสานงานร่วมกับธนาคารพันธมิตร หน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น และเครือข่ายธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ในปี 2556 เตรียมขยายพันธมิตรเพิ่มใน 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยมีธนาคารพันธมิตรในกลุ่มเออีซีครบทุกประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารได้วางกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการด้านการทำธุรกิจต่างประเทศในปี 2556 เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขัน ด้วยการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมธุรกิจต่างประเทศ (K Global Business Center) เพื่อเป็นที่ปรึกษาให้ข้อมูลคำแนะนำด้านการค้าการลงทุนในประเทศไทยและกลุ่มเออีซี ให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการ โดยตั้งอยู่ที่ธนาคารกสิกรไทย อาคารพหลโยธิน ชั้น 16 ผู้ประกอบการที่สนใจ ด้านการค้าการลงทุน ติดต่อได้ที่ K-BIZ Contact Center โทร 0 2888 8822
นายทรงพล กล่าวว่า การให้บริการของธนาคาร ฯ จะครอบคลุมการให้บริการทางการเงินที่ครบ วงจร รวมไปถึงการสนับสนุนข้อมูลอันเป็นประโยชน์เพื่อการติดต่อค้าขายระหว่างประเทศ อาทิ ข้อมูลทางเศรฐกิจที่สำคัญ อุตสาหกรรมของแต่ละประเทศ รวมไปถึงกฎระเบียบต่างๆ ในการทำธุรกิจและการขยายเครือข่ายพันธมิตรในแต่ละประเทศ ด้วยการเป็นสื่อกลางในการจัดกิจกรรมจับคู่พันธมิตร ทางธุรกิจ (Global Business Matching) ที่น่าเชื่อถือให้แก่ผู้ประกอบการไทยกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน อาเซียน ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และนักธุรกิจไทยที่ต้องการไปลงทุนในกลุ่มเออีซี ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจสำคัญระหว่างไทย-ญี่ปุ่นจะเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ไทย-พม่าในกลุ่มการเกษตร ไทย-อินโดนีเซียในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ไทย-เวียดนามในกลุ่มธุรกิจที่เป็นเฟรนไชส์ต่าง ๆ และจัดจับคู่ธุรกิจระหว่าง 4 ชาติ ญี่ปุ่น เวียดนาม พม่า ไทย ในกลุ่มอาหาร อุตสาหกรรมการเกษตร อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับภาพรวมการส่งออกในปี 2556 จากการที่เศรษฐกิจของจีนเริ่มฟื้นตัว จะส่งผลดีต่อประเทศอาเซียนและไทย ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของจีน ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น และช่วยให้การส่งออกของไทยเติบโต 10-15% ซึ่งธนาคารกสิกรไทย ตั้งเป้ายอดธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ไว้ที่ 2.7 ล้านล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 31% และมีรายได้ค่าธรรรมเนียมจากธุรกิจการค้าระหว่างประเทศประมาณ 1,910 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%