กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--สหมงคลฟิล์ม
ประเภท Action / Comedy / Adventure
กำหนดฉาย 20 ธันวาคม 2012
บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง สแตนลี่ย์ ตง (วิ่งสู้ฟัด 1-4, The Myth, ใหญ่ฟัดโลก)
กำกับ / เขียนบท / นำแสดง เฉินหลง (วิ่งสู้ฟัด 1-4, ใหญ่สั่งมาเกิด 1&2, คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด)
ร่วมแสดง ควอนซังวู (Sad Love Story, My Tutor Friend, Almost Love)
จางหลานซิน (นักกีฬาเทควันโด แชมป์ระดับนานาชาติ ปี 2004)
โอลิเวอร์ แพล็ต (X-Men: First Class, 2012, Love and Other Drugs)
ลอร่า วีสเบ็คเกอร์ (The Russian Dolls, Versailles, the Dream of a King)
อะลา ซาฟิ (From Paris with Love, D13: Ultimatum, Traitor)
เนื้อเรื่อง
หนังแอ็คชั่นส่งท้ายปี 2012 ของ "เฉินหลง" ที่ครั้งนี้ทุ่มทุนสร้างสุดยิ่งใหญ่กว่า 300 ล้านหยวน โดยเขารับหน้าที่ทั้ง กำกับ / อำนวยการสร้าง / เขียนบท และ แสดงนำเอง เพื่อให้สมการรอคอยกับการผจญภัยที่อัดแน่นไปด้วยความมันส์ฉบับ เฉินหลง ที่จะพาผู้ชมตะลุยตั้งแต่พระราชวังในฝรั่่งเศส การไล่ล่าบนไฮเวย์ด้วยชุดพิเศษ การบุกถ้ำบนเกาะลับทางทะเลตอนใต้ จนไปถึงการต่อสู้ในปล่องภูเขาไฟที่กำลังประทุ เรื่องราวของการตามหาหัวรูปปั้นทองแดง 6 ชิ้น ที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวแทน 12 นักษัตรของจีน ซึ่งถูกขโมยไปจากพระราชวังฤดูร้อนในกรุงปักกิ่งตั้งแต่ศตวรรษที่ 19
เรื่องราวใน Chinese Zodiac เริ่มต้นเมื่อนักล่าสมบัติ เจซี (เฉินหลง) ถูกว่าจ้างโดยองค์กรที่ชื่อ Max Profit ในการตามหาหัวรูปปั้นทองแดงนักษัตร 6 ชิ้นจากทั้งหมด 12 ชิ้น ที่ยังหลงเหลืออยู่ โดย เจซี และทีมของเขาก็ประกอบไปด้วย บอนนี่ (จางหลานซิน) มือขวาของ เจซี ที่ถึงแม้เป็นผู้หญิงแต่ก็ถือเป็นกำลังสำคัญของกลุ่ม, ไซม่อน (ควอนซังวู) สามีของ บอนนี่ หนึ่งในสมาขิกของทีมที่มีไหวพริบและความสามารถหลายด้าน และ เดวิด (เหลียวฟาน) ฝ่ายเทคนิกประจำกลุ่ม ที่สามารถจัดการกับเทคโนโลยีทุกชนิดได้ในเพียงแค่พริบตา
เจซี พบกับเบาะแสของรูปปั้น 2 ชิ้นที่ถูกเก็บอยู่ที่พระราชวังฌองติลลีในฝรั่งเศส ด้วยภารกิจที่ซับซ้อนและอันตราย ทำให้ เจซี ต้องขอความช่วยเหลือจาก โคโค่ (เหยาซิงตง) นักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนในปารีส ที่ก่อตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวในการนำสมบัติของชาติกลับสู่บ้านเกิด ในพระราชวัง เจซี ต้องเผชิญหน้ากับ ปิแอร์ ที่ Max Profit จ้างมาขโมยรูปวาดในสถานที่เดียวกัน และเขาก็ยังได้พบกับ แคทธาลีน (ลอร่า วีสเบ็คเกอร์) สมาชิกของครอบครัวขุนนางเก่าฝรั่งเศส ที่บ้านของเธอมีหัวรูปปั้นทองแดงอีกชิ้นนึง
ทีมของ เจซี ค้นพบว่าบรรพบุรุษของ แคทธาลีน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขโมยรูปปั้นมาจากพระราชวังฤดูร้อน และเธอก็ได้นำพวกเขาไปยังจุดหมายต่อไป ที่หัวรูปปั้น 2 ชิ้นอยู่บนเกาะลับในทะเลตอนใต้ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับทั้งโจรสลัดที่กำลังตามหาสมบัติ รวมถึงหน่วยรบที่ ปิแอร์ รวบรวมมาเพื่อแก้แค้นเรื่องที่เกิดในฝรั่งเศส
หลังจากเหตุการณ์บนเกาะ เจซี ก็พบว่าผู้จ้างวานของเขา Max Profit ครอบครองหัวรูปปั้นอีก 6 ชิ้นที่หายสาบสูญไป และก็ต้องการครอบครองทั้ง 12 ชิ้น เพื่อที่จะปลอมพวกมันขึ้นมาเพื่อขายในตลาดมืด ซึ่งก็เป็นวิธีที่บริษัททำธุรกิจ เจซี จึงหาวิธีที่จะแก้เผ็ดพวกเขา ด้วยการบุกเข้าไปในโรงงานทำวัตถุปลอมของ Mac Profit อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องเจอกับคู่ต่อกรที่อันตรายที่สุดอย่าง วัลเชอร์ (อะลา ซาฟิ) อดีตทหารที่ถูกจ้างมาเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เจซี และสมาชิกทีมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเปิดโปงความลับองค์กร รวมถึงกอบกู้สมบัติของชาติให้กลับคืนสู่แผ่นดินเกิดให้จงได้
แนะนำตัวละคร +ประวัตินักแสดง
เฉินหลง (รับบทเป็น เจซี / ผู้กำกับ / ร่วมเขียนบท / อำนวยการสร้าง / ออกแบบคิวบู๊)
เจซี คือนักล่าสมบัติและนักผจญภัย ที่รับงานทุกประเภทที่ให้ค่าจ้างที่เขาพอใจ นั่นทำให้เขาไปรับงานจากองค์กรที่ชื่อ Max Profit กับภารกิจการตามหาหัวรูปปั้นทองแดง 12 นักษัตรที่กระจายอยู่ทั่วโลก แต่ด้วยสัญชาตญาณและประสบการณ์ที่ผ่านมา เจซี ก็ได้ล่วงรู้ถึงแผนการที่แท้จริงของ Max Profit และเขาก็ต้องหาทางตลบหลังผู้จ้างวาน รวมถึงการแย่งชิงสมบัติเพื่อนำมาคืนสู่สถานที่ที่มันควรอยู่
เฉินหลง คือนักแสดงจากเอเชียที่มีมีผลงานอยู่ในฮอลลิวู้ดมากว่า 20 ปี และกลายเป็นดาราจากเอเชียคนแรกที่ทำเงินในหนังบล็อคบัสเตอร์มากแล้วมากมาย เช่น Rush Hour 1, 2 และ 3, Shanghai Noon, Shanghai Knights, The Tuxedo โดยเขายังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง, กำกับ และแสดงในหนังเอเชียอีกมากมาย เช่น Drunken Master 1 & 2, The Police Story 1-4, Armor of God 1 & 2, New Police Story และ Rob-B-Hood
เฉินหลง เกิดในฮ่องกง เขาได้รับการฝึกฝนใน Peking Opera School ตั้งแต่อายุได้ 7 จนถึง 17 ปี ที่เขาได้ร่ำเรียนการรำงิ้วจีน และรวมถึงศิลปะอย่างอื่น เช่น ยิมนาสติก, ศิลปะการต่อสู้, การเต้น, การร้องเพลง และการแสดง เมื่อถึงเวลาที่เขาสำเร็จการศึกษา เขาก็ได้มุ่งเข้าสู่โลกภาพยนตร์
ในช่วงต้นทศวรรษที่ 70 เฉินหลง ได้ทำงานเป็นนักแสดงสตันท์และกำกับคิวบู๊ โดยส่วนมากแล้วเขาได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงตลกจากยุคหนังเงียบ อย่าง บัสเตอร์ คีตัน และ ฮาโรลด์ ลอยด์ เขาได้สร้างสไตล์ที่มีเอกลักษณ์สำหรับภาพยนตร์ ในการผสมสานระหว่างความตลกและฉากสตันท์ที่เสี่ยงอันตราย เฉินหลง กลายเป็นตำนานในการเสี่ยงชีวิตในฉากสตันท์ในหนังหลายต่อหลายเรื่อง ดังที่ทุกคนได้เห็นหลังหนังจบทุกเรื่อง
ในปี 2002 เฉินหลง ได้รับการประทับรอยมือและรอยเท้าลงใน Hollywood Walk of Fame นอกจากการเขียนบท, แสดง และกำกับ แจ็คกี้ ก็ยังเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จ และยังเป็นนักรณรงค์และก่อตั้งมูลนิธิเพื่อเด็กมากมายทั่วโลก โดยในปี 1988 เขาก็ได้ก่อตั้ง Jackie Chan Charitable Foundation (JCCF) ที่ช่วยเหลือเด็กและคนชราที่พิการและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รวมถึงการมอบเงินทุนให้กับนักเรียนที่มีความสามารถแต่ไร้โอกาส
เฉินหลง ยังบริจากเงินจำนวน 1.5 ล้านเหรียญให้กับมูลนิธิที่ต่อสู้กับการระบาดของโรค SARS และบริจาคเงินอีกจำนวนหนึ่งให้กับ Tsunami Relief Fund ที่ช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยสึนามิ เฉินหลง ยังเป็นทูตพิเศษให้กับองค์การยูนิเซฟ และเป็นทูตทางการให้กับ โอลิมปิคเกมส์ ประจำที่ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง
ควอนซังวู (รับบทเป็น ไซม่อน)
ไซม่อน คือเพื่อนสนิทของ เจซี และเป็นหัวใจหลักของทีม เขาเป็นผู้ชายที่หัวไวและก็มีความสามารถในเรื่องศิลปะการต่อสู้ไม่แพ้หัวหน้าทีม ไซม่อน ยังมีความสามารถในการเอาตัวรอดกับสถานการณ์เฉพาะหน้า อย่างไรก็ตามเขาก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ บอนนี่ ภรรยาของเขาที่เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมและเป็นมือขวา เจซี โดย ไซม่อน มักเจอกับสถานะที่ลำบากเนื่องจากเขามีปัญหาในเรื่องของการแสดงความรู้สึก
ควอนซังวู เป็นนายแบบและนักแสดงเกาหลีใต้ ที่เริ่มต้นอาชีพนักแสดงในซีรี่ย์ตั้งแต่ยุค 90 ก่อนที่จะแจ้งเกิดกับหนังแอ็คชั่น/แฟนตาซีเรื่อง Volcano High ในปี 2001 หลังจากนั้นเขาก็มีผลงานการแสดงในหนังโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง My Tutor's Friend คู่กับ คิมฮานึล ในปี 2003 ที่ฮิตถล่มทลายและทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Daejong Film Awards และ Baeksang Arts Awards
ในปี 2006 เขาก็แสดงนำในหนังแอ็คชั่นบล็อคบัสเตอร์เรื่อง Running Wild ก่อนที่จะกลับไปร่วมงานกับ คิมฮานึล ในหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ Almost Love ที่ประสบความสำเร็จอยู่ในอันดับหนึ่งบ็อกซ์ออฟฟิศสองสัปดาห์ติดต่อกัน ในขณะเดียวกันเขาก็มีผลงานการแสดงในซีรี่ย์สุดฮิตอย่าง Sad Love Story (ลิขิตฟ้ากั้นรัก) คู่กับ คิมฮีซุน และ ยอนจองฮุน
ในปี 2010 ควอนซังวู กลับมาแสดงนำในหนังสงครามเรื่องยิ่งใหญ่อย่าง 71: Into the Fire ที่กลายเป็นหนังเกาหลีที่ทำเงินสูงสุดประจำปีกว่า 2 หมื่นล้านวอน ก่อนที่จะไปแสดงในซีรี่ย์เรื่อง Daemul (ประธานาธิบดีคุณนายกับคุณชายบอดี้การ์ด) ร่วมกับ โกฮยอนจอง ที่ฮิตติดลมบนโดยอยู่ในอันดับหนึ่งซีรี่ย์ที่มีผู้ชมมากที่สุดถึง 11 สัปดาห์ติด
ในปัจจุบัน ควอนซังวู ก็แต่งงานกับนางงาม/นักแสดง ซอนแทยอง และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน โดยเขาก็กำลังขยายฐานแฟนๆนอกเหนือจากเกาหลีใต้ โดยในปี 2012 นอกจากการแสดงร่วมกับ เฉินหลง ใน Chinese Zodiac เขาก็แสดงนำคู่กับ จางป๋อจือ ซุปเปอร์สตาร์ชาวฮ่องกงในหนังโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่อง Shadows of Love และในปี 2013 เขาก็กำลังจะมีผลงานโกอินเตอร์เรื่องแรกในฮอลลิวู้ดอีกด้วย
จางหลานซิน (รับบทเป็น บอนนี่)
บอนนี่ เป็นมือขวาของ เจซี และก็เป็นภรรยาของ ไซม่อน หนึ่งในสมาชิกทีมเช่นกัน เธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นเมื่อจัดการกับผู้ชายทุกคน ด้วยความสามารถในเรื่องกีฬาเทควันโด้ระดับโลก บอนนี่ ยังเชี่ยวชาญในการวางแผนแท็กติกและเป็นสมาชิกทีมที่สำคัญที่สุดในสนาม แต่ที่สำคัญเธอก็ยังเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่สุดๆ และเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเป็นตัวล่อกองทหารรัสเซีย ระหว่างที่ เจซี เข้าไปขโมยหัวรูปปั้นทองแดงอีกด้วย
จางหลานซิน เกิดในกรุงปักกิ่ง เธอสร้างชื่อในฐานะนักกีฬา ด้วยการเป็นแชมป์เทควันโดระดับนานาชาติ ปี 2004 รุ่น 55 กิโลกรัม ซึ่งด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งและหน้าตาที่สวย ทำให้เธอได้รับโอกาสเข้าสู่วงการนางแบบและการถ่ายโฆษณา ก่อนที่ เฉินหลง จะเห็นศักยภาพ และนำเธอเข้ามาแสดงหนังเป็นครั้งแรกใน Chinese Zodiac
เฉินหลง ก็ได้กล่าวถึง จางหลานซิน ว่า "ผมคิดว่า จางหลานซิน เป็นแอ็คชั่นสตาร์หญิงที่เก่งที่สุด นับตั้งแต่ที่ผมเคยร่วมงานกับ มิเชล โหยว มาสมัย วิ่งสู้ฟัด 3 ผมคิดว่ามีนักแสดงหญิงในวงการหนังจีนอยู่ไม่กี่คน ที่แสดงฉากแอ็คชั่นเองได้ และยังมีรูปร่างที่สูงใหญ่ (177 ซม.) เธอมีแขนขาที่ยาวและคล่องแคล่ว ซึ่งผมก็ได้นำเอาจุดเด่นมาสร้างคิวบู๊ที่น่าตื่นเต้นที่สุด และที่สำคัญเธอก็ยังอึดมากอีกด้วย ผมเห็นรูปในมือถือของเธอที่มีเลือดคั่งในหัวเข่า ซึ่งผมก็ไม่รู้มาก่อนเลยในช่วงที่ถ่ายทำ เพราะถ้ารู้ผมก็คงไม่ปล่อยให้เธอถ่ายทำแน่ๆ เธอเข้มแข็งจริงๆ"
จางหลานซิน ก็ได้พูดถึงความรู้สึกของการได้เข้ามาแสดงหนังว่า "ฉันแทบไม่ต้องเตรียมความพร้อมทางร่างกายเลย เพราะฉันมีประสบการณ์ในการฟิตซ้อม สมัยที่เป็นนักกีฬาทีมชาติเทควันโด แต่ตั้งแต่วันแรกที่พี่ใหญ่ (เฉินหลง) เลือกให้เข้ามาแสดง ฉันก็รู้ว่ามันต้องเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เพราะการถ่ายทำคิวบู๊กับการต่อสู้ในกีฬามันแตกต่างกัน ที่สำคัญพี่ใหญ่ก็เป็นคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ เขาจะไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดนิดเดียวหลุดลอยไป"
เหยาซิงตง (รับบทเป็น โคโค่)
โคโค่ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีน ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ซอร์บอนน์ในปารีส เธอศึกษาเกี่ยวกับโบราณคดี ซึ่งทำให้เธอเชี่ยวชาญในการทดสอบวัตถุโบราณ โคโค่ เป็นนักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องให้นำสมบัติที่ถูกขโมยจากประเทศจีนกลับสู่บ้านเกิด เธอและน้องชาย อู่ชิง ได้ตั้งกลุ่มในการต่อต้านการประมูลและซื้อขายสมบัติของจีนในต่างประเทศ แต่แล้ว อู่ชิง ก็หายตัวไป สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ โคโค่ และ เจซี ต้องมาร่วมมือกัน เพราะเขาขอความช่วยเหลือจากเธอในการบุกเข้าพระราชวัง ในขณะเดียวกันเธอก็อยากให้เขาช่วยตามหาน้องชายที่หายไป
เหยาซิงตง สำเร็จการศึกษาจากสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง สาขาการแสดง เธอเริ่มต้นเส้นทางการแสดงทางจอแก้วตั้งแต่ปี 2003 ก่อนที่จะก้าวเข้ามาในจอเงินในปี 2006 ในปี 2009 เธอก็ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Rooster Awards สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการแสดงในเรื่อง Blossom
เหลียวฟาน (รับบทเป็น เดวิด)
เดวิด ถือเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีในทีมของ เจซี เขาเก่งในเรื่องการแฮ็คข้อมูล รวมถึงการดักฟังและติดตั้งกล้องสอดแนม และยังเป็นศูนย์กลางในการติดต่อสื่อสารภายในทีม ความสามารถในเรื่อง IT ของเขาไม่เป็นสองรองใคร ภายในหัวของเขาทำงานเหมือนกับไมโครชิพของคอมพิวเตอร์
เหลียวฟาน เกิดในหูหนาน สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแสดงเซี่ยงไฮ้ในปี 1997 และมีบทบาทในละครโทรทัศน์สองเรื่องตั้งแต่สมัยที่เรียน เขาเริ่มมีการแสดงในภาพยนตร์สองเรื่องแรกก็คือ Chicken Poets และ Green Hat และก็ถูกเลือกจากผู้กำกับ หลี่เซาหง ให้แสดงใน Baober in Love, หวงเจียนซิน ใน Gimme Kudos, จางหยาง ใน Getting Home ก่อนที่เขาจะร่วมงานกับสุดยอดผู้กำกับอย่าง เฝิงเสี่ยวกัง ใน Assembly, สแตนลี่ย์ ควาน ใน Showtime และล่าสุดกับ เจียงเหวิน ใน Let the Bullets Fly
ลอร่า วีสเบ็คเกอร์ (รับบทเป็น แคทธาลีน)
แคทธาลีน เป็นลูกสาวขุนนางเก่าในฝรั่งเศส แต่เธอก็พบว่าตัวเองไม่มีอะไรเหลือ หลังจากที่ศาลประกาศว่าครอบครัวเธอล้มละลาย เธอคือคนที่ครอบครองหัวรูปทองแดงไว้ 1 ชิ้น และเป็นลูกหลานของนายทหารที่มีส่วมร่วมในการปล้นพระราชวังฤดูร้อนปักกิ่งเมื่อศตวรรษที่แล้ว ด้วยความที่ แคทธาลีน ต้องการทำตามที่คุณยายบอกเอาไว้ และลบล้างความผิดของบรรพบุรุษ เธอก็ได้ร่วมเดินทางไปกับทีมของ เจซี ในทางเกาะตอนใต้ เพื่อตามหาหัวรูปปั้นทองแดงที่เหลือ
ลอร่า วีสเบ็คเกอร์ เป็นนักแสดงฝรั่งเศสที่มีผลงานมานาน หลังจากสำเร็จกากรศึกษาด้านวิศวกรรม เธอก็เดินตามความฝันด้วยการเรียนการแสดงในแอลเอ ก่อนที่จะมีบทบาทในเรื่อง France Boutique ของ โทนี่ มาร์แชลล์ จากนั้นเธอก็ยังได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เอลลี ชิราคุย, เธียร์รี่ บินิสติ และ มาร์ค โรมาเน็ค โดยเธอก็ยังสามารถพูดได้ทั้งภาษาฝรั่งเศส, อังกฤษ, เยอรมัน และจีน
อะลา ซาฟิ (รับบทเป็น วัลเชอร์)
วัลเชอร์ คือทหารรับจ้างที่ Max Profit หันไปหา หลังจากทีมของ เจซี ค้นพบแผนการที่แท้จริง ไม่เหมือนกับ เจซี เมื่อ วัลเชอร์ ไม่เคยคิดหรือมีคำถามสำหรับภารกิจที่เขาต้องทำ เขามีจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวก็คือทำหน้าที่ให้สำเร็จ ซึ่งก็อาจหมายถึงการกำจัดคน วัลเชอร์ เป็นทหารเก่าที่มีประสบการณ์การต่อสู้โชกโชน และเขากับ เจซี ก็ได้ปะทะกันถึงสองครั้งสองครา นั่นก็คือในโกดังวัตถุโบราณและการต่อสู้กลางเวหาในฉากไคลแม๊กซ์
อะลา ซาฟิ เป็นคนฝรั่งเศสเชื้อชายโมร็อกโก เขาเรียนเทควันโดตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก่อนที่จะใช้เวลา 2 ปีในประเทศไทยเพื่อสั่งสมประสบการณ์กับการเป็นสตันท์แมน หลังจากที่เขากลับมาบ้านเกิด ซาฟิ แสดงในหนังแอ็คชั่นมากมาย เช่น From Paris with Love ร่วมกับ จอห์น ทราโวลต้า และ โจนาธาน รีส เมเยอร์ และ D13: Ultimatum หนังแอ็คชั่นฝรั่งเศสสุดฮิต โดยเขายังขยายขอบเขตการแสดงในละครเวทีและโอเปร่า โดยผลงานเรื่องล่าสุดของเขาก็คือ A Prophet, และ Un Baiser Papillon
เคทลิน เดเชล (รับบทเป็น เคธี่ มือขวาของ วัลเชอร์)
สมาชิกทีมที่อันตรายที่สุดของ วัลเชอร์ และเป็นมือขวาของเขาก็คือ เคธี่ ซึ่งรับบทโดย เคทลิน เดเชลล์ นักกีฬายูโดแชมป์โลกปี 2007 โดยในเรื่องเธอก็จะได้ปะทะกับ บอนนี่ ที่รับบทโดย จางหลานซิน นักกีฬาแชมป์โลกเทควันโด นี่คือสุดยอดสองนักกีฬาตัวจริงที่มาประชันฝีมือกันอย่างถึงพริกถึงขิง ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้กับฉากสตันท์ของ เฉินหลง
โอลิเวอร์ แพล็ต (นักแสดงรับเชิญ รับบทเป็น ลอว์เรนซ์)
ลอว์เรนซ์ คือหัวหน้าใหญ่ของ Max Profit Corporation องค์กรที่ว่าจ้างทีมของ เจซี เขาพยายามทำให้องค์กรของตัวเองเป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยการแลกเปลี่ยนซื้อขายวัตถุโบราณ แต่ความจริงองค์กรนี้ก็คือการผลิตวัตถุโบราณปลอม เพื่อนำไปขายให้กับนักสะสมที่ถูกต้มตุ๋น เขามักจ้างทีมนอกอย่าง เจซี หรือ วัลเชอร์ เพื่อทำงานสกปรกให้ แต่เขาก็ไม่นึกว่าสิ่งนั้นจะกลับมาทำร้ายตัวเอง
โอลิเวอร์ แพล็ต เป็นนักแสดงฮอลลิวู้ดที่มีผลงานมานานกว่า 3 ทศวรรษ เขาเป็นเพื่อนกับ บิล เมอร์เร่ย์ ก่อนที่จะถูกแนะนำให้กับผู้กำกับ โจนาธาน เด็มม์ สำหรับบทบาทในเรื่อง Married to the Mob ก่อนที่เขาจะเริ่มมีการแสดงในเรื่อง Working Girl ของ ไมค์ นิโคลล์ ที่เขาได้แสดงคู่กับ แฮรริสัน ฟอร์ด จากนั้นมีผลงานบล็อคบัสเตอร์มากมาย เช่น Flatliners, Indecent Proposal, The Three Musketeers, Dr. Dolittle, Lake Placid, Kinsey และล่าสุด X-Men: First Class โดยเขาก็ยังเคยได้รับรางวัลเอ็มมี่ถึง 4 ครั้ง และลูกโลกทองคำอีกหนึ่งครั้ง
เฉินป๋อหลิน (นักแสดงรับเชิญ รับบทเป็น อู่ชิง)
อู่ชิง คือน้องชายของ โคโค่ และเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการซื้อขายวัตถุโบราณ อย่างก็ตามเขาก็ถูกลักพาตัวและขังเอาไว้โดยฝีมือของ Max Profit ซึ่งหลังจากที่ทีมของ เจซี และ โคโค่ ได้เข้าไปช่วยเหลือ อู่ชิง ก็ได้เปิดโลกทัศน์ให้ เจซี ได้เห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้จ้างวาน
ประวัติทีมงาน
บาร์บี้ ถัง (ผู้อำนวยการสร้าง)
ผลงาน >>> Rumble in the Bronx, First Strike, Who Am I?, Let the Bullets Flyสแตนลี่ย์ ตง (ผู้ร่วมเขียนบท)
ผลงาน >>> Supercop: Police Story 3, Rumble in the Bronx, First Strike: Police Story 4, The Mythอู๋มั่นชิง (ผู้กำกับภาพ)
ผลงาน >>> The Legend of Chen Zhen, Three Kingdoms: Resurrection of the Dragon เหยาชือไว (ผู้ตัดต่อภาพ)
ผลงาน >>> Supercop: Police Story 3, First Strike: Police Story 4, Detective Dee, Flying Swords of Dragon Gateโอลิเว่อร์ หว่อง (ผู้ออกแบบงานสร้าง)
ผลงาน >>> Police Story, Rumble in the Bronx, Kung Fu Hustle, The Myth, Shinjuku Incident