สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 14, 2012 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,699 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,698 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.63 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท และกลับมาปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,341 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,220 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 114 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1% Silver Futures ลดลง 0.3% GFZ12 ปิด 24,780 บาท และ GFG12 ปิด 24,960 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,790 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,970 บาท SVZ12ปิดที่ 1,008 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 21.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,696.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.427 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 32.355 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,351.42 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ระดับ 85.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 74.73 จุด ปิดที่ 13,170.72 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ ที่มา : TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, Bloomberg และ CNBC -ราคาทองคำปรับตัวลดลง 1% เมื่อวานนี้ จากความกังวลว่าเฟดอาจจะยกเลิกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหากตลาดแรงงานฟื้นตัวได้อย่างมาก ส่งผลให้เหล่ากองทุนต่างๆ ลดการเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลดลง 21.1 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,696.8 เหรียญ -โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1,700 เหรียญเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะ Fiscal Cliff ของสหรัฐที่บั่นทอนความน่าดึงดูดใจในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ นักลงทุนจากสถาบันใหญ่ๆ มีการชำระบัญชีในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สจากความกังวลในเรื่องการเพิ่มภาษีในปีใหม่ก็มีส่วนกดดันราคาทองคำเช่นกัน -ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่เฟดได้กำหนดขอบเขตของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ 0% จนกว่าอัตราการว่างงานจะลดต่ำกว่าระดับ 6.5% และ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการว่างงานอาจจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด ทำให้กองทุนลดการถือสถานะทองคำลงไป -จากการแถลงการณ์ของเฟด ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ทั้งการเพิ่มการซื้อพันธบัตรเป็น 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และการกำหนดเป้าหมายให้มีอัตราเงินเฟ้อมากกว่าระดับ 0.5% คือ 2.5% ซึ่งมากกว่าก่อนหน้าที่ได้กำหนดไว้ แต่การที่ทองคำปรับตัวลดลงเนื่องจากเฟดได้ส่งสัญญาณว่ามีความมั่นใจ 0% ที่รัฐสภาจะสามารถทำการตกลงประเด็น Fiscal Cliff กันได้ โดยเฟดกำลังทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อบรรเทาผลกระทบ นายเบอร์นันเก้ได้กล่าวว่าเฟดยังคงไม่มีเครื่องมือในการขจัดผลกระทบทั้งหมดของ Fiscal Cliff ได้ -ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับที่ลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. เพราะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ยานยนต์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงการจับจ่ายซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเริ่มต้นเทศกาลวันหยุดปลายปี นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 29,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 343,000 ราย ซึ่งทำสถิติลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์ และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 369,000 ราย ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย.อ่อนตัวลง 0.8% เนื่องจากราคาพลังงานที่ร่วงลง 4.6% ส่วนต้นทุนด้านเชื้อเพลิงอ่อนตัวลง 10.1% ในเดือนเดียวกัน นับเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 -S&P ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือ AAA ของประเทศอังกฤษ เป็น "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" ซึ่งบ่งชี้ว่า มีโอกาส 1 ใน 3 ที่ S&P จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษ หากภาวะเศรษฐกิจและการคลังของอังกฤษย่ำแย่ลง -ธนาคารแบงก์ ออฟ ไชน่า (BOC) ระบุในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7.8% ปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเป้าหมายที่ 7.5% สำหรับในปี 2556 อัตราเติบโตของเศรษฐกิจจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับประมาณ 8% แต่เศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมานั้น กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง -ราคาทองคำในเช้านี้ปรับตัวลดลง หากราคาในวันนี้ปรับตัวลงอีกจะนับว่าเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้วที่ราคาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนที่จับตาการเจรจาทางสหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff ที่ใกล้เข้ามาถึงและยังคงห่างไกลจากการประนีประนอมกันได้ -นายโอบามาได้เข้าพบกับนายจอห์น โบห์นเนอร์เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในช่วงเช้านี้ ณ ทำเนียบขาวเพื่อเจรจาด้านงบประมาณ โดยนายไกธ์เนอร์ เลขาธิการกระทรวงการคลังได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ซึ่งทำเนียบขาวและสำนักงานของนายโบห์นเนอร์ได้เปิดเผยว่าเป็นการประชุมอย่างตรงไปตรงมา และมีการเปิดกว้างต่อการสื่อสารกัน ทั้งนี้ในช่วงเช้าของวันนี้ นายโบห์นเนอร์ได้ย้ำท่าทีในการยืนกรานว่าข้อเสนอด้านงบประมาณของนายโอบามาไม่มีอะไรนอกจากความสมดุล และได้กล่าวโจมตีว่านายโอบามายังไม่จริงจังในการตัดลดงบประมาณ -นายแฮรี่ รีด ผู้นำพรรครีพลับลิกันเปิดเผยว่า จะยังไม่อนุมัติให้มีการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับการยืดเวลาของการลดอัตราภาษีครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่า 250,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือการตัดลดเงินชำระคืนประกันสุขภาพให้กับแพทย์ หากยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณทั้งหมด ซึ่งพรรครีพลับลิกันจะต้องยินยอมกับการเพิ่มอัตราภาษีผู้มีรายได้สูงก่อน -การเจรจาระหว่างนายโอบามาและนายโบห์เนอร์ดำเนินมาสู่ทางตันก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลาสิ้นปี นายโอบามาจะเดินทางไปที่ Blair House วันนี้ในงานฉลองวันหยุดเทศกาล และได้กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการเจรจาว่า การเจรจา Fiscal Cliff “ยังคงอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินงาน” -การประชุมกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซนหรือยูโรกรุ๊ปเมื่อวานนี้ได้ข้อสรุปว่า ยูโรโซนตกลงอนุมัติเงินแก่กรีซมูลค่า 4.91 หมื่นล้านยูโรภายในสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการกระตุ้นนายกรัฐมนตรีแอนโทนิส ซามาราสของกรีซให้ประกาศถึงการสิ้นสุดการพูดคุยถึงการที่กรีซจะออกจากยูโรโซนเสียที นอกจากนี้ นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ประธานยูโรกรุ๊ปกล่าวว่า กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือในสัปดาห์หน้า และเชื่อมั่นในโครงการซื้อคืนพันธบัตรของกรีซ โดยเงินจำนวน 3.43 หมื่นล้านยูโรจะให้แก่กรีซในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ และเงินส่วนที่เหลือจะให้ในไตรมาสแรกของปีหน้า ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core Retail Sales m/m ออกมาที่ระดับ 0.0% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% - PPI m/m ออกมาที่ระดับ -0.8% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% - Retail Sales m/m ออกมาที่ระดับ 0.3% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% -Unemployment Claims ออกมาที่ระดับ 343,000 ตำแหน่ง จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 372,000 ตำแหน่ง - Core PPI m/m ออกมาที่ระดับ 0.1% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ-0.2% ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้ - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.2% - CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -0.2% - Flash Manufacturing PMI 52.8 ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 52.6 - EU Economic Summit วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold —ราคาทองคำเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางในกรอบแคบๆ ในระหว่าง 1,690-1,700 เหรียญ และคาดว่าจะยังดำเนินต่อไป จนกว่าจะมีความชัดเจนของหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) ทาง MTS Gold ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวตามกรอบแนวรับแนวต้านดังกล่าว โดยเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นๆ เน้นเข้าเร็วออกเร็ว Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,850 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,000 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,690 — 1,700 เหรียญ เก็งกำไรตามรอบเน้นเข้าออกเร็ว นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) Wait & See ยังคงรอความชัดเจนอยู่นอกตลาด นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง Wait & See เช่นเดียวกับนักลงทุนรายสัปดาห์ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ