กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--มีเดีย โรด
นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในงานแถลงแผนการดำเนินงานด้านการตลาดออนไลน์ของ ททท. ประจำปี 2556 และแถลงผลงานความสำเร็จด้านการตลาดออนไลน์ในปีที่ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่ ททท. โดยเปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาและเพิ่มช่องทางใหม่ ๆ ด้าน Digital Marketing ในปี 2556 เพื่อให้ ททท. เป็น Digital Organization ที่ชัดเจน และรักษาความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ Internet, Social Network และ Smart Phone ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทย และส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดย ททท. มีแผนดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผ่านช่องทางหลัก คือ Facebook พร้อมกันนี้ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตร กับ Google (Street View) และ Trip Advisor รวมทั้ง Zizzee เพื่อเพิ่มช่องทางและรูปแบบในการให้บริการนักท่องเที่ยว และเพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ แก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของไทยผ่านช่องทางออนไลน์ของ ททท.”
ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Facebook กว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก คิดเป็น 44% ของจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก โดยคาดว่าภายในปี 2556 จะมีผู้ใช้งาน Facebook เพิ่มเป็น 1.5 พันล้านคน ไม่รวม Social Network อื่นๆ ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับสร้าง Community เฉพาะด้าน ได้แก่ Twitter, Instagram, Google+, YouTube, Pinterest เป็นต้น ทั้งนี้ ในปี 2555 เว็บไซต์หลัก www.tourismthailand.org มีจำนวนครั้งการเข้าชม (Page view) สูงถึง 130 ล้านครั้ง และมีผู้เยี่ยมชม (Visitors) 20 ล้านคน ในส่วนของสังคมออนไลน์ (Social Network) มีจำนวนการเข้าชม (Impressions) กว่า 530 ล้านครั้ง และมีผู้เข้าเยี่ยมชม (Visitors) 50 ล้านคน นอกจากนี้ ททท. ได้ดำเนินการสร้าง Community ใหม่ขึ้น ภายใต้ชื่อ Amazing Thailand บน LINE แอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ และมีผู้ใช้บริการกว่า 80 ล้านคนทั่วโลก โดยได้จัดทำขึ้นทั้งในรูปแบบ Official Account และ Sticker ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกแล้วกว่า 2 ล้านคน
แผนงานในปี 2556 ททท. ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ 3 เว็บไซต์ชั้นนำ คือ Trip Advisor, Google (Street View) และ Zizzee โดย Trip Advisor ถือเป็นเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนำเสนอคำแนะนำที่เชื่อถือได้จากนักท่องเที่ยวตัวจริง และนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวเพื่อใช้ในการวางแผนการเดินทาง โดย ททท. จะนำ Review จาก Trip Advisor มาประกอบข้อมูลในเว็บไซต์หลักของ ททท. ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพของข้อมูลต่างๆ ของ ททท. อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มจำนวน Visitor และ Page view ของเว็บไซต์ tourismthailand.org
สำหรับความร่วมมือกับ Google ได้เปิดตัวโครงการ Google Street View ซึ่งเป็นการถ่ายภาพแบบ พาโนรามาจากสถานที่จริง แล้วนำมาแสดงบน Google Maps และแสดงผลในมุมมองเสมือนว่าเราได้ยืนอยู่บนสถานที่จริง โดยในขณะนี้ สามารถชมภาพ 3 จังหวัดหลักของไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยประเทศไทยนับเป็นลำดับที่ 35 ของประเทศที่เปิดบริการสตรีทวิวนี้ และในส่วนของ Zizzee ซึ่งเป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาโรงแรม รถเช่า สายการบิน และเป็นแหล่งรวมโปรโมชั่นต่างๆ จากโรงแรมชั้นนำมากมาย ททท. ได้นำระบบ meta search มาใช้ในเว็บไซต์ tourismthailand.org เพื่อให้ผู้เข้าชมข้อมูลเข้าถึงผู้ประกอบการและตัวแทนธุรกิจนำเที่ยวจากทั่วประเทศกว่า 200,000 ราย ในรูปแบบ Travel-One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเพิ่มช่องทางส่งเสริมการขายใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มยอดนักท่องเที่ยว FIT หรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเองได้เป็นอย่างดี
ด้านตลาดในประเทศ ททท. ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น “เที่ยวหัวใจใหม่” (Thailand Tourism) ที่รองรับผู้ใช้ Smart Phone ทั้ง iPhone และ Android ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ใช้ แล้วกว่า 17 ล้านคน เพื่อให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและโปรโมชั่นพิเศษ โดยมีรูปแบบและดีไซน์ตามแนวคิด “เที่ยวหัวใจใหม่” Augmented Reality หรือ AR นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นสัญลักษณ์และข้อมูลการท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่รอบตัว รวมทั้งได้จัดทำ Interactive Map ในลักษณะแผนที่บน Smart Phone ด้วยระบบ “QR code scanner” เพื่อเรียกดูข้อมูลการท่องเที่ยว และ Check-In สำหรับแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยผ่านทาง Facebook ของนักท่องเที่ยว
ในส่วนของเกมส์สมายแลนด์ ซึ่งเป็นเกมส์ออนไลน์เกมส์แรกบน Facebook ที่ ททท. สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยภายใต้แนวคิด Gamification หรือการส่งเสริมการตลาดในรูปแบบของเกมส์ โดยเกมส์สมายแลนด์ได้มีมินิเกมส์เพื่อรองรับการเล่นในแต่ละแพลตฟอร์มบน iPhone, iPad, Android, Nokia Ovi และ WindowsPhone นอกจากนี้ ตลอดปี 2556 ททท. ได้จัดให้มีกิจกรรมพิเศษภายในเกมส์สมายแลนด์ในแต่ละเดือน อาทิ งานเทศกาลปีใหม่ ที่เชียงคาน จ.เลย งานวันเด็ก ที่พร้อมมิตรสตูดิโอ จ.กาญจนบุรี และงานมาฆบูชา จ.นครปฐม เป็นต้น
นายสุรพล ยังกล่าวอีกว่า “นับตั้งแต่ ปี 2553 ททท. ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเว็บไซต์ท่า (portal web) ของ ททท. ให้เป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมดจากเวอร์ชั่น 1.0 เป็น 2.0 เพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งการสื่อสารออนไลน์ (Social Network) ด้วยการเปิดตัว Facebook Amazing Thailand พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Digital Marketing ผ่าน Social Network, Blog Marketing, Viral Marketing, Search Engine Marketing และในปี 2554 โครงการ Amazing Thailand Social Networking ได้รับรางวัล PATA GOLD AWARD 2011 ในหมวดของการตลาดสาขา Marketing — Primary Government Destination และยังได้เปิดตัว Amazing Thailand Mobile Application เป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวเกมส์สมายแลนด์ และบริการ TAT Contact Center เป็นต้น”
ในปีนี้ได้มีการปรับโฉมหน้าของเว็บไซต์ TourismThailand.org และจัดทำแคมเปญ Discover The Other You ขณะเดียวกันก็ได้เปิดตัว The New Amazing Thailand Mobile Application โดยเน้นการค้นหาสถานที่ (Location-Based) จัดทำแอพพลิเคชั่นเฉพาะด้าน เช่น Green Tourism, Thailand Medical Tourism, AST (อสท), Speak Thai, Lifestyle Thailand, Amazing Thailand Grand Sale ฯลฯ
“การใช้สื่อดิจิตอลในการทำตลาดด้านการท่องเที่ยวทุกวันนี้มีการแข่งขันกันมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศคู่แข่งในทวีปเอเชีย ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และประเทศในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ เป็นต้น เพื่อให้ ททท. มีศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่ง จึงจำเป็นต้องพัฒนาสื่อดิจิตอลให้ทัดเทียมกับเทคโนโลยีการสื่อสารทั่วโลก และนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสูงสุด เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยได้ขึ้นเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในทวีปเอเชียในภายภาคหน้า” นายสุรพลกล่าวทิ้งท้าย