กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,698 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,696 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.63 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท และกลับมาปิดที่ 24,600 บาท กับ 24,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,364 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,363 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 430 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.5% Silver Futures เพิ่มขึ้น 0.9% GFZ12 ปิด 24,720 บาท และ GFG12 ปิด 24,910 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,730 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,930 บาท SVZ12 ไม่มีราคาปิด
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,697 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 5.6 เซนต์ ที่ระดับ 32.299 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,351.42 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 84 เซนต์ ปิดที่ระดับ 86.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 35.71 จุด ปิดที่ 13,135.01 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
ที่มา : TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
- ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,700 เหรียญ นับว่าเป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงติดต่อกัน โดยมีการซื้อขายค่อนข้างเงียบเหงาก่อนช่วงเทศกาลคริสมาสต์ ซึ่งตลาดจะยังคงจับตาอยู่กับข่าวการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff เป็นหลัก ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังคงไม่มีความคืบหน้า ตามที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามายังคงไม่สามารถได้ข้อสรุปกับกลุ่มผู้นำพรรครีพับลิกันได้ ในขณะที่ข้อเสนอของนายโบห์นเนอร์ในการยอมรับการเพิ่มภาษีคนรวยยังคงถูกต่อรองและตกลงไม่ได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หาข้อสรุปในการแก้ปัญหาไม่ได้
- นายเจมส์ สตีล นักวิเคราะห์จาก HSBC กล่าวว่า นักลงทุนจำนวนมากยังคงรออยู่นอกตลาดจนกว่าจะถึงสิ้นปี ซึ่งในช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่น่าสนใจนักสำหรับนักลงทุนในทองคำ
- อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ล่าสุดราคาทองคำจะปรับตัวลดลง แต่เมื่อมองภาพรวมเป็นรายปี ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 16% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคายังมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยการปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้เนื่องมาจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ จากธนาคารกลางต่างๆ ในช่วงไตรมาสที่ 3
- นายแดเนียล สมิทธ์ นักวิเคราะห์จากแสตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์ กล่าวว่า ดูเหมือนราคาทองคำจะถูกฉุดลงในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 3 ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งจากการกักเก็บในช่วงปีใหม่ ราคาจะสามารถพุ่งสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ของเขา ราคาทองคำอาจจะยังไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้เร็วนัก โดยยกตัวอย่างจากกรณีที่ราคาทองคำมีการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยจากการประกาศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของเฟดที่มีการเข้าซื้อพันธบัตรมูลค่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนหลังมาตรการ Operation Twist หมดอายุลง
- ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 1.1% ในเดือนพ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.3% และเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ย.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 78.4% ในเดือนพ.ย. จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 77.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 78.0%
- นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐประกาศกฎเกณฑ์ใหม่อีกหลายกฎเกณฑ์เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการ กำกับดูแลการดำเนินงานในสหรัฐของธนาคารต่างประเทศเมื่อวานนี้ โดยมีจุดประสงค์ลดความเสี่ยงจากธนาคารดังกล่าว โดยธนาคารต่างประเทศขนาดใหญ่ในสหรัฐต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานการ บริหารความเสี่ยงที่เข้มงวดขึ้น และต้องดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) เช่นเดียวกับธนาคารสหรัฐ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการเพิ่มทุนในช่วงที่ตลาดตึงตัว
- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ เตือนกลุ่มประเทศละตินอเมริกาเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของภาวะหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) ในสหรัฐ โดยนางลาการ์ดระบุว่า ภาวะหน้าผาการคลังในสหรัฐจะมีผลกระทบอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจละตินอเมริกา
- สำหรับข่าวทางฝั่งยุโรป ข้อตกลงที่เป็นจุดสังเกตในเรื่องการดูแลควบคุมระบบธนาคารได้ทำให้ตลาดมีการผ่อนคลายลง จากเมื่อวันพฤหัสบดี อีซีบีได้รับการขนานนามให้เป็นผู้ดูแลควบคุมหนึ่งเดียวของภาคธนาคารในภูมิภาค นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงก้าวแรกที่จะนำไปสู่สหภาพธนาคาร ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 โครงการสำคัญในการรวมกันของยุโรป โดยอีก 3 โครงการที่เหลือได้แก่ สหภาพการคลัง สหภาพเศรษฐกิจ และสหภาพการเมือง โดยข่าวดังกล่าวสนับสนุนให้สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน
- นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ปฏิเสธถึงข้อเสนอแนะในวันศุกร์ ในเรื่องของความสูญเสียในยูโรโซน โดยกล่าวว่า สกุลเงินยูโรต้องได้รับการแก้ไขปัญหาที่เผชิญมาหลายปี โดยการปฏิรูปสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงอัตราคนว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้เธอได้กล่าวว่า “ถึงแม้พวกเราจะประสบความสำเร็จไปแล้วบางส่วน แต่พวกเราก็ยังคงอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่ไม่สามารถทำการแก้ปัญหาที่สำคัญได้ จึงทำให้พวกเรามีการหารือในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นวิธีเรื่องการทำ Haircut ระดับหนี้ พันธบัตรยูโร หรือมาตรการต่างๆที่อาจนำมาจัดการได้กับทุกๆปัญหา ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม”
- เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอผลความคืบหน้าในเรื่องการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff ที่อาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
- กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ และผู้จัดการฝ่ายการเงินต่างๆ ได้เพิ่มสถานะการลงทุนในทิศทางขาขึ้นในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สและสัญญาออพชั่นของสหรัฐสู่ระดับ 129,865 คู่สัญญาในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 เดือนที่ระดับ 126,073 คู่สัญญาที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมีการลดสถานะ Long ใน Silver สู่ระดับ 34,862 คู่สัญญา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน
- ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้แสดงความยินดีต่อนายชินโสะ อาเบะ หลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ภายใต้การนำของนายอาเบะ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ โดยโอบามากล่าวว่า สหรัฐจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น ทั้งนี้นายอาเบะ ในฐานะหัวหน้าพรรคแอลดีพีจะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมสภาไดเอทหรือรัฐสภาญี่ปุ่น นัดพิเศษ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ธ.ค.เป็นอย่างเร็วที่สุด เพื่อเลือกผู้นำคนใหม่ของประเทศ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Core CPI m/m ออกมาที่ระดับ 0.1% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2%
- CPI m/m ออกมาที่ระดับ -0.3% จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1%
- Flash Manufacturing PMI ออกมาที่ระดับ 54.2 จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 52.8
- EU Economic Summit
ตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้
- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -5.2 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ -0.7
- TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.3B คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 24.3B
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังเป็นช่วงของการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบแคบๆ บริเวณ 1,690 — 1,700 เหรียญ ซึ่งยังคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปในวันนี้ โดยทองคำจะมีแนวรับแรกที่สำคัญที่ระดับ 1,690 เหรียญ แนวต้านที่ระดับ 1,700 เหรียญ ยังแนะนำให้เป็นการลงทุนในกรอบแคบๆ โดยทำกำไรในลักษณะ Sideways ในกรอบแคบ ตลาดโดยทั่วไปยังรอความชัดเจนในการแก้ปัญหา Fiscal Cliff ซึ่ง MTS Gold ยังคิดว่าโดยภาพรวมน่าจะสามารถตกลงหรือพูดคุยกันได้ก่อนปีใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะ Fiscal Cliff ตามที่ทุกคนยังกังวลอยู่ อย่างไรก็ดียังคาดว่าเมื่อ Fiscal Cliff จบจะเป็นผลดีต่อราคาทองคำโดยภาพรวมในทิศทางขาขึ้น หมายความว่า ถ้าตกลงกันได้ในลักษณะที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,800 บาท
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,000 บาท
Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,690 — 1,700 เหรียญ ซึ่งก็ยังมีเรื่องของค่าเงินบาทที่ดูจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวที่จะส่งผลกดดันในรูปของเงินบาท
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ยังเป็นการถือครองเพื่อรอขายทำกำไร ยังไม่ได้ซื้อเพิ่มคงพอร์ทประมาณ 50%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังเป็นการถือครองเพื่อรอขายทำกำไร ยังไม่ได้ซื้อเพิ่มคงพอร์ทประมาณ 50% เช่นเดียวกัน รอความชัดเจนอยู่นอกตลาดก่อน