ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต “แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส” ที่ “AA” พร้อมแนวโน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Tuesday October 19, 2004 10:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA” ซึ่งสะท้อนฐานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศที่มีฐานลูกค้ากว้างขวาง ตลอดจนการมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด รวมถึงความสามารถของผู้บริหารและตราสัญลักษณ์ที่เป็นที่ยอมรับ และความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่าย ในขณะเดียวกันบริษัทก็มีข้อจำกัดบางส่วนจากการแข่งขันที่รุนแรงโดยเฉพาะจากคู่แข่งรายใหม่ รวมถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความสามารถของบริษัทในการรักษาผลประกอบการให้ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้จากการเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และประสบการณ์ของผู้บริหาร โดยระดับของกระแสเงินสดที่สูงทำให้บริษัทมีความคล่องตัวกว่าคู่แข่งเมื่อต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและข้อบังคับทางกฎหมาย
ทริสเรทติ้งรายงานว่า อุปสงค์ของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยในอนาคตแม้จะไม่ขยายตัวในอัตราที่สูงมากเหมือนในปี 2544 และ 2545 แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ราคาเครื่องโทรศัพท์และค่าบริการที่ลดลงเป็นปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเติบโตจนทำให้ฐานผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2547 อัตราการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อจำนวนประชากรปรับตัวขึ้นเป็นประมาณ 40% โดยบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เป็นผู้นำการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 57% และยังคงได้รับประโยชน์จากชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับ เครือข่ายที่มีคุณภาพสูง และการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ณ สิ้นปี 2546 บริษัทมียอดผู้ใช้บริการ 13 ล้านเลขหมาย ซึ่งเพิ่มขึ้น 26% จากปี 2545 ในขณะที่ยอดผู้ใช้บริการโดยรวมของธุรกิจเพิ่มขึ้น 25% ในช่วงเดียวกัน ณ เดือนกรกฎาคม 2547 บริษัทมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านคน คิดเป็นการเติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ด้วยฐานะทางการตลาดและการเงินที่แข็งแกร่ง การมีสภาพคล่องสูงในการหาแหล่งเงินทุน และความมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ จึงคาดว่าบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จะสามารถรักษาสถานะผู้นำในธุรกิจต่อไปได้ ผู้บริหารของบริษัทได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหาทั้งในเรื่องของการแข่งขันและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทยังประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว จากที่คาดว่าการขยายตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยใกล้ถึงจุดอิ่มตัวในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ผู้บริหารจึงเน้นการบริหารความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าที่เป็นลูกค้าชั้นดีเอาไว้ ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาทในโครงการ C-Care เพื่อดูแลและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้บริการทั้งในด้านการให้บริการและผลิตภัณฑ์ บริษัทยังได้ลงทุนอีกจำนวน 29,546 ล้านบาทในปี 2544 และ 38,528 ล้านบาทในปี 2545 และ 17,504 ล้านบาทในปี 2546 เพื่อเพิ่มจำนวนเลขหมายและพื้นที่ให้บริการ
บริษัทมีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา กระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นจากผลของการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 27,994 ล้านบาทในปี 2545 เป็น 38,349 ล้านบาทในปี 2546 แม้ว่าภาระหนี้จะเพิ่มขึ้นจากจำนวน 13,437 ล้านบาทในปี 2543 มาอยู่ที่ 46,641 ล้านบาทในปี 2544 และ 51,764 ล้านบาทในปี 2545 แต่ภาระหนี้ของบริษัทได้ลดลงเหลือ 42,645 ล้านบาทในปี 2546 และเหลือ 38,053 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 38% ตั้งแต่ปี 2541 ถึงครึ่งแรกของปี 2545 และเพิ่มเป็น 42% สำหรับปี 2545 เป็น 49% สำหรับปี 2546 และมาอยู่ที่ 53% สำหรับครึ่งแรกของปี 2547 ตามลำดับ อันเป็นผลมาจากจำนวนผู้ใช้บริการที่มากขึ้นซึ่งทำให้บริษัทได้ประโยชน์จากการประหยัดจากขนาด รวมถึงลดการพึ่งพาธุรกิจจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือที่มีอัตรากำไรในระดับต่ำ ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ