กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ไนท์แฟรงค์
ฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดไพรเวทเอ็กซิบิชั่นสำหรับโครงการคอนโด 15 สุขุมวิท เรสซิเดนเซส ที่สิงค์โปร์ไปเมื่อวันที่ 24 — 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งงานดังกล่าวได้จัดขึ้นที่โรงแรมฮิลตันและดึงดูดความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนสินทรัพย์ชาวสิงค์โปร์อย่างมากหน้าหลายตา โดยช่วยให้เจ้าของโครงการซึ่งคือ บริษัท วีเอสเอสแอลเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด. ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ได้มีโอกาสในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์และโชว์โครงการหรู 15 สุขุมวิท เรสซิเดนเซส ในใจกลางกรุงเทพด้วย ด้วยทัศนียภาพที่ชวนหลงใหล โครงนี้เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 25 ชั้นที่สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่งจุดขายที่โดดเด่นคือแนวคิดที่นำสมัยอย่างลงตัว และการเดินทางที่สะดวกสบาย ข้าถึงแหล่งช้อปปิ้งที่ดีที่สุดในเมือง เพราะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีรถไฟใต้ดิน MRT และทางด่วน แนวคิดนี้เติมเต็มทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และให้ความสะดวกสบายสูงสุดแก่การดำรงชีวิตของคนเมืองกรุง
มิสเตอร์แฟรงค์ ข่าน ผู้อำนวยการ- หัวหน้าฝ่ายที่ฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นตัวแทนการขายและการตลาดของ 15 สุขุมวิท เรสซิเดนเซส แต่เพียงผู้เดียว เปิดเผยว่าโครงการได้กวาดรายได้จากงานนิทรรศการที่จัดขึ้นเพียงสองวันไปกว่า 200 ล้านบาท โดยเสียงตอบรับส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่พื้นที่ที่อยู่อาศัยในระดับไฮเอนด์ และมาจากกลุ่มนักลงทุนชาวสิงค์โปร์ที่อยากจะลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย เนื่องด้วยอัตราผลตอบแทนการเช่าและผลตอบแทนการลงทุนที่น่าสนใจ ในขณะเดียวกันนี้ ชาวสิงค์โปร์ก็ไม่หวาดหวั่นต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย จึงสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
มิสเตอร์ข่าน กล่าวเพิ่มเติมว่านิทรรศการครั้งนี้เป็นงานแฟร์ที่สำคัญสำหรับไนท์แฟรงค์ที่จะมีขึ้นในทุกๆปีต่อไป อันเนื่องมาจากจำนวนของผู้เข้าชมที่ล้นหลาม บริษัทจึงมีโครงการที่จะนำผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยรายอื่นๆ ออกสู่ต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงค์โปร์และฮ่องกง “และนี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของไนท์แฟรงค์ประเทศไทยที่มีเครือข่ายไนท์แฟรงค์อยู่ทั่วโลก ซึ่งคือจุดแข็งที่เป็นหัวใจสำคัญของบริษัท เราเชื่อว่างานที่ได้จัดขึ้นเป็นแนวทางที่ดีในการโต้ตอบกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ซึ่งหลายคนในกลุ่มนี้อาจจะกลายเป็นกลุ่มผู้ซื้อในอนาคตก็เป็นได้” มิสเตอร์ข่าน กล่าวเพิ่ม