สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 19, 2012 10:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,700 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,692 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.58 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท และกลับมาปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,255 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,613 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 16 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.4% แบบ 10 บาท ลดลง 1.6% Silver Futures เพิ่มขึ้น 1.2% GFZ12 ปิด 24,640 บาท และ GFG12 ปิด 24,830 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,630 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,840 บาท SVZ12 ปิด 988 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 27.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,670.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 61.1 เซนต์ ที่ระดับ 31.669 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,350.52 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ระดับ 87.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 115.57 จุด ปิดที่ 13,350.96 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.7 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเมื่อคืนนี้ โดยได้รับผลกระทบจากแรงเทขายทางเทคนิค และหลังจากที่ทำเนียบขาวปฏิเสธนายจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกสภาถึงแผนบีของข้อตกลงทางด้านงบประมาณ นอกจากนี้ การที่จีนมีการยกเลิก Soybean Order ก็มีนักวิเคราะห์มองว่ามีความต้องการที่ลดลงในสินค้าโภคภัณฑ์ของจีน โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 27.5 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,670.7 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวลดลงในรอบวันมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน โดยนักวิเคราะห์ต่างๆ ได้กล่าวว่า ราคาทองคำกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนจากแนวรับทางเทคนิคที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและการปรับตัวสูงขึ้นในรอบหลายปีบริเวณ Trendline ใกล้ระดับ 1,660 เหรียญ ราคาทองคำในช่วงระหว่างวันสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ไม่นานก็ปรับตัวหลุดลงไป เกิดแรงเทขายทางเทคนิคส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปแตะระดับ 1,661.01 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งและเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม หลังจากเกิดการทำ Stops เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,684 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ราคาปรับตัวลดลงต่อไม่มากและมีการรีบาวน์ขึ้นมาสู่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หากราคาลงมาใกล้ระดับดังกล่าวอีกอาจก่อให้เกิดแรงเทขายต่อเนื่อง โดยแนวรับสำคัญถัดไปจะอยู่ที่บริเวณ 1,665 — 1,670 เหรียญ รายงานจาก Kitco ระบุว่า การปรับตัวลดลงของราคาทองคำเมื่อวันอังคารต่ำกว่าระดับแนวรับที่สำคัญในระยะสั้นที่ระดับต่ำสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนบริเวณ 1,674.7 เหรียญ และต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในกราฟรายวันบริเวณ 1,668.8 เหรียญ แนวโน้มทิศทางขาลงของทองคำดูจะเกิดขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามหากราคาขึ้นไปเหนือระดับแนวต้านที่สำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,700 เหรียญได้จึงจะมองเป็นขาขึ้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,650 เหรียญลงมาถือว่าเป็นการเข้าสู่แนวโน้มขาลง โดย Kitco มองว่า แนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,674.4 เหรียญและ 1,684 เหรียญตามลำดับ ส่วนแนวรับแรกจะอยู่บริเวณจุดต่ำสุดเมื่อวันอังคารที่ 1,662 เหรียญ และ 1,650 เหรียญตามลำดับ เมื่อดูจากกราฟ การปรับตัวลดลงในวันอังคารส่งผลให้ RSI ลงมาสู่ระดับ 33 ซึ่งระดับต่ำกว่า 30 นั้นถือว่าอยู่ในภาวะ Oversold โดยที่ในช่วง 11 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงไป 9 สัปดาห์ นอกจากนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงในรายไตรมาส 6% เทียบเท่ากับไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2008 ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกจากการที่มีการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส เมื่อวานนี้ทั้งประธานาธิบดีบารัค โอบามา และจอห์น โบห์นเนอร์ โฆษกรัฐสภา ได้รับแรงกดดันในการพยายามหาทางหลีกเลี่ยงปัญหา Fiscal cliff หลังจากที่ทำเนียบขาวปฏิเสธในทันทีต่อข้อเสนอของนายโบห์นเนอร์ที่กำลังเปลี่ยนไปใช้แผน B ซึ่งนั่นอาจหมายถึง การเพิ่มภาษีสำหรับครอบครัวที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี แต่อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเพียงน้อยนิดที่แผนบีจะผ่านวุฒิสภา หรือได้รับการยอมรับจากประธานาธิบดี แรนด์ พอล สมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกัน จากรัฐแคนตักกี้ กล่าวว่า การตัดลดค่าใช้จ่ายทางกองทัพ รวมไปถึงประกันสังคมและสวัสดิการด้านสุขภาพ เป็นโอกาสที่จะช่วยแก้ปัญหา Fiscal Cliff ของสหรัฐได้ นายเอริค แคนเตอร์ หัวหน้าพรรคเสียงข้างมากในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้กล่าวว่า เขาคาดหวังให้มีการลงมติต่อข้อเสนอของพรรครีพับลิกันเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff และหวังใจให้มีเสียงลงคะแนนมากเพียงพอเพื่อผ่านการร่างกฎหมาย เมื่ออ้างอิงถึงบทความจากรอยเตอร์ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คนวงในวอชิงตันได้พูดคุยกันถึงการเข้าสู่ภาวะ Fiscal Cliff และการที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยอยู่ที่ระดับ 50/50 ซึ่งเมื่อมองจุดนี้ดูเหมือนว่า เราไม่ได้ขยับเข้าใกล้ข้อตกลงเลย แต่กลับเข้าใกล้การเข้าสู่หน้าผามากกว่า การเข้าสู่หน้าผาทางการคลัง และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นการเพิ่มแรงกดดัน ที่ก่อให้เกิดความต้องการที่รุนแรงมากขึ้นในการทำกำไรในทองคำก่อนที่จะถึง ช่วงสิ้นปี แม้ว่าจะมีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร แต่ราคาทองคำยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน ธนาคารแซ็กโซ (SAXO Bank) คาดการณ์ว่าในปี 2013 ราคาน้ำมันดิบอาจอยู่ที่ระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้า เอสแอนด์พี ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซสู่ระดับ B- จากแนวโน้มที่ว่ากรีซจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามของประเทศสมาชิกในยุโรปที่ต้องการรักษากรีซให้เป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนต่อไป นักลงทุนจับตาดูการประชุม 2 วันของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ หลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งนายชินโสะ อาเบะ หัวหน้าพรรคแอลดีพีได้แสดงเจตนารมณ์ว่าจะเรียกร้องให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม เมื่อคืนไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ - ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.87M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.88M - Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.89M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.87 M - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.8M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ -0.9M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำในระยะสั้นยังโดนกดดันด้วยปัจจัยเทคนิค ทำให้ราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,710 เหรียญได้ โดยภาพรวมมองว่าราคาทองคำไม่สามารถเคลื่อนไหวยืนเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ นักลงทุนโดยภาพรวมนั้นยังกังวลกับภาวะ Fiscal Cliff มากเลยเกิดแรงเทขายในตลาดทองคำเข้ามา ทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,690 เหรียญ ลงไปทดสอบบริเวณแนวรับที่ระดับประมาณ 1,660 เหรียญ ไม่สามารถอธิบายด้วยปัจจัยด้านพื้นฐานได้ เนื่องจากการที่ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนไหวไปตามทฤษฎีเดิม จากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ในขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ค่าเงินยูโรที่ขึ้นมากว่า 200 pips แต่ราคาทองคำไม่ได้เคลื่อนตัวตาม ในทางกลับกันมีแรงเทขายเข้ามา ทำให้ราคาหลุดแนวรับแรกที่ระดับ 1,690 เหรียญลงมา ถือว่าเป็นสัญญาณไม่ดี เพราะถ้าหลุด 1,690 เหรียญ โดยทั่วไปทางเทคนิคถือว่าเป็นขาลงโดยสมบูรณ์ ฉะนั้นแนะนำให้นักลงทุนลดสถานะ Long Position ลงครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย หรือพิจารณาทำกำไรในทิศทางขาลง อย่างไรดีก็ยังเชื่อว่าจะมีการแกว่งตัวอย่างมาก โดยต้องรอข่าว Fiscal Cliff เป็นหลัก ถ้าข่าวไม่ออกภายใน 1 — 2 วัน ราคาอาจจะไม่เคลื่อนตัวไปไหน หรืออาจจะลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมเมื่อวานที่ระดับประมาณ 1,660 เหรียญ โดยแนวรับรายวันจะอยู่ที่ระดับ 1,660 เหรียญ และบริเวณ 1,680 เหรียญจะเป็นแนวต้านด้านบน แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังถ้าหลุดระดับ 1,660 เหรียญ จะต้องทำจุด stop loss โดยเฉพาะเมื่อราคามีความผันผวนและหลุดแนวรับสำคัญเช่นนี้ Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,650 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,750 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 965 บาท และแนวต้านที่ระดับ 980 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,660 — 1,680 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ปรับสมดุลของพอร์ท โดยอาจจะลด Long Position ลงครึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย และวางจุด stop loss ถ้าราคาทองคำหลุดบริเวณ 1,660 เหรียญลงไป นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง กรณีที่นักลงทุนมีซื้อทองไว้อยู่แล้ว เตรียมจุด Stop Loss กรณีราคาลงต่ำกว่า 1,660 เหรียญ แต่ถ้าไม่มี Position แนะนำให้ช้อนซื้อที่ระดับ 1,660 เหรียญ บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ