กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
เอไอ ไทยแลนด์ ปลื้มปิดฉากปี 2555 เติบโตกว่า 15 %โดราเอมอนยังเป็นหัวหอกหลักมั่นใจปี 2556 เติบโตแบบก้าวกระโดดหลังล่าสุดคว้าลิขสิทธิ์ไลน์พร้อมรุกตลาดเมืองไทยในปีหน้าทันที
เอไอไทยแลนด์ผู้นำด้านธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้าของไทย ประสบความสำเร็จอย่างมากในปี2555 หลังระดมโปรโมทลิขสิทธิ์ในเครืออย่างต่อเนื่องโดย “โดราเอมอน” ยังครองแชมป์ลิขสิทธิ์การ์ตูนยอดนิยมอันดับหนึ่งในไทยวางเกมสานต่อความสำเร็จด้วยการเนรมิตรกลยุทธ์การตลาดในปีหน้าด้วยการดึงคอน เซปต์ “รวมที่สุดของวิเศษโดราเอมอน” มาจุดกระแสในไทยทั่วประเทศตลอดปี 2556 พร้อมเผยความเคลื่อนไหวล่าสุดที่ “สามารถคว้าลิขสิทธิ์ไลน์” มาบริหารจัดการในไทยได้สำเร็จ มั่นใจสามารถขยายสู่กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ได้อย่างเต็มศักยภาพ
นายปริพันธ์ หนุนภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ เอไอ ไทยแลนด์ เติบโตอย่างมากในปีที่กำลังจะผ่านไปนี้ สืบเนื่องจากการไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างหนักต่อเนื่องตลอดทั้งปี ส่งผลให้กระแสความนิยมมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางดังกล่าวจะถูกนำมาพัฒนาใช้ในปี 2556 ต่อไป ทั้งนี้ลิขสิทธิ์ที่สร้าง ยอดขายสูงสุดให้แก่บริษัทฯ คือ โดราเอมอน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ร่วมค้า (ไลเซนซี) ที่มั่นใจเลือกใช้ลิขสิทธิ์มากกว่า 50 ราย กระจายครอบคลุมในทุกกลุ่มสินค้าของธุรกิจ
“ปัจจุบันตลาดลิขสิทธิ์สินค้า สำหรับแบรนด์สินค้าอย่าง “โดราเอมอน” มีพัฒนาการเติบโตขึ้นกว่าในอดีตเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะตลอดสาม-สี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการเข้ามาร่วมลงทุนของผู้ประกอบการ / ผู้ร่วมค้าที่มีชื่อเสียง, การเติบโตทั้งในแง่ของพัฒนาการของสินค้า, การตอบรับของผู้บริโภค และกระแสในภาพธุรกิจโดยรวมที่ผู้บริโภคมีความต้องการคาแรคเตอร์อย่างแบรนด์ “โดราเอมอน” ไม่ใช่จำกัดเฉพาะแค่ของเล่นหรือสินค้าสำหรับเด็กแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป สิ่งที่เอไอ ไทยแลนด์พยายามผลักดันมาตลอดระยะเวลา 4 ปี ด้วยการเดินตามแผนทางการตลาดเป็นขั้นเป็นตอนมาอย่างตลอดต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจทั้งภายในองค์กรและพันธมิตรทุกภาคส่วน ในมุมมองของธุรกิจลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องและต้องพึ่งพากันและกัน มีการพัฒนาสินค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์ตรงกับความต้องการสินค้าของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายในแต่ละตลาดในปัจจุบันที่มีการแยกแยะลักษณะของตลาดอย่างชัดเจนมากขึ้น เป็นต้น
และในปี 2556 นี้จะเป็นปีที่บริษัทฯจะมีการขยายตลาดขึ้นสู่ตลาดโมเดอร์นเทรดอย่างเป็นทางการพร้อมๆกับการขยายตัวสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ เช่น ตลาดวัยรุ่น/เฟิร์ทจ๊อบเบอร์ จนถึงกลุ่มครอบครัว ทางบริษัทฯให้ความสำคัญในการพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่สามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวันมากขึ้นกว่าเป็นแค่สินค้าฉาบฉวยหรือเป็นแค่สินค้าการ์ตูนทั่วๆ ไป” นายปริพันธ์ กรรมการผู้จัดการกล่าวย้ำ
“สำหรับด้านการตลาดตลอดปีที่ผ่านมา บริษัทฯมุ่งเน้นการทำกิจกรรมทางการตลาดกับศูนย์การค้าซึ่งเป็นแหล่งที่ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยโดยตรงเป็นหลัก ด้วยกลยุทธ์การสร้างความเข้าใจในเรื่องราวของโดราเอมอนในเชิงลึกมากขึ้น ใช้วิธีค่อยๆ เพิ่มเติมความรู้เรื่องราว ข้อมูลของโดราเอมอนให้กับกลุ่มเป้าหมายเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆปี ดังจะเห็นจากกิจกรรม “100 Years before the birth of Doraemon” ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวต้นกำเนิดอันแท้จริงของโดราเอมอน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการซึมซับและมุ่งหวังที่จะให้ส่งผลที่ดีต่อธุรกิจ และต่อการค้าขายโดยภาพรวม
สำหรับปีนี้ก็จะยังคงใช้การสานต่อแนวคิดที่ประสบความสำเร็จมาโดยตลอดด้วยกลยุทธ์ของการทำกิจกรรมโดยตรงกับศูนย์การค้าชั้นนำเป็นหัวหอกในการทำตลาด ปีนี้ทีมงานการตลาดได้หยิบเอาความสนุกสนานความมหัศจรรย์ของวิเศษในกระเป๋าวิเศษ 4 มิติ เรียกว่า “รวมที่สุด ของวิเศษโดราเอมอน” หรือ “Miracles in 4D Pocket” มาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเป็นหลัก จะมีการนำของวิเศษ(Gadget) จากประเทศญี่ปุ่นมาโชว์ภายในงาน พร้อมๆกับให้แฟนๆได้มีประสบการณ์ในการใช้ของวิเศษในกระเป๋ากันอย่างสนุกสนาน โดยจะมีการจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
ปีนี้ทางบริษัทฯยังทุ่มงบประมาณในการทำการตลาดและสื่อประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายเดิมและกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายใหม่ โดยจะทำทั้ง below the line และ above the line กว่า 20 ล้านบาท” นายปริพันธ์ กรรมการผู้จัดการกล่าว
นอกจากนี้ ด้วยผลงานความสำเร็จตลอดปีที่ผ่านมาของ เอไอ ไทยแลนด์ ทำให้ บริษัทเอ็นเอชเอ็น เจแปน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (NHN Japan Corp. Co., ltd.) เจ้าของลิขสิทธิ์แอ๊พพลิเคชั่นไลน์ (Line) ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 80 ล้านคนทั่วโลก ได้ให้เกียรติมอบหมายผ่านทางบริษัท โชโปร มาให้กับทางเอไอ ไทยแลนด์ เป็นผู้แทนผู้ดูแลลิขสิทธิ์ไลน์ในส่วน Licensed Merchandise ในเมืองไทยแต่เพียงผู้เดียว
“เบื้องต้นสำหรับลิขสิทธิ์ LINE นี้ ด้วยความนิยมชมชอบที่เป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้วจำนวนกว่า 10 ล้านคนในประเทศไทยที่มีต่อ LINE ทำให้เรามั่นใจว่าภายในระยะเวลาอันสั้นจะสามารถผลักดันให้คาแรคเตอร์ของ LINE กลายเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยมในตลาดได้ไม่ยาก ทางบริษัทฯมีแผนการตลาดที่จะมุ้งเน้นในการทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นพรีทีน วัยรุ่นเป็นหลัก โดยจะเปิดโอกาสให้ไลเซนซีที่มีศักยภาพ/ความชำนาญและมีมุมมองทางการตลาดเดียวกันกับบริษัทฯ ได้เข้ามาร่วมลงทุนและพัฒนาสินค้าร่วมกัน เพราะทาง เอไอ ไทยแลนด์ไม่ได้มองไลน์เป็นแค่เพียงกระแสความนิยมชมชอบที่ฉาบฉวยเท่านั้น ทางบริษัทฯจะมุ่งเน้นทำการตลาดแบบระยะยาว โดยจะพัฒนาคาแรคเตอร์นั้นๆ ให้เป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์เป็นหลัก ดังความสำเร็จที่เคยทำกับโดราเอมอนมาแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจลิขสิทธิ์สินค้า ซึ่งเป็นแนวทางและเป็นสิ่งที่บริษัทฯได้ยึดถือเป็นหลักสำคัญในการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด
ในปี 2556 ที่กำลังจะมาถึงนี้บริษัทฯมีความมั่นใจว่าด้วยแนวทางและทิศทางนโยบายทางการตลาดนี้จะทำให้ตลาดโดยรวมของบริษัทฯเติบโตขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 20% แน่นอน” นายปริพันธ์กล่าวโดยสรุป
เกี่ยวกับบริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (เอไอ ไทยแลนด์):
ประวัติความเป็นมาของบริษัท (Company Background)
บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล ( ประเทศไทย ) จำกัด หรือ เอ ไอ ไทยแลนด์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2539 จากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จํากัด และ บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ฮ่องกง) โดยดำเนินธุรกิจด้านลิขสิทธิ์การ์ตูนญี่ปุ่นประเภทต่างๆ อาทิ สินค้า, โปรโมชั่น และการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อการส่งเสริมการขาย โดยเป็นผู้ดูแลลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยของตัวการ์ตูนแต่ละค่ายที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ลิขสิทธิ์ที่อยู่ในการดูแล ได้แก่ โดราเอมอน (Doraemon) , โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ (Doraemon the movie), ชินจังจอมแก่น (Crayon Shin Chan), โอชาเคน, โอชาเนโกะ (Ocha-Ken, Ocha-Neeko),แพนด้า ซี (Panda Z) และ ไลน์ (Line)
ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ (Corporate Philosophy)
วิสัยทัศน์ (Vision) - “เราจะเป็นผู้นำในธุรกิจด้านการดูแลลิขสิทธิการ์ตูนในประเทศไทย”
พันธกิจ (Mission) - มุ่งมั่นสร้างสรรค์งาน ให้คำปรึกษาและดำเนินงานบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า มุ่งมั่นในการสร้างภาพลักษณ์ เพิ่มคุณค่าในตัวลิขสิทธิ์การ์ตูน และ ดำเนินธุรกิจอย่างมีมาตรฐานและโปร่งใส รวมทั้งสร้าง และพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง สนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และ ต่อต้านสินค้าละเมิดลิขสิทธิเพื่อผลประโยช์ของลูกค้า
บริษัทในเครือ
บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล ( ประเทศไทย ) จำกัด ยังได้ร่วมทุนกับบริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จํากัด เปิดบริษัท เฮ้าส์อ๊อฟการ์ตูน จำกัด ขึ้นมาเมื่อปี 2552 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์การ์ตูนไทย เป็นหลัก โดยคาแรคเตอร์ที่ดูแลอยู่คือ บลัดดี้ บันนี่ (Bloody Bunny) บิสกิต (Biscuit) และอันสลีปชีพ (Unsleep sheep)
ที่อยู่ติดต่อ บริษัท แอนนิเมชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด 154 ถนน ลาดพร้าว (ซอย 107) คลองจั่น, บางกะปิ, กรุงเทพฯ 10240, ประเทศไทย โทรศัพท์ 0-2731-1890-4 โทรสาร 0-2731-3063