กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--เฮอร์เบิร์ธ สมิธ ฟรีฮิลส์
สำนักงานที่ปรึกษากฎหมายเฮอร์เบิร์ธ สมิธ ฟรีฮิลส์ ประกาศวันนี้ว่าคุณชินวัฒน์ ทองภักดี จะร่วมทำงานในทีมงานระงับข้อพิพาทในภูมิภาคเอเชียในตำแหน่งทนายความหุ้นส่วนอาวุโส
คุณชินวัฒน์มีประสบการณ์มากกว่า 28 ปีในด้านการระงับข้อพิพาท รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดี, การบังคับตามกฎระเบียบข้อบังคับ, และอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ คุณชินวัฒน์ประจำอยู่ที่สำนักงานกรุงเทพฯ โดยจะให้คำปรึกษาแก่บริษัท/ หน่วยงานในประเทศไทย, ในภูมิภาค และระหว่างประเทศเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทของไทยและการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยหรือที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของไทย โดยคุณชินวัฒน์จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับคุณสุรพล สร้างสมวงษ์ ในประเทศไทย, Maurice Burke และ Alastair Henderson ในสิงคโปร์ และ Charles Ball ในอินโดนีเซีย
หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างเฮอร์เบิร์ธ สมิธ และฟรีฮิลส์ ในเดือนตุลาคม 2555 ทำให้เฮอร์เบิร์ธ สมิธ ฟรีฮิลส์ เป็นสำนักงานกฎหมายที่ให้บริการแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและยังติดอันดับหนึ่งในสิบของสำนักงานกฎหมายระดับโลก
ก่อนที่จะมาร่วมงานกับเฮอร์เบิร์ธ สมิธ ฟรีฮิลส์ คุณชินวัฒน์ได้ทำงานในตำแหน่งทนายความหุ้นส่วนให้แก่สำนักงานกฎหมายชั้นนำและยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการอธิบดีสำนักที่ปรึกษากฎหมายและพนักงานอัยการของสำนักงานอัยการสูงสุด
Gavin Lewis หัวหน้าคณะทำงานด้านการระงับข้อพิพาทในภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า"ผมรู้สึกยินดีมากที่ได้คุณชินวัฒน์มาร่วมงาน และจากการที่คุณชินวัฒน์เข้ามาร่วมทีมทำให้ทีมของเราสามารถให้บริการด้านกฎหมายแก่ลูกความด้วยประสบการณ์ที่หาที่เปรียบไม่ได้ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ประสบการณ์ระหว่างประเทศและมุมมองของคุณชินวัฒน์เป็นตัวช่วยสนับสนุนความเป็นผู้นำในด้านการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศทั้งในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี"
Maurice Burke หัวหน้าคณะทำงานด้านการระงับข้อพิพาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเสริมว่า"พวกเรากำลังมองเห็นความเจริญก้าวหน้าของการงานคดีในศาล, การอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และงานด้านการระงับข้อพิพาทอื่นๆทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุณชินวัฒน์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับข้อพิพาทอาวุโสซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และจะเป็นบุคคลซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุถึงเป้าหมายนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไทย, กัมพูชา, พม่า และเวียดนาม"