กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด มหาชน พลิกโฉมวงการอีเว้นท์พม่า เพื่อเข้าสู่ยุคเออีซีแบบเต็มตัว ด้วยการเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ และผลักดันงานอีเว้นท์ยักษ์ใหญ่ให้เกิดขึ้นในประเทศพม่า กับงานเมียนมาร์ เคานท์ดาวน์ 2013 หรือ “Myanmar Countdown 2013” ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ต้อนรับปีใหม่ 2556 และนับเป็นครั้งแรกของประเทศพม่า ที่มีการเฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่ พร้อมเปิดรับศักราชใหม่กับงานวันชาติพม่าหรืองาน Independent Day เพื่อถ่ายทอดแบรนด์พม่าสู่สายตานานาชาติ
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังจากที่พม่าเปิดประเทศได้ไม่นาน นับเป็นครั้งแรกของประเทศพม่าที่มีการจัดงานใหญ่ ที่ให้ประชาชนชาวพม่าได้เข้ามามีส่วนร่วม กับงานเคาท์ดาวน์ “Myanmar Countdown 2013” ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ซึ่งอินเด็กซ์ฯ เป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์รวมถึงผลักดันให้เกิดงานเคาท์ดาวน์นี้ขึ้น โดยได้รับการอนุญาตจากทางรัฐบาลของพม่าให้สามารถจัดงานนี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนชาวพม่า และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่สู่สายตานานาชาติอีกด้วย โดยทุ่มทุนไปกว่า 35 ล้านบาท ซึ่งงานเคาท์ดาวน์ในครั้งนี้อินเด็กซ์ฯ ได้จับมือผนึกกำลังกับบริษัทร่วมทุนอย่าง บริษัท ฟอร์เอฟเวอร์ กรุ๊ป สื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศพม่า ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ อินเด็กซ์ฯ “เอ็มไอซีวี MICV หรือ Myanmar Index Creative Village” สร้างสรรค์งานในครั้งนี้อีกด้วย และนับเป็นครั้งแรกที่ประชาชนชาวพม่าจะได้ร่วม เฉลิมฉลองเทศกาลต้อนรับปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่าไปพร้อมๆ กับ ประเทศอื่น เนื่องจากจะมีการถ่ายทอดสดภาพบรรยากาศการเคาท์ดาวน์ไปยังประเทศอื่นๆ อีกด้วย โดยความพิเศษ และความยิ่งใหญ่ในปีนี้ คือเหล่าศิลปิน ดารา และเซเลบริตี้ของประเทศพม่า ที่พร้อมใจกันมาร่วมงาน เพื่อมอบความสุข และความสนุกให้กับประชาชนชาวพม่า ผ่านการแสดง กิจกรรม และการเล่นเกมส์ต่างๆ ส่วนไฮไลท์อยู่ที่การจุดพลุนับพันลูกให้สว่างไสวทั่วฟ้าประเทศพม่า และพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง โดยคาดการณ์ผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ถือว่าเป็นปีที่เริ่มต้นปูพื้นฐานการสร้างงานเคาท์ดาวน์ในปีต่อๆ ไป พลิกโฉมวงการอีเว้นท์ของพม่าอย่างแท้จริง จากเดิมที่พม่าจะมีแต่การจัดอีเว้นท์ในลักษณะที่เป็นงานปิด แต่งานในครั้งนี้ จะเปิดกว้างให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ถือเป็นการบันทึกหน้าประวัติศาตร์ครั้งใหม่ ให้กับประเทศพม่าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงเป็นการปลุกธุรกิจอีเว้นท์ของพม่าให้ตื่น และคึกคัก พร้อมส่งสัญญาณให้ทั่วโลกรู้ว่าประเทศพม่าพร้อมแล้วที่จะเปิดโลก และรองรับธุรกิจทุกประเภท และทุกรูปแบบ”
นรินทร์เดช ทวีแสงพานิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคอาเซียน กล่าวเสริมว่า “งานเคาท์ดาวน์ในครั้งนี้อินเด็กซ์ฯ ไม่ได้ทำเพียงแค่ในส่วนของงานอีเว้นท์เท่านั้น แต่ยังรับผิดชอบในส่วนของการสื่อสาร หรือคอมมูนิเคชั่นด้วย ด้วยการประชาสัมพันธ์เรื่องราวข้อมูลที่เกี่ยวกับงานเคาท์ดาวน์ให้แก่ชาวพม่าผ่านสื่อต่างๆ อาทิ สื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ตลอดจนโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ของประเทศพม่า เช่น Facebook เป็นต้น ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานเคานท์ดาวน์ของประเทศต่างๆ อาทิ ข้อมูลของประเทศที่เริ่มเคาท์ดาวน์เป็นประเทศแรก และวิธีการเคาท์ดาวน์ของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ถือเป็นการเชื่อมโยงประเทศให้ได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของพม่า และพม่าก็ได้รับรู้ข่าวสารของเพื่อนๆ ประเทศอื่นเช่นเดียวกัน”
“นอกจากนี้ อินเด็กซ์ฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ที่รับผิดชอบจัดงานวันประกาศอิสรภาพของพม่า หรือ “Independent Day” เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปี ที่ประเทศพม่าได้รับอิสระภาพจากประเทศอังกฤษอีกด้วย ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อประชาชนชาวพม่า ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 4-6 มกราคม ในปี 2556นี้” นรินทร์เดช ทวีแสงพานิชย์ กล่าวเพิ่มเติม
งานเมียนมาร์ เคาท์ดาวน์ 2013 หรือ “Myanmar Countdown 2013” ณ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เป็นการตอกย้ำที่อินเด็กซ์ฯ บุกยกแผง นำทัพขนบริษัทในเครือ อย่าง บริษัท อีเว้นท์ โซลูชั่น จำกัด บริษัท เอ็นไวโรเซล ประเทศไทย จำกัด บริษัท เอ็กซ์คอน จำกัด (มหาชน) เข้าประเทศพม่า และเวียดนาม แสดงถึงการที่อินเด็กซ์ฯ พร้อมที่จะรองรับให้บริการด้านอีเว้นท์ในพม่าอย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดจนครอบคลุมงานด้านอีเว้นท์ในทุกมิติอย่างมีมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นปีด้วยงานใหญ่ นั่นคือ งานเคาท์ดาวน์ 2 ประเทศพร้อมกัน คือ พม่า และไทย ซึ่งก็จะต้องมีการแบ่งทีมงานเพื่อประจำอยู่ที่งานทั้ง 2 ประเทศ โดยในประเทศไทยใช้ชื่อว่า “AIS แบงคอก เคาท์ดาวน์ 2013 เซ็นทรัลเวิลด์” ภายใต้คอนเซปต์ “กอดรักให้อุ่นใจ Big Hug Big Fun” ซึ่งมีความยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกปี ที่อินเด็กซ์ฯ ได้สร้างสรรค์บรรยากาศความสนุก และสีสันแห่งความสุขข้ามปีให้กับชาวไทย รวมถึงดันให้กรุงเทพ จนเป็นเมืองที่ติดอันดับ 8 เมือง ที่คนอยากมาร่วมเคาท์ดาวน์มากที่สุดในโลก” เกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวเสริม