สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 20, 2012 10:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,675 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,671 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.60 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,250 บาท กับ 24,350 บาท และกลับมาปิดที่ 24,250 บาท กับ 24,350 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 6,860 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 13,765 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 27 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2% Silver Futures ลดลง 4% GFZ12 ปิด 24,330 บาท และ GFG12 ปิด 24,520 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,350 บาท GF10G12 ปิดที่ 24,520 บาท SVZ12 ปิด 952 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,667.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 55 เซนต์ ที่ระดับ 31.116 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,350.52 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 89.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 98.99 จุด ปิดที่ 13,251.97 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52.7 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ Kitco, TheBullionDesk, Reuters, และ CNBC ราคาทองคำปรับตัวลงอีกครั้งเมื่อคืนนี้ หลังจากตลาด COMEX เปิด ซึ่งเป็นอีกวันที่ราคาปรับตัวลดลงอย่างหนักจากแรงเทขายทางเทคนิคในตลาด COMEX CPM Group ที่ปรึกษาฐานกรุงนิวยอร์ก คาดการณ์ว่า ราคากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2013 จะเป็นแนวโน้มขาลง (downward shift) และราคาเฉลี่ยของทองคำอาจปรับตัวลดลง 1% จากปีนี้ก็เป็นได้ ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์รายตัวมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ที่มีการเปลี่ยนศตวรรษ อย่างไรก็ตามในปี 2011 ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวทำจุดสูงสุดในระยะสั้นเป็นอย่างน้อย และกลับเป็นแนวโน้มขาลง ซึ่งการปรับตัวลดลงดังกล่าวจะยังมีอยู่ต่อไปในสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัว รวมถึงทองคำ ซิลเวอร์ น้ำมัน และแร่โลหะอื่นๆ ในปีหน้าที่จะมาถึง เนื่องจากราคาดูจะมีความผันผวนและถูกกดดันให้ปรับตัวลดลงในช่วงปี 2012 นักลงทุนต่างมีความเหนื่อยใจและไม่มั่นใจกับสถานะ Long Position ที่ยังคงมีอยู่มาก โดยพวกเขากังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อราคาทองคำและซิลเวอร์จากการที่เศรษฐกิจในหลายประเทศอ่อนแอลงเรื่อยๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย และยุโรป CPM Group กล่าวต่อไปว่า ราคาทองคำอาจมีระดับราคาเฉลี่ยลดลง 1% ในปี 2013 เมื่อเทียบกับปี 2012 โดยราคาเฉลี่ยที่ระดับ 1,670 เหรียญในปีนี้นับจนถึงเมื่อวันจันทร์ เพิ่มขึ้น 6.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยทางบริษัทได้มองว่าตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ราคาทองคำจะมีการซื้อขายในกรอบ 1,550 — 1,750 เหรียญ การตัดสินใจต่างๆ ในเรื่อง Fiscal Cliff อาจส่งผลลบต่อราคาทองคำและซิลเวอร์ในฐานะเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ซึ่งความแตกต่างระหว่างแผนงานที่แย่ที่สุด คือ การตกลงไปสู่หน้าผาทางการคลัง และแผนงานที่ดีที่สุด คือ การที่รัฐบาลสามารถลดการใช้จ่ายและเพิ่มภาษีในลักษณะที่มีเหตุผลในระดับที่สำคัญจริงๆ ซึ่งไม่มีผลสรุปใดจะออกมาเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ ซิลเวอร์ เพราะการแก้ไขปัญหา Fiscal Cliff จะเป็นผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะสั้นๆ เท่านั้น CPM Group มองว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายตัวจะเป็นแนวโน้มขาลงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2013 สำหรับภาคด้านพลังงาน CPM Groupได้กล่าวว่า การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากต้นกำเนิดที่ไม่เป็นไปตามแบบแผนของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ WTI ในปีนี้ และยังคงส่งผลต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยมองว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะมีการซื้อขายในกรอบกว้างๆ ที่ 82 — 95 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2013 และน้ำมันดิบเบรนท์อาจปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันมาอยู่ที่ราว 100 ดอลลาร์/บาร์เรล การแข็งค่าของสกุล เงินยูโรบวกกับการปรับตัวลดลงของราคาทองคำส่งผลให้ราคาทองคำในรูปของเงินยู โรปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ระดับ 1,238.3 ยูโร/ออนซ์ นอกจากนี้ ราคาทองคำในรูปของเงินรูปีก็ปรับตัวลดลงเช่นกันสู่ระดับ 90,921 รูปี/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปเมื่อวาน ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีออกมาดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจทางสหรัฐ ได้แก่ Building Permits ออกมาดีกว่าที่คาด 20,000 ยูนิต แต่ตัวเลข Housing Starts ออกมาต่ำกว่าที่คาด 10,000 ยูนิต นายจอร์จ เจโร รองประธานและนักกลยุทธ์กลุ่มโลหะมีค่าจาก RBC Capital Market Global Futures ได้กล่าวว่า ราคาทองคำกำลังพยายามทรงตัวหลังจากปรับตัวลดลงในวันอังคาร โดยมีการทำ short covering และมีการขายทำกำไรบางส่วน โดยเขาบ่งชี้ว่า ข้อมูล Open Interest ที่เปิดเผยโดย CME Group เมื่อวันอังคารชี้ให้เห็นถึงการเทขายอย่างหนัก และเทรดเดอร์กำลังทำ short positions Open Interest เพิ่มขึ้นอย่างน่าแปลกใจถึง 4,000 ล็อต สู่ระดับ 435,742 คู่สัญญา แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลง 2% เมื่อวันอังคาร ชี้ให้เห็นว่ามีการเก็งกำไรในทิศทางขาลงใหม่ๆ มากขึ้นที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม แรงเทขายลดน้อยลงเมื่อคืน เนื่องจากความคืบหน้าในการเจรจาเรื่อง Fiscal Cliff ของสหรัฐดูหยุดชะงักกลางคัน โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้กล่าวโทษสมาชิกพรรครีพับลิกันต่อความดื้อรั้นที่ยังต่อต้านเขาในเชิงไม่พอใจส่วนตัว ในขณะที่ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวเรียกประธานาธิบดีว่า “ไม่มีเหตุผล” ซึ่งจะเห็นได้ว่า ความคับแค้นใจแบบการเล่นพรรคเล่นพรรคในกรุงวอชิงตันอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้เกิดความล้มเหลวเมื่อไรก็ได้ ฟิทช์ เรตติ้งส์ เตือนว่า สหรัฐอาจสูญเสียระดับความเชื่อมั่น AAA ถ้าหากเกิดความล้มเหลวในการจัดการกับ Fiscal Cliff แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาและมีการซื้อขายของราคาที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อวันอังคาร บุคคลที่มองทองคำในทิศทางขาขึ้นมาโดยตลอดอย่างนายจิม โรเจอร์ส กำลังมีความคิดที่เป็นกังวล โดยกล่าวว่า ราคาทองคำอาจมีการปรับฐานอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ อย่างไรก็ตาม นายโรเจอร์ส กล่าวว่า เขายังคงมองทองคำในแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว และคาดหวังให้ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหากราคาปรับตัวลง เขาหวังว่าเขาจะมีเงินเพียงพอที่จะเข้าซื้อทองคำเพิ่ม หากราคาลงไปมากๆ เขาหวังอีกว่าเขาจะมีเงินมากพอที่จะซื้อมากๆ เช่นกัน ทางด้านเยอรมนี มีการรายงานล่าสุดว่า เยอรมนีกำลังเข้าซื้อทองคำเนื่องจากความกังวลในความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ และประชาชน 1 ใน 3 กำลังพิจารณาเลือกทองคำให้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน มอร์แกน แสตนลีย์ เลือกทองคำให้เป็นโลหะประจำปี 2013 แม้ว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ มองว่าซิลเวอร์น่าจะมีราคาที่ดีกว่า สกอเธียมอคัตตา ระบุว่า ไม่น่าแปลกใจที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 2,200 เหรียญ เพราะอะไรน่ะหรือ? เหตุผลหนึ่งก็คือ มองว่าทองคำเป็นแนวโน้มขาขึ้นเพราะความวุ่นวายในโลกตะวันตก อีกทั้งปัญหาหนี้ในยุโรปที่กำลังมีการตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่น่าจะแก้ไขได้ และความพยายามทั้งหมดที่วนเวียนอยู่กับการนำเงินไปลงทุนเพื่อปกป้องการเงินไม่ให้ล่มสลาย แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอให้ทองคำเป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้ว ดอยซ์ แบงก์ ออกรายงานใหม่โดยการเปิดเผยว่า ทองคำก็คือเงินสดที่มีการถือครองกันในวงกว้างโดยธนาคารกลางขนาดใหญ่ทั่วโลกให้เป็นส่วนประกอบของการสำรอง แบงก์ออฟอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ มองว่า ทองคำจะขึ้นไปแตะระดับ 2,000 เหรียญเป็นอย่างน้อยในช่วงสิ้นปี 2013 ขณะที่ เจพี มอร์แกน ยอมรับทองคำแท่งในฐานะหลักประกัน ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศเมื่อคืน - Building Permits ตัวเลขจริงออกมาที่ 0.90M จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.87M - Housing Starts ตัวเลขจริงออกมาที่ 0.86M จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.89M - Crude Oil Inventories ตัวเลขจริงออกมาที่ -1.0M จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.8M ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.79M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 4.88M - Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -10.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ -2.2 - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 343,000 ราย คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 358,000 ราย - Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 2.7% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 2.8% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำทรงตัวอยู่ในระดับล่างบริเวณ 1,668 — 1,676 เหรียญ ในการซื้อขายเมื่อวานนี้หลังจากที่ปรับตัวลดลงมากกว่า 20 เหรียญในช่วงค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา การที่ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,690 เหรียญลงมา ทำให้ภาพรวมทางด้านเทคนิคเป็นแนวโน้มขาลงอย่างสมบูรณ์ ทั้งกราฟในระยะสั้นและระยะกลางเป็นแนวโน้มขาลง โดยที่ราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น ราคาหลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันสำหรับนักลงทุนรายวัน การตกลงของราคาทองคำสร้างความมึนงงสับสนกับนักลงทุนโดยทั่วไปที่มองว่า ทองคำน่าจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นในสภาวะที่มี QE4 และในสภาวะที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างพิมพ์เงินออกมา แต่ปรากฏว่าในความเป็นจริงคือตลาดปรับตัวลดลงในขณะนี้ ในเชิงของการวิเคราะห์ MTS Gold มองว่า ตลาดคือสภาพของความเป็นจริงที่เกิดขึ้น MTS Gold จึงยึดถือเรื่องของหลักการทางด้านเทคนิคเป็นหลักมากกว่า และยังแนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ทในทิศทางขาลงโดยการลด Portfolio ลง หรือการทำ Hedging หรือแม้กระทั่งพิจารณาการทำ Stop Loss ออกจากตลาดไปบ้าง ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่าภาพรวมของ Oscillator และ MACD ยังเป็นแนวโน้มขาลงเช่นเดียวกัน ยืนยันกับแพทเทิร์นของราคาที่ปรับตัวลดลง ยังไม่มีสัญญาณของการกลับตัวใดๆ ขึ้นมา เมื่อวานเป็นการดีดขึ้นจาก Technical Rebound ในระยะสั้นๆ ขึ้นไปได้สูงสุด 1,676 - 1,677 เหรียญโดยประมาณ ตัวเลขเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้เกือบไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับราคาทองคำใดๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขคนว่างงานหรือตัวเลขที่ประกาศในแต่ละวัน ภาพรวมตลาดยังเป็นลักษณะการ Liquidate Position ออกมา ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงมา อันจะเห็นได้จากบทวิเคราะห์ของ CPM Group ในวันนี้เริ่มมีการวิเคราะห์และมุมมองที่ต่างออกมาในทิศทางขาลงของทองคำ ในเชิงเทคนิค MTS Gold เชื่อว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 1,660 — 1,675 เหรียญในวันนี้ เป็นช่วงแคบๆ อยู่ในเชิงของ Sideways Down และมีโอกาสที่อาจจะหลุด 1,660 เหรียญได้ ซึ่งถ้าหลุดลงไปแนวรับแรกด้านล่างจะลงไปถึง 1,640 เหรียญ จึงแนะนำให้นักลงทุนทยอยลด Position หรือลดสถานะการถือครอง Long Position บ้าง Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,360 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,370 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,570 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 940 บาท และแนวต้านที่ระดับ 980 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,660 — 1,675 เหรียญในแนวโน้มทิศทางขาลง ให้ Sell on Rally นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ให้ลดสถานะลง 70% หาจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้นมาและปรับลดพอร์ทลง นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ในกรณีที่ลูกค้ามีเงินและหากท่านคิดว่าถือได้มากกว่า 6 เดือนก็ไม่ต้องลดพอร์ท มิฉะนั้นก็อาจจะลดพอร์ทลงบ้างประมาณ 10 — 20% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ