กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น
“อมยิ้มกับนิทานสองภาษา Tan Tan Start and Rhythm Books”มอบหนังสือกว่า 8,000,000 บาท สู่ทุกห้องสมุดในกรุงเทพ พร้อมอบรมเทคนิคเล่านิทานแก่บรรณารักษ์ฟรี!!หวังเตรียมความพร้อมด้านภาษาให้เด็กไทย มุ่งสู่ประชาคมอาเซียนอย่างมีคุณภาพ
สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการหนังสือชุด“อมยิ้มกับนิทานสองภาษา Tan Tan Start and Rhythm Books” ขึ้นโดยใช้งบประมาณไปกว่า 8 ล้านบาทในการจัดทำนิทาน 2 ภาษาที่เหมาะแก่เด็กทุกช่วงวัย เพื่อมอบให้แก่โรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร 437 แห่ง และห้องสมุดประชาชนในกรุงเทพมหานคร 37 แห่ง โดยมี คุณทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบหนังสือจาก ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และส่งมอบให้กับ คุณโกสิน เทศวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และคุณปราณี สัตยประกอบ รองผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการส่งมอบให้กับห้องสมุดโรงเรียนและห้องสมุดประชาชนต่อไป เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ณ หอประชุมชั้น 30 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กล่าวว่าเนื้อหาและภาพของหนังสือนิทานชุดนี้ เป็นการส่งเสริมการศึกษา สร้างสรรค์กระบวนการอ่าน ผ่านการเล่านิทาน ให้เด็กได้เรียนรู้ พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่และผู้นำที่ดีของสังคมไทย ด้วยการพัฒนา I.Q. (ความฉลาดทางด้านเหตุผลและการคิดคำนวณ) ควบคู่ไปกับ E.Q (ความฉลาดหนักแน่นทางด้านอารมณ์และเชาว์ปัญญา) ถือว่าเป็นการวางรากฐานสำคัญให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ ในช่วง 1-2 ทศวรรษข้างหน้า
“การค้นคว้าเพิ่มเติมความรู้ทางการศึกษา ปัจจุบันมีช่องทางให้เด็กได้หาความรู้อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นที่สำคัญคือ “ห้องสมุด” ดังนั้นห้องสมุดของแต่ละโรงเรียน ควรมีหนังสือที่ดี มีประโยชน์ ที่สามารถเติมเต็มความรู้ให้กับนักเรียนได้อย่างพอเพียง ควบคู่กับกิจกรรมการเรียนรู้และบูรณาการกับการศึกษาในห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง”
คุณทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่ายินดีอย่างยิ่งที่ห้องสมุดโรงเรียนทั้ง 437 แห่งในสังกัดกรุงเทพมหานคร และห้องสมุดประชาชนอีก 37 แห่ง จะได้รับหนังสือตามโครงการ “อมยิ้มกับนิทานสองภาษา เพื่อเตรียมความพร้อมเด็กไทยสู่ประชาคมอาเซียน” และที่สำคัญ ปี 2556 เป็นปีที่กรุงเทพมหานครได้รับเกียรติจากองค์การ UNESCO ให้เป็น “เมืองหนังสือโลก หรือ World Book Capital 2013
“ดิฉันรู้สึกยินดีกับสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างไตรภาคี กล่าวคือ กรุงเทพมหานคร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด ที่สนับสนุนวัฒนธรรมการอ่านร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ดิฉันตระหนักดีว่า หัวใจของหลักสูตรการศึกษาว่าด้วย “เก่ง ดี มีสุข” นั้น ข้อที่มักนำสู่ภาคปฏิบัติได้ยากนั้น คือ “มีความสุข” ส่วนความเก่งและดีนั้น มักเป็นสิ่งที่ครูและผู้ปกครองมักเน้นคาดหวังเรียกร้องจากเด็กเป็นเนือง ๆ ไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อม การปลูกจิตสำนึกรักการอ่านให้กับเด็กตั้งแต่วัยเยาว์นั้นก็เพื่อให้เด็ก ได้เรียนรู้และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเก่ง สามารถก้าวเป็นผู้นำของสังคมไทยต่อไปได้”
ด้านคุณอาทร เตชะธาดา กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น เปิดเผยว่าโครงการมอบหนังสือให้แก่ห้องสมุดฟรีรวมถึงอบรมบรรณารักษ์และคุณครูที่จะไปใช้หนังสือที่มอบไปให้เกิดประโยชน์สูงสุดนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 แล้ว
“ธนาคารกรุงเทพสนใจเรื่องของการศึกษาอยู่แล้ว มีการสร้างโรงเรียน ซ่อมแซมอาคาร แต่เรามาคุยกันว่านอกจากตัวอาคารสถานที่แล้วนั้นการปลูกฝังเรื่องการอ่านก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะหนังสือที่จะเข้าห้องสมุด เพราะปัญหาที่เราเจอเวลาคนบริจาคหนังสือเข้าห้องสมุดส่วนใหญ่คือเป็นหนังสือที่ไม่ต้องการอีกแล้ว ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสมกับวัยเด็ก ถ้าเอาหนังสือที่ไม่เหมาะกับวัยไปให้ ห้องสมุดก็ไม่มีชีวิต เลยคุยกันแต่ว่าทำหนังสือใหม่ที่มีคอนเทนท์เหมาะกับเด็กๆแต่ละวัยมอบให้ห้องสมุดกัน”
โดยปีนี้นั้นเป็นการจัดทำหนังสือเป็นนิทานสองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับ 3 ช่วงวัย คือ กลุ่มอายุ 0-9 เดือน, กลุ่มอายุ 9 เดือน-3 ปี และกลุ่มอายุ 3-5 ปี (อนุบาล 1-3) กว่า 24 ชื่อเรื่อง ซึ่งบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด ได้นำเข้าลิขสิทธิ์นิทานสองภาษา จากสำนักพิมพ์ Yeowon จากเกาหลีใต้ โดยนำเสนอผ่านเทคนิค 5 เทคนิคที่เหมาะสมกับการเรียนรู้ของแต่ละวัยคือ เล่าปากเปล่า เล่าโดยใช้อุปกรณ์ใกล้ตัว เล่าโดยใช้หนังสือประกอบการเล่า เล่าโดยใช้ภาพประกอบ เล่าโดยใช้ศิลปะเข้าช่วยเช่น การวาดรูป การพับกระดาษ เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมด้านภาษาให้แก่เด็กไทย ก่อนที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัว
“นอกจากการมอบหนังสือแล้วนั้น เรายังจัดอบรมให้คุณครูที่ดูแลนักเรียนในแต่ละสถานศึกษา ให้ประสานความร่วมมือกับบรรณารักษ์ห้องสมุดของตน ร่วมกันเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคต่างๆในการเล่านิทานจากนักเล่ามืออาชีพซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เด็กๆสนใจการอ่านด้วย รวมถึงห้องสมุดประชาชนในชุมชนแต่ละเขตของกทม. โดยจะมีการติดตามงานประเมินผลเสมอ”
โดยภายในงานการสาธิตและอบรมการเล่านิทานสองภาษาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง กิจกรรมการอ่านหนังสือเสริมประจำโรงเรียน (School Reading Camp) และ กิจกรรมการอ่านประจำครอบครัว (Family Reading Camp) ในสไตล์นิทานเล่า-ละครเพลง (The Musical Story-Telling) จากนักเล่านิทานที่มีประสบการณ์สูง จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ซึ่งได้รับความสนใจจากครูและบรรณารักษ์ห้องสมุดต่างๆในสังกัดกรุงเทพมหานครลงทะเบียนร่วมอบรมกว่า 600 ท่าน จนแน่นห้องประชุม นอกจากนี้บุคลากรด้านการศึกษา กทม. ประมาณ 150,000 คน ได้ร่วมชมการถ่ายทอดสด ด้วย TV Online ผ่าน Url: www.praphansarn.com และสามารถดูซ้ำ (Re-run) ได้ที่ www.praphansarn.com เช่นกัน