กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--
ว่ากันว่าการศึกษาคือการต่อยอดชีวิตของผู้คนที่ถือกำเนิดมาให้สามารถพัฒนาตนเองให้มีชีวิตก้าวหน้าได้ สำหรับเกริก ชิลเลอร์ และอ้อม สานันทินี (พันธ์ชูจิตร) ชิลเลอร์ คุณพ่อและคุณแม่ของลูกสาวน่ารักที่อยู่ในวัยกำลังน่ารัก 3 คน แซมมี่ วินนี่ และบิวตี้ โดยเกริกในฐานะหัวเรือใหญ่ของบ้านยังคงโลดแล่นในแวดวงบันเทิง ทั้งด้านการแสดงละคร และภาพยนตร์โฆษณา ส่วนอ้อมที่เคยมีผลงานการแสดงในอดีตก็ผันตัวเองเป็นแม่บ้านเลี้ยงดูลูกสาววัยซน ทั้งนี้ ทั้งเกริกและอ้อมให้ความสำคัญกับชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น และการพัฒนาด้านการศึกษา ลูกๆ มีพัฒนาการด้านไอคิวและอีคิวไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังเผื่อแผ่ให้กับเด็กไทยที่ยังขาดโอกาสด้านการศึกษาในสังคมไทย
เกริก เล่าว่า “เมื่อสมัยที่ผมยังเด็กๆ คุณแม่จะให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาและการเป็นคนดีของสังคม ดังนั้น เมื่อผมเรียนจบและมีครอบครัวก็ยึดถือคำสอนของคุณแม่มาโดยตลอด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาของลูกทุกคน โดยทั้งผม และอ้อมจะสนับสนุนลูกๆ ทั้งสามให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนครอบครัวเดิมของอ้อมเอง ทางคุณพ่อ คุณแม่และพี่สาวก็เป็นคนที่ชอบทำบุญ เรื่องที่คุยด้วยทุกครั้งที่มีโอกาสได้พบกันคือเรื่องธรรมะจากผู้คนรอบตัวและเรื่องการทำบุญและการปฏิบัติธรรมในที่ต่างๆ อีกทั้งเรายังมีความเชื่อว่าการทำบุญด้วยการสนับสนุนให้เด็กด้อยโอกาสหรืออาจจะขาดโอกาสได้เรียนหนังสือ กอปรกับได้ยินชื่อมูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (The Education for Development Foundation หรือที่เรียกกันทั่วไปว่ามูลนิธิมูลนิธิ EDF) เนื่องจากมีเพื่อนทำงานอยู่ ได้เห็นว่าเป็นมูลนิธิที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้ ดังนั้นจึงได้เริ่มสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างจริงจงในปี พ.ศ.2553 ซึ่งเป็นทุนต่อเนื่องระยะเวลา 3 ปี โดยครอบครัวเราสนับสนุนนักเรียน 2 คน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเกาะตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ โดยเราตั้งใจจะสนับสนุนทุนการศึกษาต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ครับ อีกทั้งทางมูลนิธิฯ จะส่งเอกสารเกี่ยวกับนักเรียนทุนที่เราสนับสนุนมาให้โดยตลอด ทำให้ทราบพัฒนาการด้านการเรียนของเด็กแต่ละคนอย่างต่อเนื่อง”
เกริก ในฐานะหัวหน้าครอบครัวบอกว่า “การที่เราเป็นนักแสดงทำให้เราได้มีโอกาสดีๆ มากมายเข้ามาในชีวิต ได้ช่วยงานการกุศลต่างๆ ขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสเห็นผู้ด้อยโอกาสมากมายในสังคม รวมถึงนักเรียนยากจน ผมและอ้อม ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวเชื่อว่าการศึกษาจะช่วยพัฒนาคนให้เป็นคนดี มีจริยธรรมได้ โดยเรามองจากมุมของการที่เรามีลูกถึง 3 คน สิ่งเดียวที่จะให้ลูกได้คือการศึกษาและส่งเสริมให้ลูกเป็นคนดีมีศีลธรรม เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับลูกๆ ของเราจึงเห็นภาพต่างกันที่ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ในครอบครัวทั้งผมและอ้อมเชื่อว่ายังเป็นการสร้างกุศลทางหนึ่งที่ช่วยจะส่งผลดีกับชีวิตของลูกๆ ทั้งสาม... "ผู้ให้ความสว่างย่อมได้รับความสว่าง" อย่างน้อย...เมื่อได้ให้เราก็มีความสุขแล้ว..."
ทางด้านอ้อมที่รับบทบาทรับผิดชอบลูกสาว 3 คน ที่กำลังอยู่ในวัยน่ารัก และซุกซนตามประสาเด็กเล่าว่า “ลูกสาวทั้ง 3 คน จะมีบุคลิกที่ต่างกัน แต่พี่น้องจะรักกันมาก โดยแซมมี่ ลูกสาวคนโตซึ่งขณะนี้อายุ 13 ปี แล้ว ชอบฟังเพลง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่จะเน้นดนตรี ขอเล่นดนตรีแทบทุกชนิดเลย ออกแนวศิลปิน ชอบแต่งเพลง แกะโน้ตเพลงที่ตัวเองชอบ อีกทั้งยังเป็นเด็กตลก ชอบทำให้ผู้คนรอบข้างหัวเราะ เป็นหัวหน้าทีมของน้องๆ ส่วนสาวน้อยคนที่ 2 วินนี่อายุ 5 ขวบครึ่ง คนนี้เจ้าระเบียบมาก เป็นเลขาของแม่เลยก็ว่าได้ หาอะไรไม่พบต้องถามวินนี่ก่อน เป็นเด็กอารมณ์ดี เป็นสาวหวานมาก รักน้อง รักพี่ ชอบวาดรูป ร้องเพลง เต้นรำ ชอบช่วยเหลือคนอื่น เวลาเห็นพ่อแม่ถือของจะวิ่งมาช่วยตลอด อีกทั้งยังเป็นเด็กเจ้าระเบียบ เช่น ถ้าใครวางรองเท้าไม่เรียบร้อยก็จะโดนวินนี่บ่น คือถ้าแม่สอนไรสักอย่างวินนี่จะจำสิ่งที่แม่สอนแม่นเลยค่ะ เป็นคุณระเบียบของบ้าน ส่วนบิวตี้ ลูกสาวคนเล็กเหมือนเด็กผู้ชาย จอมแก่น ถ้าหายไปนานเกิน 1 นาที แสดงว่าต้องสร้างวีรกรรมแน่ๆ เป็นเด็กสนุกสนานมาก ยิ้มตลอดเวลา ทักทายคนนั้นคนนี้ แต่ขี้อาย ชอบเล่นกับลุง อา น้า พี่ที่เป็นผู้ชาย ขี้อ้อนมาก ช่วงนี้เป็นวัยซนมากค่ะ ต้องคอยดูใกล้ชิดมาก สำหรับลูกๆ ทั้ง 3 ทำให้ครอบครัวเรามีช่วงเวลาที่ดีด้วยกัน เราเลี้ยงลูกกันเอง ไม่ได้มีพี่เลี้ยงเลย พวกเรามีความสุขที่ได้เห็นลูกเติบโตขึ้นทุกวันๆ เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุด 3 สาวเป็นเพื่อนแท้ของอ้อมกับพี่แจ๊ค แต่สิ่งที่เราย้ำสำหรับลูกๆ อยู่เสมอคือการรู้จักหน้าที่ของตนเอง และรู้จักการแบ่งปันให้ผู้อื่น”
เกริก ได้ฝากว่า “ใกล้ปีใหม่ เริ่มปีพุทธศักราชใหม่ หากต้องการทำบุญ หรือมอบของขวัญให้ใครสักคน ผมอยากจะเชิญหนุ่มสาวยุคใหม่ หรือครอบครัวไทยเราได้มาร่วมกันสนับสนุนการศึกษากับมูลนิธิ EDF (โทรศัพท์ 02 579 9209-11 หรือคลิกเว็บไซต์ www.edfthai.org) เพื่อพัฒนาเด็กไทยให้มีความก้าวหน้า การที่เราได้มีโอกาสเห็นพัฒนาการของพวกเขาได้เห็นรอยยิ้มที่ได้มีโอกาสเรียนหนังสือจะเป็นภาพที่ติดตาเราไปตลอดเวลาเหมือนผมและอ้อมครับ”
สำหรับเกริก ชิลเลอร์ โด่งดังเป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงในภาพยนตร์โฆษณาครั้งแรกในปี พ.ศ.2539 ต่อมาในปี พ.ศ.2540 ได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์เรื่อง ลับแลคนมหัศจรรย์ เป็นครั้งแรกหลังจากนั้นก็มีผลงานการแสดงเละงานพิธีกรตามมาอีกมากมาย