ดั๊บเบิ้ล เอ ส่งโฆษณาสุดฮิตลงจอในไทย ดีเดย์ 22 พ.ค.ตั้งเป้ากระตุ้นยอดขาย 25%

ข่าวทั่วไป Thursday May 19, 2005 16:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ฤกษ์ส่งโฆษณาใหม่ชุด “โรบอท” สุดฮิต ที่ได้ดาราสาวจากแดนกิมจิแสดงนำ ลงจอในไทย 22 พ.ค. นี้ ทุ่มงบเผยแพร่ 30 ล้าน หวังกระตุ้นยอดจำหน่ายกระดาษในประเทศปีนี้ให้โตขึ้นอีก 25 % รวมทั้งมีแผนส่งเครื่องเขียนชุดสะสมโรบอทลงตลาด มั่นใจจะเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ — การตลาด ดั๊บเบิ้ล เอ กล่าวว่า ดั๊บเบิ้ล เอ จะเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาชุด “โรบอท” ซึ่งเป็นภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของปี 2548 ในวันที่ 22 พฤษภาคม ภายใต้คอนเซปท์ “No Jam No Stress : ไม่มีปัญหากระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสาร ชีวิตก็ไม่เครียด” โดยนำเสนอจุดเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่มีคุณสมบัติไม่ติดเครื่องทำให้แตกต่างกับกระดาษยี่ห้ออื่นๆ ในตลาด และเป็นชุดเดียวกับที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลี ฮ่องกง มาเลเซีย และไต้หวัน มาแล้ว เพราะมีความแปลกน่าสนใจด้วยการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคฝีมือโปรดักชั่นเฮ้าส์ไทยเข้ามาช่วยสร้างให้เครื่องถ่ายเอกสารกลายเป็นหุ่นยนต์หรือโรบอท มาแสดงร่วมกับดาราสาวชาวเกาหลี ปาร์ค ฮัน บยิว (Park Han Byul) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของชาวโสมอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งมีแผนที่จะนำโฆษณาชุดนี้ นำไปเผยแพร่ต่อในประเทศสิงคโปร์ และจีนต่อไป
ด้าน นายพินิจ ฉันทประทีป รองประธานบริหารและผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสร้างสรรค์ JWT กล่าวว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุดโรบอทของดั๊บเบิ้ล เอ ชุดนี้ใช้ทีมงานสร้างสรรค์จาก บริษัท เจ.วอลเตอร์ ธอมสัน เพื่อให้เป็นภาพยนตร์โฆษณาสำหรับภูมิภาคเอเชียของดั๊บเบิ้ล เอ และใช้บริษัท ฟีโนมีนา โปรดักชั่นเฮ้าส์ของไทยเป็นผู้ผลิต โดยต้องการสื่อให้เห็นถึงคอนเซปท์ที่โดดเด่นของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ คือ No Jam No Stress กระดาษไม่ติดเครื่อง ชีวิตการทำงานก็ราบรื่นและไม่เครียด เพราะเชื่อว่าคนที่เคยถ่ายเอกสารจะเข้าใจกับสภาพตรงนี้ได้ดี คือเมื่อยิ่งรีบเร่งทำงานแล้วมาเจอปัญหากระดาษติดเครื่องก็ยิ่งทำให้เครียดขึ้นไปอีก ซึ่งคอนเซปท์ No Jam No Stress นั้น เป็นคอนเซ็ปท์หลักของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ที่ต้องการจะเปลี่ยนความเชื่อหรือทัศนคติแบบเดิมๆ ทิ้งไป ไม่ต้องการให้ผู้ใช้งานที่ประสบกับปัญหาระหว่างถ่ายเอกสารโดยเฉพาะเรื่องกระดาษติดเครื่องนั้น คิดว่าเป็นความผิดของเครื่องถ่ายเอกสารเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้ลองมองย้อนกลับมาว่าจริงๆ แล้วกำลังใช้กระดาษที่ไม่มีคุณภาพหรือเปล่า ในโฆษณานี้สื่อให้เห็นว่าหากเครื่องถ่ายเอกสารมีชีวิตได้ก็คงจะลุกขึ้นมาตอบโต้ ว่าให้เลือกใช้กระดาษดีๆ จะได้ไม่ต้องมาทุบตีเครื่องถ่ายเอกสาร
ส่วน นายคณิณ จันทรสมา Film Director บริษัท ฟีโนมีนา จำกัด โปรดักชั่นเฮ้าส์เมืองไทยที่สร้างผลิตภาพยนตร์โฆษณาให้กับต่างประเทศมาหลายรายและยังเป็นทีมผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ กล่าวว่า ใช้เวลาการผลิตหนังชุดนี้ 3 เดือน โดยขั้นตอนที่ใช้ระยะเวลาและความประณีตที่สุดคือการกำกับและถ่ายทำให้นักแสดงแสดงอารมณ์ออกมาให้ได้ กับอากาศที่ว่างเปล่าเพราะใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคในการสร้างหุ่นยนต์ให้มีชีวิต โดยมีเนื้อหาสนุกสนาน น่าสนใจ แปลกใหม่ ซึ่งการที่เลือกใช้หุ่นยนต์ในการนำเสนอนั้นเพราะเป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร สะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัยของเทคโนโลยีในโลกอนาคตเป็นอย่างดี ซึ่งช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ในบุคลิกของสินค้า ดั๊บเบิ้ล เอ ได้ด้วย
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่แล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ ได้วางแผนที่จะสร้างกระแสโรบอทให้เกิดความต่อเนื่อง โดยได้เตรียมจัดแคมเปญสนับสนุนหลายกิจกรรม อาทิ การจัดทำสื่อ OOH (Out of Home) โดยการจัดทำหุ่นจำลองโรบอทขนาดเท่าคนจริงไปติดตั้งตามออฟฟิศต่างๆ การทำโปสการ์ด และที่คั่นหนังสือรูปโรบอท เพื่อให้ลูกค้าสะสมให้ครบหมายเลข 1,7,5 และ 9 แล้วโทรมาสายด่วนดั๊บเบิ้ล เอ 1759 เพื่อแลกรับของรางวัล รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนซีรีส์ใหม่ในชุดโรบอท ทั้งหมด 150 แบบ แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ สมุดเลคเช่อร์สันกาว, สมุดห่วง ,สมุดโน๊ตเย็บลวด ,สมุดฉีกรายงาน และ กระดาษโน๊ตติดแผ่นแม่เหล็ก วางจำหน่ายพร้อมกันที่ร้านดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่, ศูนย์ดั๊บเบิ้ล เอ ก๊อปปี้ เซ็นเตอร์ และร้านเครื่องเขียนชั้นนำทั่วประเทศ โดยดั๊บเบิ้ล เอ คาดหวังว่าทั้งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่และแคมเปญโรบอทนี้จะช่วยกระตุ้นเพิ่มยอดจำหน่ายกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ในประเทศปีนี้ให้สูงขึ้น 25 % จากปีก่อนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายชาญวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า การขยายตลาดของดั๊บเบิ้ล เอ นั้น ให้ความสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของ Above the Line และ Below the Line ควบคู่กันไป แต่จะพิจารณาว่าประเทศที่ขยายตลาดเข้าไปนั้น ให้ความสำคัญกับเรื่องใดมากกว่ากัน รวมถึงการคำนึงถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในประเทศนั้นด้วย และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการสร้างภาพลักษณ์ หลังจากที่เผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาไปแล้ว ดั๊บเบิ้ล เอ จะจัดแคมเปญตามใจกลางเมือง หรือย่านธุรกิจ เช่น แคมเปญ Street Fight ที่ฮ่องกง ที่จัดเวทีริมถนน ให้ประชาชนมาร่วมสนุกในการชกกับหุ่นโรบอท แคมเปญCopy Robot ที่ประเทศเกาหลี ที่ทำหุ่นยนต์ ขนาด 2 เมตร เดินได้จริง และสามารถถ่ายเอกสารได้ ไปเปิดตัวใน 5 ย่านธุรกิจสำคัญของเกาหลี เป็นต้น ซึ่งการจัดแคมเปญทั้งหมดจะอยู่ในงบประมาณที่จัดสรรให้ในแต่ละประเทศประมาณ 15-30 ล้านบาทต่อประเทศ และคาดว่าในปีนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ จะมียอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 50 % จากปีก่อน เนื่องจากมีการเปิดตลาดไปยังประเทศใหม่ ๆ อย่างจีน
ทั้งนี้ จากผลสำรวจล่าสุด เกี่ยวกับความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ของดั๊บเบิ้ล เอ ในประเทศต่าง ๆ ที่ผ่านมาพบว่า ในประเทศไทยดั๊บเบิ้ล เอ มี Brand Awareness ถึง 98 % ในสิงคโปร์ 97 % ไต้หวัน 95 % ฮ่องกง 90 % มาเลเซีย 86 % เกาหลี 72 % เนเธอร์แลนด์ 70 % ออสเตรเลีย 43 % และประเทศจีนที่เพิ่งเริ่มเข้าไปทำตลาดเป็นประเทศล่าสุด ที่เมืองกวางโจว และเซียงไฮ้ ก็มี Brand Awareness ที่ 51 % และ 36 % ตามลำดับ รวมแล้วมียอดประชากรที่ระลึกถึงตราสินค้าดั๊บเบิ้ล เอ ประมาณ 200 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งยังไม่รวมการสร้างตราสินค้าผ่านการส่งออกกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอีกกว่า 61 ประเทศ แสดงถึงความเป็น Global brand ความสำเร็จของแบรนด์ไทยที่สร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ
สำหรับโฆษณาของ ดั๊บเบิ้ล เอ ที่ผ่านมาจะเน้นคุณสมบัติสำคัญของกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างกับกระดาษยี่ห้ออื่นๆ ทั้งในด้านความคมชัดเหมือนต้นฉบับในโฆษณาชุด “Speech” การถ่ายเอกสารด้วยกระดาษไม่มีคุณภาพในชุด “face off” และการใช้กระดาษที่ดีต้องไม่ติดเครื่องอย่างในชุด “กังฟู” รวมถึงการใช้กระดาษที่มีคุณภาพช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายและมีผลประกอบการที่ดี อย่างในโฆษณาชุด “point” ที่ผ่านมา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท คิธ แอนด์ คินฯ จำกัด
คุณจรรยา นุกูลกิจ โทร. 02 663 3226 ต่อ 65 หรือ 09 814 8941
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ