กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า รายได้รัฐบาลในเดือนพฤศจิกายน 2555 จัดเก็บได้ 174,372 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ23,062 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.2 โดยภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการมาก เป็นผลจากเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายรถยนต์ใหม่คันแรก ส่งผลให้รายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม — พฤศจิกายน 2555) สูงกว่าเป้าหมาย 25,193 ล้านบาท นายสมชัยฯ กล่าวสรุปว่า “ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้น ทำให้มั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2556 รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมายที่ 2.1 ล้านล้านบาท” โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. เดือนพฤศจิกายน 2555 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 174,372 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 23,062 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.2 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 25.6) โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการมาก ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,890 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.3 เป็นผลจากนโยบายรถยนต์คันแรก และภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,663 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.2 เป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,071 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.6
นอกจากนี้ รายได้จากส่วนราชการอื่นและรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 4,096 และ 1,846 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาตินำส่งค่าใบอนุญาตกิจการโทรคมนาคมที่เหลื่อมมาจากปีที่แล้วจำนวน 1,655 ล้านบาท และ บมจ.กสท โทรคมนาคมนำส่งรายได้จำนวน 1,954 ล้านบาท จากที่ประมาณการว่าจะนำส่งในเดือนพฤษภาคม 2556
2. ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม — พฤศจิกายน 2555)
รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 321,222 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 25,193 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 18.2) เป็นผลจากการจัดเก็บรายได้ของกรมจัดเก็บภาษีทั้งสามกรม ที่สูงกว่าประมาณการ 32,457 ล้านบาท แต่การคืนภาษีของกรมสรรพากรสูงกว่าประมาณการ 8,350 ล้านบาท ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบผลการจัดเก็บรายภาษีในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 กับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่าส่วนมากมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากการจัดเก็บภาษีเมื่อปีก่อนได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 228,357 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 18,063 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.0) โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 10,808 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 28.5) จากการบริโภคภายในประเทศและการนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศสูงกว่าประมาณการ 4,590 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.1 ส่วนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 4,749 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.3 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.2) เนื่องจากฐานเงินฝากประจำขยายตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2555
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 78,930 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 13,170 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 50.5) โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีรถยนต์จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 10,613 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.7 เป็นผลจากนโยบายรถยนต์ใหม่คันแรก ส่วนภาษีเบียร์และยาสูบจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,787 และ 2,138 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.5 และ 24.9 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษียาสูบในเดือนสิงหาคม 2555 ขณะที่ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,569 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.3 เป็นผลจากปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ขยายตัวน้อยกว่าที่ประมาณการไว้
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 21,424 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,224 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 26.5) โดยอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,089 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.5 เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ที่ขยายตัวในระดับสูง ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาทในเดือนตุลาคม 2555 ขยายตัวร้อยละ 21.6 และร้อยละ 23.0 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 18,315 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 4,291 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.0 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 43.6)
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 26,265 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 6,158 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 43.5) โดยรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียมจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,570 ล้านบาท สาเหตุมาจากมูลค่าการขายปิโตรเลียมที่สูงขึ้นมาก ขณะที่ กรมธนารักษ์จัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 823 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์เหลื่อมมาจากปีที่แล้ว
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 47,257 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 8,350 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.5 ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 43,251 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 9,533 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.3 และการคืนภาษีอื่นๆ (ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์) จำนวน 4,006 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,183 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.8
สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 02 273 9020 ต่อ 3543 และ 3544