ไนท์แฟรงค์เผยตลาดคอนโดริมน้ำมีแววรุ่ง

ข่าวอสังหา Monday December 24, 2012 15:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--ไนท์แฟรงค์ บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจทำเลกรุงเทพฯ ริมน้ำ เหตุอุปสงค์มีการขยายตัว ทำเลริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ผนวกกับทัศนียภาพสายน้ำ เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกิดการพัฒนาพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีโรงแรมระดับห้าดาว คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ และอาคารสำนักงาน ผุดขึ้นมากมาย ทำให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลทองของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำเลริมฝั่งแม่น้ำดังกล่าวครอบคลุมไปถึงเจริญกรุง เจริญนคร และถนนพระราม 3 ทั้งยังกระจายมายังย่านสาทร-สีลม และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ด้วย พื้นที่เหล่านี้รวบรวมแหล่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ ร้านอาหาร โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลระดับเวิลด์คลาส ร้านค้าปลีก และช้อปปิ้งมอลล์ โดยมีการพัฒนาพื้นที่ย่านเจริญกรุง เจริญนคร เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แล้วหลายแห่ง เช่น เสนา เฟสต์, Vue, และ เดอะ วานิลลา มูน แบงคอก โครงการเหล่านี้มีความพร้อมที่จะตอบสนองด้านสินค้าและบริการที่หลากหลายเพื่อผู้พักอาศัยริมฝั่งแม่น้ำ และจะช่วยเพิ่มความน่าอยู่ให้ชุมชนละแวกใกล้เคียงด้วย จากสถิติของ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงให้เห็นว่าคอนโดมิเนียมริมฝั่งแม่น้ำมีอุปทานสะสมเพิ่มขึ้นถึง 19,807 ยูนิตจนถึงช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 18.7 โดยเป็นคอนโดมิเนียมสร้างใหม่ในระยะไตรมาสที่สามของปี 2555 ประมาณ 3,117 ยูนิต ขณะที่ย่านถนนพระราม 3 ครองอันดับหนึ่งเป็นพื้นที่ที่มีคอนโดมิเนียมสร้างใหม่มากที่สุด ด้วยจำนวน 1,388 ยูนิตหรือคิดเป็น 45% ตามด้วยทำเลย่านกรุงธนบุรีและถนนนราธิวาสราชนครินทร์ที่กินส่วนแบ่ง 23% และ 20% ตามลำดับ นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและประเมินมูลค่าทรัพย์สิน บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงอุปทานของคอนโดมิเนียมในปี 2555 ว่ามีศักยภาพที่ดี “เราได้เห็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูเปิดตัวในทำเลริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป้าหมายลูกค้าเป็นผู้ซื้อคนไทยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนต่อ ในขณะที่มีอุปทานอีกกลุ่มหนึ่งมุ่งไปที่ผู้ซื้อชาวต่างชาติ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่” ขณะที่อุปสงค์ของคอนโดมิเนียมมีอัตราอยู่ที่ 2,404 ยูนิตในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ เพิ่มขึ้นดีดตัวถึง 1,633 ยูนิตจากตัวเลข 771 ยูนิตเมื่อสิ้นปี 2554 ที่ผ่านมา อุปสงค์หลักในช่วงเวลานี้ได้แก่คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ซึ่งมียอดขายไปแล้ว 1,085 ยูนิต โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน อาทิ ศุภาลัย พริมา ริวา และดี คอนโด สาธุประดิษฐ์ 49 สำหรับทำเลอื่นๆ ที่มีอุปสงค์สูงในช่วงเวลาเดียวกันคือย่านกรุงธนบุรี ซึ่งมีตัวเลขการซื้อขายไปแล้ว 605 ยูนิตจากทั้งหมด 1,633 ยูนิตในตลาด ภาพรวมอัตราอุปสงค์ของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมย่านริมฝั่งแม่น้ำในระยะไตรมาสที่สามของปี 2012 พบว่าอยู่ที่ร้อยละ 45 เพิ่มขึ้นอย่างสูงจากตัวเลขร้อยละ 22 ในช่วงสิ้นปี 2554 ที่ผ่านมา โดยอัตราอุปสงค์ในทำเลย่านสาทร-สีลมมีอัตราสูงสุดคือประมาณ 91% ตามด้วยย่านกรุงธนบุรีกับตัวเลข 83% นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมในย่านสาทร-สีลมอีกไม่น้อย เนื่องจากเป็นทำเลทองทางธุรกิจและสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับสุขุมวิท พระราม 3 และริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ อีกทั้งมีการวางแผนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมย่านกรุงธนบุรีเป็นจำนวนมาก โดยได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำ ซึ่งทำให้เกิดการสัญจรไปมาจากธนบุรีไปยังเขตกรุงเทพฯ ชั้นในได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2555 อยู่ที่ตารางเมตรละ 102,730 บาท โดยคอนโดมิเนียมย่านสาทร-สีลมมีราคาขายเฉลี่ยสูงสุดคือ 117,224 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ย่านถนนราธิวาสราชนครินทร์รั้งอันดับสอง ด้วยราคาขายเฉลี่ย 115,813 บาทต่อตารางเมตร นางสาวริษิณี ยังได้คาดการณ์ราคาขายคอนโดมิเนียมทำเลริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาว่าอาจปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก จากการขาดแคลนที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ราคาขายคอนโดมิเนียมในเขตใจกลางเมืองก็มีแนวโน้มเพิ่งสูงขึ้นเช่นกันจากข้อจำกัดเรื่องที่ดิน ประกอบกับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มให้ความสำคัญกับมาตรฐานการก่อสร้างด้วยการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ “ในปีหน้า เราจะได้เห็นคอนโดมิเนียมเกิดใหม่กว่า 400 ยูนิตที่เตรียมเปิดตัวในทำเลริมฝั่งแม่น้ำในเขตกรุงเทพมหานคร รวมถึง โครงการ เดอะ บรีซ คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ใหม่ล่าสุดบนถนนนราธิวาสจาก บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และโครงการ เดอะ วิง สาทร คอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์บนถนนกรุงธนบุรี โครงการเหล่านี้ช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียม เราคาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมจำนวน 2,600 ยูนิตที่เตรียมตัวแล้วเสร็จภายในปี 2015 ซึ่งเป็นตัวเลขยูนิตที่ได้รวมโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลริมฝั่งแม่น้ำเข้าด้วยแล้ว” สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ ยังรวมไปถึงโครงการ แม่น้ำ เรสซิเดนท์ ซึ่งเตรียมปักเสาเข็มบนถนนเจริญกรุงและมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ปี 2559 โครงการนี้ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัย 54 ชั้น จำนวนห้อง 294 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 3.3 พันล้านบาท โครงการ แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จะสามารถตอบรับอุปสงค์ในอนาคตของผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ นอกจากนี้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าอื่นต่างก็ให้ความสนใจอุปสงค์ในอนาคตที่เพิ่มขึ้นในทำเลนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ