AIT มั่นใจผลงานครึ่งปีหลัง ดันรักษาตำแหน่งหุ้นปันผล ชี้ปี 56 อุตสาหกรรมคึกคัก หลังเอกชน-รัฐวิสาหกิจลงทุนเพิ่ม หนุนรายได้โต 15%

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday December 25, 2012 11:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ AIT เดินหน้าให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมรักษาตำแหน่งหุ้นปันผลคุณภาพ หลังมุ่งมั่นดำเนินนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปีนี้ จ่ายปันผลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท พร้อมประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปี 2556 กลับมาคึกคัก หลังภาคเอกชนได้รับใบอนุญาต 3G ย่านความถี่ 2.1 GHz ส่งผลให้มีการลงทุนด้านโครงข่าย หลายหมื่นล้านบาท พร้อมดันรัฐวิสาหกิจผลักดันโครงการประมูลขนาดใหญ่ออกมา ชี้ผลการดำเนินงานปีหน้าเติบโต 15% นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้มีการขยายตัวและเติบโตอย่างน่าพอใจแล้ว บริษัทฯ ยังรักษานโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ของปี 2555 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,826.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 169.7 ล้านบาท “ที่ผ่านมา AIT ขึ้นชื่อว่า เป็นบริษัทฯ ที่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอันดับต้นๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปี 2552 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท ปี 2553 จ่ายเงินปันผลในอัตรา หุ้นละ 4.50 บาท ในปี 2554 จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 5.00 บาทและสำหรับงวดครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ก็ยังคงดำเนินนโยบายในการจ่ายเงินปันผล เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน สำหรับผลการดำเนินงานรวม 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2555) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,762.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 285.4 ล้านบาท” นายศิริพงษ์ กล่าว ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT ยังกล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปี 2556 คาดว่าจะกลับมาคึกคัก หลังจากเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2555 คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) มีมติให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้แก่ ผู้ชนะการประมูลโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (Internation Mobile Telecommunications : IMT) ย่านความถี่ 2.1 GHz ซึ่งก็คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด และ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด และทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ดำเนินการเรื่องออกใบอนุญาตให้กับทั้ง 3 บริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีอายุ 15 ปีนับตั้งแต่วันที่ กทค. มีมติให้ใบอนุญาต “ภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารปีหน้าคึกคักแน่ เพราะไม่มีปัญหาเรื่องภาวะน้ำท่วมเข้ามากระทบและขณะนี้กสทช.ได้มอบใบอนุญาต 3G ย่านความถี่ 2.1 GHz ให้กับเอกชนทั้ง 3 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องทำตามเงื่อนไขในการประกอบกอบกิจการโทรคมนาคม โดยจะต้องจัดให้มีโครงข่ายโทรคมนาคมครอบคลุมทุกจังหวัด และครอบคลุมจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันได้รับใบอนุญาตและร้อยละ 80 ของจำนวนประชากรทั้งหมดและภายใน 4 ปี นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งขณะนี้บริษัทเอกชนได้ประกาศงบลงทุนแล้วโดยแต่ละบริษัทงบลงทุนอยู่ระดับหมื่นล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้อุตสาหกรรมในปีหน้ากลับมาคึกคักอย่างแน่นอน” นายศิริพงษ์กล่าว ขณะเดียวกันทางด้านรัฐวิสาหกิจอย่างบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)หรือ กสท.และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที ต้องมีแผนขยายโครงข่ายเพื่อแข่งขันกับภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้มีการประมูลโครงการขนาดใหญ่ออกมา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามูลค่างานที่เปิดประมูลที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาครัฐ รวมไปถึงงานภาคเอกชน ที่ AIT มีศักยภาพในการเข้ารับงานได้ มีมูลค่าประมาณเกือบหมื่นล้านบาท (Market Focus Value) ซึ่งหาก AIT ได้งานในส่วนนี้ก็จะเข้ามาเป็นมูลค่างานที่อยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปี 2556 ส่วนปี 2555 นั้น บริษัทฯ คาดว่า จะมีรายได้รวมมากกว่า 4,000 ล้านบาท และบริษัทฯ คาดว่าในปี 2556 ผลการดำเนินงานจะเติบโตประมาณ 15% จากปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ