กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--IR network
แผนเพิ่มทุน บมจ. แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น (MATCH) ผ่านฉลุย ผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (PO) จำนวน 210 ล้านหุ้น นำเงินสร้างเมืองถ่ายหนังครบวงจร หวังผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนต์ของภูมิภาค รับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แถมแก้ปัญหาฟรีโฟลทให้เป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และมีมาร์เก็ตแคปสะดุดตาสถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ "สมบุญ ชีวสุทธานนท์" แม่ทัพ MATCH ยืนยันไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง จากนี้ไปพร้อมโตก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนตั้งแต่ปี 2556 นี้เป็นต้นไป ล่าสุดขอแชร์ส่วนแบ่งตลาดให้เช่าอุปกรณ์ สำหรับงานละคร ผ่านแบรนด์ "แฮนดี้เกียร์" หลังลงทุนซื้อทรัพย์สินจาก บริษัท ซันไลท์ติ้ง แอนด์ กริ๊ป อิควิปเม้นท์ หวังขยายตลาดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นายสมบุญ ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น (MATCH) เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2555 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จาก 317.46 ล้านบาท เป็น 535 ล้านบาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 217.54 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 210 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป (Public Offering) ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีก 7.54 ล้านหุ้น ใช้สำหรับรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (MATCH-W2)
วัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ MATCH จะนำไปใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนที่จะสร้างอาคารสำนักงาน สตูดิโอและอาคารจัดเก็บอุปกรณ์ เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานของบริษัทในกลุ่มทั้งหมด และเป็นสถานที่ถ่ายทำและจัดเก็บอุปกรณ์แทนสถานที่เดิม ซึ่งกลุ่มบริษัทเช่าใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ปลายปี 2556 และทยอยลงทุนในช่วงเวลา 1-2 ปี รวมเงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท นอกจากนี้มีแผนที่จะมีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในเติบโตในทุกด้าน และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ซึ่งจะทำให้ MATCH มีโอกาสในการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมประเภทงานและกลุ่มลูกค้ามากขึ้น และมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
รวมทั้งยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการให้เช่าสถานที่และอุปกรณ์ ส่งผลให้มีรายได้สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็จะช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในระยะยาวลงได้
"หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการเพิ่มทุนแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล หรือไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถสรุปราคาขายหุ้นได้ในช่วง เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2556 โดยจะมีส่วนลดจากราคากระดานให้กับผู้ลงทุนด้วย จากนั้นการก่อสร้างสตูดิโอครบวงจร จะเริ่มได้ภายในปลายปี 2556 เพื่อให้เสร็จทันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งทีมผู้บริหารเชื่อว่าจะเป็นโอกาสการเติบโตของ MATCH ในอนาคต เพราะการสร้างสตูดิโอและเมืองถ่ายหนังครบวงจรครั้งนี้ จะเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาค ที่จะสามารถรองรับทั้งการถ่ายกลางแจ้งและถ่ายในร่ม อีกทั้งยังมีเมืองใต้น้ำ เรียกได้ว่าพร้อมสรรพสำหรับทั้งงานทีวี อีเว้นท์ และการถ่ายหนัง เพื่อเป็นการรองรับการถ่ายทำจากทีมงานต่างชาติ ส่วนสถานที่ตั้งโครงการกำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ โดยจะใช้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการเจรจาซื้อที่ดินภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวก"
นายสมบุญ กล่าวอีกว่า หลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ สภาพคล่อง หรือ ฟรีโฟลทของหุ้น MATCH จะเพิ่มขึ้นจาก 11.5% เป็นมากกว่า 50% และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคปที่จะเพิ่มขึ้น และเข้าเกณฑ์ที่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศจะเข้ามาลงทุนได้ ประกอบกับในด้านของผลการดำเนินงาน ที่จะมีความโดดเด่นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 2556 นี้เป็นต้นไป หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างการบริหาร และบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงทุนขยายงานในธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์ ผ่านบริษัทเกียร์เฮด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ MATCH ที่ได้เข้าลงทุนซื้ออุปกรณ์ จาก บริษัท ซันไลท์ติ้ง แอนด์ กริ๊ป อิควิปเม้นท์ มูลค่าการซื้อทรัพย์สินประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งการเข้าลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทดังกล่าวมีลูกค้าอยู่แล้ว โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานในรูปแบบผลิตรายการโทรทัศน์ ละคร มิวสิควีดีโอ และการจัดกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นอีกตลาดหนึ่งที่ MATCH จะขยายธุรกิจออกไป โดยจะใช้แบรนด์ "แฮนดี้เกียร์" (Handy Gear) จึงเชื่อมั่นว่าหุ้น MATCH จะเป็นหุ้นที่มีอนาคต และให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนต่อไปอย่างแน่นอน