กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--IR PLUS
L&E เดินหน้าบุกตลาดหลอด LED ประหยัดพลังงานเต็มตัว หลังพบตลาดมีแนวโน้มเติบโตรวดเร็ว ตามกระแสรักษ์โลก คาดปี 59 ครองส่วนแบ่งถึง 45% ของหลอดไฟฟ้าทั้งระบบ "ปกรณ์ บริมาสพร" เผยพร้อมลุยทั้งตลาดค้าส่ง ค้าปลีกและองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความพร้อมอย่างดีทั้งโรงงานการผลิต เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าสมฐานะผู้นำในตลาดของไทยและอาเซียน คุยล่าสุด กฟภ.เล็งเห็นถึงความสำคัญของการประหยัดพลังงานได้เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอดประหยัดแล้วถึง 5 พันหลอด
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของไทยและภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายฐานตลาดหลอด LED ประหยัดพลังงานอย่างเต็มตัว ทั้งตลาดค้าส่ง ตลาดค้าปลีก และตลาดลูกค้าองค์กร หลังจากพบว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวกำลังได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากเป็นนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างล่าสุดและสามารถประหยัดพลังงานได้มากที่สุด สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ประกอบกับบริษัทฯ มีความพร้อมทั้งโรงงานการผลิต เทคโนโลยี รวมทั้งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ โดยได้สร้างโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์ LED ขึ้น ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นโรงงานแรกที่ผลิตหลอด LED ในประเทศไทย และพัฒนาสินค้าลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จนสามารถรองรับได้ทุกความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน
"ปัจจุบันเทคโนโลยี หลอดไฟLED ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพหลอดไฟเพิ่มสูงขึ้นและราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ LED ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้ประกอบการรวมทั้งสถาบันต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่างคาดการณ์กันว่าภายในปี 2559 ผลิตภัณฑ์ LED จะมีส่วนแบ่งตลาดถึง 45% ของตลาดผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างทั้งหมด ซึ่งหมายถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลอด LED ซึ่ง L&E ฐานะผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างของไทยและภูมิภาคอาเซียน เล็งเห็นถึงโอกาสดังกล่าวและพร้อมจะรองรับกับทุกความต้องการของลูกค้า ทั้งกลุ่มค้าส่ง กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น บริษัทฯ กำลังจะสร้างโรงงานแห่งใหม่ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปี 2557 เพื่อรองรับกับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย"
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่ได้เข้ามาให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการเปลี่ยนหลอดไฟมาใช้หลอด LED ที่ประหยัดพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนหันมาสนใจการประหยัดพลังงานด้วยการหันมาใช้หลอดประหยัดไฟกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าแสงสว่างแล้วยังสามารถ ช่วยรัฐลดการลงทุนด้านโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่งรวมถึงการลดปัญหาด้านสิ่งแวด ล้อมได้อีกด้วย โดยล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ประกาศนำร่องโครงการเปลี่ยนหลอดไฟภายในสำนักงานใหญ่ให้เป็นอาคารภาครัฐแบบอย่างด้านการประหยัดพลังงานและตั้งเป้าขยายผลการประหยัดพลังงานไปยังสำนักงานการไฟฟ้าทั่วประเทศ และได้ไว้วางใจซื้อผลิตภัณฑ์หลอดประหยัดพลังงานประเภท LED พร้อมติดตั้งภายในสำนักงานใหญ่จำนวน 5,000 หลอดจาก L&E และมีนโยบายจะซื้อและติดตั้งให้ครบจำนวน 200,000 หลอดทั่วประเทศภายในปี
"ความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากด้านการผลิต จะทำให้สามารถขยายตลาดได้อย่างคล่องตัวในทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายจะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น ครอบคลุม ครบทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มลูกค้าโครงการของทั้งภาครัฐและเอกชน กลุ่มธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ส่งออก และกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคทั่วไป และสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ L&E สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปีนี้และระยะ 3 - 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยในอัตราปีละ 15 - 20%"
นายปกรณ์กล่าว