ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ “บ. ผลิตไฟฟ้าขนอม” เป็น “AA-” จากเดิม “A+” พร้อมแนว โน้ม “Stable”

ข่าวทั่วไป Thursday October 28, 2004 09:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกัน 7,500 ล้านบาทของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (เค็กโก้) เป็น “AA-” จาก “A+” อันเป็นผลมาจากความสามารถของเค็กโก้ในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าที่ดีกว่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง อันดับเครดิตยังสะท้อนปัจจัยพื้นฐานของโครงการที่แข็งแกร่ง และความสำคัญของบริษัทในฐานะเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักสำหรับภาคใต้ของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จุดเด่นเหล่านี้ถูกลดทอนด้วยความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการแปรรูปอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคต ในขณะเดียวกัน แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงได้รับกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนอม และคาดว่าโรงไฟฟ้าขนอมจะสามารถบรรลุผลการดำเนินงานตามเป้าหมายที่กำหนดไว้และจะยังคงรักษาสถานะทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่าเค็กโก้จัดตั้งในปี 2538 เพื่อซื้อโรงไฟฟ้าขนอม ขนาด 824 เมกะวัตต์ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และมีฐานะเป็นบริษัทย่อยซึ่งถือหุ้น 100% โดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (เอ็กโก้) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ กฟผ. โดย กฟผ. ถือหุ้น 25% ในเอ็กโก้ การจัดตั้งเอ็กโก้และเค็กโก้เป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มโครงการแปรรูปกิจการไฟฟ้าของ กฟผ. โรงไฟฟ้าขนอมตั้งอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนบนเรือ 2 ชุด ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 150 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 1 ชุด ซึ่งมีกำลังการผลิต 674 เมกะวัตต์
ทริสเรทติ้งกล่าวว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง กฟผ. และเค็กโก้มีการออกแบบที่ดี อายุสัญญาที่นานถึง 15-20 ปีช่วยลดความเสี่ยงทางการตลาดทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟฟ้าและความต้องการใช้ไฟที่ลดลง รายได้ค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่ซึ่งมาจากการดำรงความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง ในขณะที่โครงสร้างค่าไฟฟ้าที่ประกอบด้วยต้นทุนบวกกำไรช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟ ความได้เปรียบในการแข่งขันของโครงการมาจากการที่ที่ตั้งของโรงไฟฟ้าอยู่ในพื้นที่ที่การใช้ไฟฟ้าเติบโตอย่างต่อเนื่องและการเป็นแหล่งผลิตหลักเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าในภาคใต้ การผลิตไฟฟ้าของเค็กโก้คิดเป็นสัดส่วน 60% โดยประมาณของการผลิตทั้งหมดของภาคใต้ การเดินเครื่องโรงไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านความพร้อมจ่ายและอัตราการเผาไหม้เชื้อเพลิง เทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว ประกอบกับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญซึ่งโอนย้ายมาจาก กฟผ. ช่วยลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีและจากการดำเนินงาน ในขณะที่ผู้ซื้อไฟฟ้ารับภาระความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาเชื้อเพลิงผ่านทางค่าพลังงานไฟฟ้า
ผลประกอบการของเค็กโก้ในปี 2546 อยู่ในระดับที่น่าพอใจเนื่องจากโรงไฟฟ้ายังคงรักษาความพร้อมจ่ายในระดับสูงได้ที่ 94.89% เงินทุนจากการดำเนินงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างคงที่ที่ประมาณ 1,900-2,100 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่สัดส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงเป็น 63% ณ สิ้นปี 2546 จาก 72% ในปี 2543 บัญชีสำรองเพื่อการชำระหนี้ ณ สิ้นปี 2546 มีมูลค่ารวมกันถึง 2,649 ล้านบาท อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ของเค็กโก้อยู่ที่ 1.75 เท่าในปี 2546 ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำที่ระดับ 1.1 เท่า นอกจากนี้ ข้อกำหนดทางกฎหมายและทางการเงินที่รัดกุมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการชำระหนี้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ด้วย
เนื่องจาก กฟผ. เป็นผู้ซื้อไฟฟ้าเพียงรายเดียวของเค็กโก้ ดังนั้น ฐานะทางการเงินและอันดับเครดิตของ กฟผ. จึงมีผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถในการชำระหนี้ของเค็กโก้ ในขณะที่การแปรรูป กฟผ. และการปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้าทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสถานภาพของ กฟผ. ในอนาคต รวมทั้งความกังวลในเรื่องของการสนับสนุนของภาครัฐที่มีต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ กฟผ. ทำไว้กับผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ