กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--สตาร์ มีเดีย เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแตนท์
นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อกลางปี 2543 นายธนัย ชรินทร์สาร วิศวกรของบริษัทฯได้คิดค้นออกแบบ “ แผ่นพื้นลอนคู่ดีคอน ”
รุ่นใหม่ขึ้น โดยมีคุณสมบัติข้อดี คือ สามารถประหยัดต้นทุนการผลิตได้ ต่อมาในวันที่ 1 มีนาคม 2544
บริษัทฯ ได้นำรูปแบบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวซึ่งผ่านการทดสอบอย่างดีแล้ว ไปดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตรที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และได้ทำการทุ่มโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อโฆษณาหลายฉบับพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2544 จากนั้นก็ได้ผลิตและจำหน่ายสินค้าจนเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2544 ได้ทราบข่าวจาก บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ผลิตแผ่นพื้นรายใหญ่อีกรายหนึ่งใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า “แผ่นพื้นพีซีเอ็ม”กำลังจะผลิตสินค้ารูปแบบเดียวกันกับ “ แผ่นพื้นลอนคู่ดีคอน ” ที่บริษัทฯ ได้จดสิทธิบัตรไว้ บริษัทฯจึงได้ออกจดหมายเตือนให้ละเว้นการลอกเลียนแบบ และได้แสดงถึงรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่บริษัทคิดค้นขึ้นถึงกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ. เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ฯ แต่กรรมการและผู้ถือหุ้น บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ กลับเพิกเฉยต่อหนังสือของบริษัทดังกล่าว อีกทั้งยังได้จดทะเบียนบริษัทขึ้นใหม่ใช้ชื่อว่าบริษัท พีซีเอ็ม คอนสตรัคชั่น แมททีเรียล จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท และเดินหน้าผลิตแผ่นพื้นละเมิดสิทธิบัตรต่อไป โดยที่บ้านในโครงการเกือบทุกหลังของ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ กับบริษัทในเครือก็ถูกสั่งให้เปลี่ยนมาใช้แผ่นพื้นรูปแบบใหม่ดังกล่าว อีกทั้งเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์
“แผ่นพื้นลอนคู่ดีคอน” ของบริษัทเป็น “แผ่นพื้นสามขาพีซีเอ็ม” ปริมาณการผลิตและการนำไปใช้งานในช่วงสามปีครึ่งที่ผ่านมา“แผ่นพื้นสามขาพีซีเอ็ม” ถูกจำหน่ายให้กับโครงการของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บริษัทในเครือฯ และโครงการจัดสรรทั่วไปมากกว่าสองล้านตารางเมตร
ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นดีคอนโปรดักส์ บริษัทฯจึงมีความจำเป็น ต้องฟ้องร้องเรียกค่า เสียหายจากบริษัท พีซีเอ็ม คอนสตรัคชั่น แมททีเรียล จำกัด ในส่วนที่บริษัทฯ ต้องสูญเสียกำไรจากการจำหน่ายแผ่นพื้นจำนวนดังกล่าวในช่วงสามปีครึ่งที่ผ่านมา ในอัตราตารางเมตรละ55 บาท โดยคำนวณจากตารางเมตรที่จำหน่ายและผลประกอบการของ DCON ตลอดจนเรียกค่า เสียหายดอกเบี้ยและค่าเสียหายในการแข่งขันด้านราคาและค่าเสียหายอื่นๆ รวมมูลค่าฟ้องทั้งสิ้น 210 ล้านบาท และหากพีซีเอ็มหยุดละเมิดสิทธิบัตรตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป น่าที่จะส่งผลบวกให้ “แผ่นพื้นลอนคู่ดีคอน” ของบริษัทมียอดขายที่ดีขึ้น และการแข่งขันด้านราคาหมดไป ซึ่งยอดขายในส่วนของแผ่นพื้นดีคอนทั้งหมดในสองไตรมาสปีนี้ บริษัทฯ มียอดจำหน่ายสูงถึง 896,959 ตารางเมตรและสามารถทำกำไรสุทธิสองไตรมาส ในส่วนของแผ่นพื้นได้สูงถึง 49.9 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกำไรสุทธิ ในส่วนของเสาเข็มบ้านพักอาศัย และกำไรในบริษัทย่อยอีกจำนวน 28.4 ล้านบาท อันเป็นผลประกอบการมีกำไรรวมสองไตรมาสที่ผ่านมานี้ทั้งสิ้น 78.41 ล้านบาทหรือ 0.49 บาทต่อหุ้น จากราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท นายวิทวัสกล่าวในที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ...
วิชชุดา ทองสุทธิ์ , อุบลราช ชาตรี
บริษัท สตาร์ มีเดีย เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร. 0-2951-3531 , 0-2951-2822 มือถือ (09) 776-0790
แฟกซ์ 0-2951-2822--จบ--